ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงองค์กรธุรกิจ Digital Transformation โดยมีเทคโนโลยีเป็นปัจจัยหลัก เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรมก็มีผลกระทบของพายุดิจิทัล หรือ “Digital Vortex” ที่ต่างกัน จากการขยายตัวของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเกิดขึ้นของธุรกิจ Startup จำนวนมากที่มีเงินทุนแข็งแกร่ง และการเติบโตของธุรกิจยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น Alibaba และ Tencent
จากข้อมูลการคาดการณ์ในปี 2015 มาสู่ปัจจุบันปี 2017 ซิสโก้ เผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจสื่อและบันเทิง เป็นปีที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์ โซเชียลมีเดีย ทีวี เพลง และภาพยนตร์ ระดับการแข่งขันระหว่างยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม เช่น ผู้ผลิตคอนเทนต์ ค่ายเพลง สำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่ายคอนเทนต์ และอื่นๆ ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ส่วนผู้เล่นรายใหม่อย่างเช่น Amazon และ Facebook รวมไปถึงยักษ์ใหญ่รายใหม่ๆ อย่างเช่น Netflix ก็ได้สร้างแรงกดดันเพิ่มเติมภายในอุตสาหกรรมนี้เช่นกัน
สำหรับธุรกิจค้าปลีกก็นับว่ามีการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยเลยทีเดียว เกิดเครื่องมือด้านการตลาดดิจิทัลที่ก้าวล้ำ ประกอบกับผู้ค้าปลีกออนไลน์ เช่น Amazon และ Alibaba มีอำนาจเพิ่มมากขึ้น หรือเรื่องของภาคการเงินเองกำลังขยับไปสู่สังคมไร้เงินสด ผู้คนหันไปใช้จ่ายผ่านมือถือกันบ้างแล้ว เห็นจากการปิดตัวธนาคารหลายสาขา สร้างความกังวลใจให้กับหลายองค์กรต้องเร่งวางแผนเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว
แนวทางที่หลายฝ่ายคิดว่าเป็นทางออกที่ดีคือการมุ่งไปสู่คลาวด์ และอุปกรณ์ IoT คาดว่าจะมีการเติบโตของจำนวนอุปกรณ์มากกว่าจำนวนประชากรทั่วโลก สวนทางกับสมาร์ทโฟนที่โตน้อยลง แต่ว่าจะได้รับข้อมูลผ่านมือถือเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเข้าถึงแอพพลิเคชั่น โดยปีหน้าคนไทยจะเห็นและจับต้องได้มากขึ้นสำหรับอุปกรณ์ IoT
ทั้งนี้ ได้ยกตัวอย่างองค์กรธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงธุรกิจด้วยการใช้เทคโนโลยีตรงจุด อย่างเช่น ธุรกิจปูนซีเมนต์ไทย นำระบบ IoT เกี่ยวกับการวัดระยะระเบิดเขาโดยการใช้โดรนยิงภาพ 3 มิติ ประเมินสิ่งที่จะได้ หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ ใช้ระบบ TeleInterpreter ช่วยแปลภาษาจากระยะไกลผ่านวีดิโอคอล รองรับผู้ป่วยได้ทุกชาติทุกภาษา เป็นต้น
สิ่งที่ซิสโก้ทำเป็นการให้บริการในเรื่องของเน็ตเวิร์ค โดยปีหน้าจะโฟกัสไป 5 ด้าน ได้แก่ Reinven Networking เป็นการเปลี่ยนระบบเน็ตเวิร์คใหม่ เป็นระบบอัตโนมัติ เช่น เชื่อมต่อกับ IoT โดยไม่ต้องติดตั้งทุกๆ ชิ้นอุปกรณ์, Multi – Cloud แพล็ตฟอร์มเชื่อมต่อหลายๆ คลาวด์เข้าด้วยกัน, Data Center แพล็ตฟอร์มรวบรวมข้อมูล คัดเลือกข้อมูล ก่อนเข้าไปที่ดาต้าเซ็นเตอร์ ประหยัดค้าใช้จ่ายในการซื้อพื้นที่เก็บข้อมูล, Customer Experience พัฒนาระบบต่างเปลี่ยนการทำงานรูปแบบเดิม และ Security ระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
จากการแถลงข่าวในครั้งนี้ ทางซิสโก้มุ่งเน้นไปทางคลาวด์กับ IoT เป็นหลัก ซึ่งไม่ต่างจากเจ้าอื่นๆ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน เพราะในอนาคตจะมีอุปกรณ์ IoT และปริมาณ Data เพิ่มขึ้นอีกมหาศาลทั่วโลก จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางสำหรับองค์กรที่โดนกระทบกระแสพายุดิจิทัล และองค์กรที่กำลังหาเทคโนโลยีเพื่อ Disruption ธุรกิจของตน