จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ พื้นที่โฆษณา Google เปลี่ยนไป!

ขึ้นชื่อว่าเป็นยักษ์ใหญ่ หรือเทพแห่งโลกออนไลน์ ที่ทรงอิทธิพลต่อชีวิตชาวเน็ตมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง  คงต้องยกให้ Google เสิร์ชเอนจิ้นตัวพ่อ ที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลก ในสังคมไทยเองก็ยังผูกพันกับ Google อย่างมากมาย วันๆ หนึ่งต้องมีอย่างน้อย 1 คลิก ที่เราต้องเข้าใช้ Google โดยเฉพาะเป็นแหล่งเรียนรู้ ค้นหาข้อมูลข่าวสารและทุกสิ่งในโลกใบนี้ ที่ถูกย่อมาอยู่ในมือเราได้อย่างง่ายดาย ด้วย Google Search ซึ่งมีข้อมูลอยู่อย่างมหาศาล ที่ผมขอเรียกว่า มหาศาลระยะอนันต์ เพราะไม่มีขอบเขตและจุดสิ้นสุดจริงๆ

แบบเก่ามีทั้งหมด 14 ตำแหน่ง

แบบเก่ามีทั้งหมด 14 ตำแหน่ง

แน่นอนว่า รายได้หลักของ Google มาจากโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ทองคำ ที่นักการตลาดผู้ประกอบการและเจ้าของกิจการ ต่างก็หันมาใช้ Google เป็นช่องทางหลักในการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง อย่างไรก็ตาม อะไรจะเกิดขึ้น! ที่อยู่ๆ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา Google ประกาศนโยบายใหม่ ลดพื้นที่โฆษณาตัวเอง!

จากเดิมมีทั้งหมด 14 ตำแหน่ง ประกอบด้วย ด้านบน 3 ตำแหน่ง ด้านล่าง 3 ตำแหน่ง ด้านข้าง 8 ตำแหน่ง ตอนนี้ Google ประกาศ ตัดโฆษณาด้านข้างออกหมด แต่เพิ่มด้านบนอีก 1 ตำแหน่งเป็น 4 ตำแหน่ง รวมด้านล่างอีก 3 ตำแหน่ง ทำให้ตอนนี้เหลือตำแหน่งโฆษณาทั้งหมด 7 ตำแหน่ง

ถือเป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายอย่างมีนัยยะสำคัญของ Google ที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาด ส่งสัญญาณครั้งใหม่ ทำให้วงการดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งตื่นตัว และต้องปรับตัวให้ก้าวทันเทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่นี้โดยเร็ว

ความเคลื่อนไหวนี้ บอกอะไรกับเรา? แฝงนัยยะ เทรนด์ หรือทิศทางอะไร ให้เราต้องเร่งปรับตัว หรือไม่? ผมขออนุญาตวิเคราะห์จากมุมมองของนักการตลาดออนไลน์ และแชร์ให้พวกเราฟังอย่างนี้ครับ

แบบใหม่มีทั้งหมด 7 ตำแหน่ง

แบบใหม่มีทั้งหมด 7 ตำแหน่ง

  • ลดเพื่อเพิ่ม : Google ปรับพื้นที่โฆษณาด้วยการลดและเพิ่มตำแหน่งใหม่ในคราวเดียวกัน ทุกคนเห็นแบบนี้มักจะคิดว่าพื้นที่โฆษณาหายไป ค่าคลิกต้องแพงขึ้นแน่นอน แต่หากเรามองดีๆ Google เพิ่มพื้นที่ด้านบนอีก 1 ตำแหน่ง จากเดิม 3 ตำแหน่งกลายเป็น 4 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้สำหรับการแสดงผลบนโทรศัพท์มือถือ จากเดิมที่มีด้านบนด้านล่างรวมกัน 6 ตำแหน่ง ก็เพิ่มเป็น 7 ตำแหน่ง ทำให้มีพื้นที่โฆษณาเพิ่มขึ้น 16.66 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว

    นับเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำตลาดออนไลน์บน Google ให้กับผู้ประกอบการมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในอนาคต ซึ่งต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่นิยมเข้าใช้เน็ตบนมือถือ และนิยมค้นหาสินค้าผ่านทางมือถือมากขึ้นตามไปด้วย ถึงตรงนี้ ต้องยอมรับว่า Google มองเกมขาด! สมกับที่เป็นผู้นำตลาด กล้าที่จะเปลี่ยนตัวเองก่อน ถูกตลาดกดดันให้ต้องเปลี่ยน เป็นแนวคิดของการลดเพื่อเพิ่มที่น่าสนใจจริงๆ ครับ
  • e207

    ฉบับที่ 207 เดือนมีนาคม

    แพลตฟอร์มต่อไปของอีคอมเมิร์ซ

  • เตรียมทำเว็บฯ ใหม่ได้เลย : เพราะต่อไปทุกเว็บไซต์ต้องรองรับการแสดงผลบนโทรศัพท์มือถือ จากการที่ Google ปรับเปลี่ยนตำแหน่งการแสดงผลดังกล่าว เป็นการตอกย้ำให้เรารู้ว่าคนทั่วโลกนิยมค้นหาสินค้าผ่านสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ โดยจากการสำรวจพบว่า เว็บไซต์ในประเทศไทยเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ยังเป็นเว็บไซต์แบบเก่าที่ไม่ฟิตกับหน้าจอมือถือ จึงเป็นอุปสรรคหนึ่งที่ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับปรุงโดยเร็ว
  • การทำ SEO ต้องเข้มข้นมากขึ้น : เมื่อ Google เพิ่มพื้นที่โฆษณา ก็หมายความว่า ต้องไปลดพื้นที่ในส่วนของ SEO ซึ่งเดิมมีทั้งหมด 10 ตำแหน่ง ตอนนี้เหลือ 9 ตำแหน่ง หรือลดลงไป 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกระทบกับผู้ที่ทำ SEO เดิม เรียกง่ายๆ ว่าลดคนลงโฆษณาฟรีไป 1 คน ก็แปลว่าจะเพิ่มคนมาลงโฆษณาเสียเงินเพิ่มขึ้น 1 คน เพราะคนที่เคยทำ SEO (หรือการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับสูงๆ ในการค้นหาบน Google) แล้วเว็บฯ ตัวเองหายไป ก็ต้องปรับกลยุทธ์วางแผนการทำโฆษณาใหม่เพื่อไม่ให้ยอดขายตก

สรุป
ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีให้กับผู้ประกอบการ หรือเจ้าของธุรกิจ ได้ไหวตัวและสปีดตัวเอง ให้ทันกับเทรนด์ของการตลาดออนไลน์ที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เมื่อยักษ์อย่าง Google ยังขยับ เราจะนอนหลับอยู่ได้อย่างไร ตราบใดที่โลกออนไลน์และโซเชียลฯ ได้กลายเป็นลมหายใจในการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคดิจิทัลไปเสียแล้ว ปรับตัวก่อนใคร มีชัยไปกว่าครึ่งนะครับ วันนี้เริ่มง่ายๆ สำรวจที่เว็บไซต์ของคุณก่อนว่า รองรับการแสดงผลบนสมาร์ทโฟนแล้วหรือยัง แล้วฉบับหน้า ผมมีทริคเรื่องการทำเว็บไซต์ให้โดนมาเล่าสู่กันฟังครับ

You may be interested in

Latest post from Facebook

Related Posts

Google Plus จะปิดตัวสิงหาฯปีหน้านี้

กูเกิลพลัสสำหรับบุคคลทั่วไปจะถูกปิดตัวสิงหาฯปีหน้า เหลือ Google+ สำหรับลูกค้าบริษัทองค์กรไว้ เพราะมีสถิติการใช้งานน้อยนิด