การใช้เทคโนโลยีคลาวด์, IoT, Big Data รวมถึงแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิทัล ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จะได้มาซึ่งวิธีการที่จะนำไปสู่การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นขององค์กร
โลกกำลังก้าวเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ องค์กรธุรกิจต่างตื่นตัวรับมือกับการแข่งขัน ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาองค์กร หรือที่เรียกว่า ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยมีกระแสของ IoT และ AI เป็นจุดเปลี่ยนผ่านสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรม
นำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น สร้างนวัตกรรมใหม่
โยชิคูนิ ทาคาชิเกะ รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ทางด้านการตลาด บริษัท ฟูจิตสึ ลิมิเต็ด จำกัด กล่าวว่า องค์กรหลากหลายอุตสาหกรรมเริ่มปรับตัวและลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีมากขึ้น ขณะที่การเปลี่ยนผ่านข้อมูลดิจิทัล เปรียบเสมือนกระแสของเทคโนโลยีขนาดยักษ์ที่กำลังถาโถมสู่มนุษย์ ปัจจุบันมี 4 กระแสดิจิทัลที่สำคัญ ได้แก่ 1. อินเทอร์เน็ต 2. โมบายล์อินเทอร์เน็ต 3. Internet of things (IoT) และ 4. Artificial Intelligence and Robots (AI) ที่ผู้คนเริ่มกังวลถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม

4 กระแสดิจิทัลที่สำคัญ ได้แก่ 1. อินเทอร์เน็ต 2. โมบายล์ อินเทอร์เน็ต 3. Internet of things (IoT) และ 4. Artificial Intelligence and Robots (AI)
เพื่อให้องค์กรธุรกิจสามารถนำทุกองค์ประกอบมาหลอมรวมกัน และนำไปสู่การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟูจิตสึ ได้สร้างแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิทัล ในชื่อ MetaArc ซึ่งใช้ระบบคลาวด์ในการรวบรวมข้อมูลจาก 4 คลื่นที่กล่าวไปข้างต้น ในการทำการวิเคราะห์ Big Data เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ และใช้ AI สำหรับการบริหารจัดการที่เหมาะสม จนนำไปสู่การใช้ Robot ที่สามารถทำการตัดสินใจทำงานได้ด้วยตัวเอง ช่วยสร้างประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในกระบวนการผลิตที่เหมาะสม รวมไปถึงสินค้าทางการตลาด ด้วยจุดแข็งด้านขอบข่ายธุรกิจที่หลากหลาย จึงสามารถเชื่อมโยงสินค้าและบริการที่มีในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้
“ยกตัวอย่าง เช่น โซลูชั่น Intelligent Dashboard ที่มีการใช้ IoT ในการเชื่อมโยงสิ่งของ หรือเครื่องจักรที่อยู่ในทุกๆ โรงงานในโลก เพื่อรับรู้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และทำการบริหารจัดการหรือการผลิตที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ IoT สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างเป็นรูปธรรม และนอกจากการใช้เทคโนโลยีบนพื้นฐานที่มีในการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นแล้ว ฟูจิตสึ ยังให้ความสำคัญกับ Human Centric Innovation หรือการมองมนุษย์เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาวิจัย เพื่อเชื่อมโยงมนุษย์ ข้อมูล และสิ่งของเข้าด้วยกันอีกด้วย” โยชิคูนิ กล่าว
การตัดสิน ใจทางธุรกิจ และใช้ AI สำหรับการบริหารจัดการที่เหมาะสม จนนำไปสู่การใช้ Robot ที่สามารถทำการตัดสินใจทำงานได้ด้วยตัวเอง ช่วยสร้างประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
การมาถึงของ AI และ Robot สู่การปฎิวัติอุตสาหกรรม
AI จะมีบทบาทสำคัญอย่างมาก ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ และจัดทำโปรเจ็กต์ที่ร่วมมือกับทีมคณิตศาสตร์ เพื่อทดสอบว่า Robot จะสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยโตเกียวได้หรือไม่ และ AI สามารถทำได้ ซึ่งเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการคาดการณ์ของฟูจิตสึ ทำให้ Robot มีกระบวนการคิดที่ซับซ้อนกว่าคอมพิวเตอร์ และตอบคำถามคณิตศาสตร์ได้
“ที่กังวลกันว่า AI จะส่งผลกระทบอันน่ากลัวกับมนุษย์ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย แต่การใช้งาน AI ในปัจจุบัน ยังเป็นเรื่องเฉพาะทางมากกว่า หลังจากนี้ AI จะต้องมีการรวบรวมข้อมูล เพื่อสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้มากขึ้น และเมื่อ AI พัฒนาไปถึงจุดที่สามารถคิดได้เองมากขึ้น ผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ประชาชน หรือหน่วยงานวิชาการ อาจจะต้องมีการร่วมมือกัน เพื่อคิดถึงจริยธรรมของ AI และนั่นจะเป็นอนาคต” โยชิคูนิ กล่าว
การผลิต โลจิสติกส์ แพทย์ นำร่องใช้ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น
ในระดับโลก องค์กรที่นำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นเข้ามาใช้ อย่างเช่น ระบบซื้อสินค้าหรืออาหารที่ใช้เพียงฝ่ามือ ซึ่งใช้งานจริงในโรงเรียนที่มอสโก ประเทศรัสเซีย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการซื้อสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตรเครดิต
ด้านอุตสาหกรรมรีเทล อย่างบริษัทจำหน่ายสินค้าแฟชั่นทั่วโลก สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อนำไปจัดเลย์เอาท์ของร้านค้า ตลอดจนการสร้างโปรโมชั่นที่ลูกค้าต้องการ ตามลักษณะของลูกค้าแต่ละราย ตอบโจทย์รสนิยม และความต้องการเฉพาะบุคคลได้

แพลตฟอร์มธุรกิจดิจิทัล ใช้ระบบคลาวด์ในการรวบรวมข้อมูลทำการวิเคราะห์ Big Data เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ และใช้ AI สำหรับการบริหารจัดการที่เหมาะสม จนนำไปสู่การใช้ Robot
ขณะที่บริษัทผู้ผลิตระดับโลก ออมรอน มีการเชื่อมโยงทุกขั้นตอนการผลิตของโรงงานด้วย IoT (Internet of Things) ทำให้ทุกกระบวนการสามารถควบคุมด้วยสายตาได้ และสามารถวิเคราะห์ แยกแยะ ระหว่างกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ กับกระบวนการผลิตที่ไม่มีประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถเพิ่มผลิตภาพ (Product Activity) ได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์
ด้านตลาดหลักทรัพย์ มีการนำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นมาใช้เช่นเดียวกัน โดยตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ร่วมมือกับฟูจิตสึ ในการยกระดับการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ได้ดีที่สุด ด้วยความเร็วในการซื้อ-ขายตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3 เท่า อันเป็นการช่วยยกระดับความสามารถทางการแข่งขันให้กับตลาดหลักทรัพย์
![]() |
ฉบับที่ 217 เดือนมกราคมเรียนรู้ชีวิตดิจิทัล เยาวชน 4.0
|
“เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ยกตัวอย่างการร่วมมือที่ประเทศสิงคโปร์ ในการจัดตั้งองค์กรขึ้นระหว่าง ฟูจิตสึ กรมเทคโนโลยีสารสนเทศ และมหาวิทยาลัยการบริหารจัดการ โดยนำโซลูชั่นการรับรู้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อทำการวิเคราะห์ ให้ได้มาซึ่งทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องการจราจรบนทะเล เนื่องจากท่าเรือในสิงคโปร์ มีจำนวนเรือปริมาณมาก และมีความเสี่ยงที่จะชนกันตลอดเวลา” โยชิคูนิ กล่าว
ในโตเกียว มีบริการ SPATIOWL ที่เชื่อมโยงข้อมูลของรถแท็กซี่กว่า 4 พันคัน ที่วิ่งอยู่ในเมือง ด้วยระบบเซ็นเซอร์และทำการควบคุมแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลของถนน รถไฟฟ้า รวมถึงสถานีเติมน้ำมันอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถซ้อนข้อมูลที่มีอยู่เป็นชั้นๆ ขึ้นมาได้ เช่น ข้อมูลด้านสภาพอากาศ หรือข้อมูลจากโซเชียล-มีเดีย อย่างทวิตเตอร์ ขณะที่ในประเทศอินโดนีเซีย มีการนำหลักการเดียวกันนี้ไปใช้ในการช่วยลดปริมาณและบริหารจัดการการติดขัดของรถยนต์ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทางด่วน หรือหน่วยงานที่ควบคุมการบริหารจัดการทางด่วน

Human Centric Innovation หรือการมองมนุษย์เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาวิจัย เพื่อเชื่อมโยง
มนุษย์ ข้อมูล และสิ่งของเข้าด้วยกัน
“ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญ การพัฒนาดิจิทัลทรานส์- ฟอร์เมชั่นจะเริ่มเกิดขึ้นในภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทย รวมถึงภาคโลจิสติกส์ นอกจากนี้ ยังเห็นโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยจะเห็นได้จากการมีโรงพยาบาลใหญ่หลายแห่ง ซึ่งอุตสาหกรรมการรักษาพยาบาลในไทยเป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นแล้วการนำดิจิทัลทรานส์- ฟอร์เมชั่นมาใช้ เป็นทางเลือกที่น่าจะสามารถทำและต่อยอดได้” โยชิคูนิ กล่าว
ประเทศไทยกำลังพัฒนาเพื่อก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 จะเป็นโอกาสที่ทำให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ใช้ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นเพิ่มมากขึ้นในอนาคต