สาวๆ ทั้งหลายคงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อ “Alwaysfluke” หรือฟลุค ชูสุวรรณ อย่างแน่นอน เพราะเขาเป็นทั้งเมคอัพอาร์ติสและบิวตี้กูรูชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทย นอกจากจะรับแต่งหน้าเจ้าสาวทั่วราชอาณาจักรแล้ว ยังมีผลงานการแต่งหน้าให้กับนางแบบนิตยสาร โฆษณา รวมทั้งเปิดเวิร์กชอปแต่งหน้าร่วมกับแบรนด์ดังๆ ที่สำคัญคือเขาคนนี้ยังคอยอัพเดตเทรนด์ด้านความสวยความงาม พร้อมทั้งรีวิวผลิตภัณฑ์เพื่อความงามผ่านบล็อก Alwaysfluke.com อีกด้วย
ทำความรู้จักกับ AlwaysFluke
ฟลุค เป็นศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังเรียนจบปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ได้เข้าทำงานเป็นอาจารย์ภาควิชาบริหาร ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีและมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และยึดอาชีพอาจารย์อยู่ถึง 8 ปี ก่อนจะลาออกมาเพื่อเป็นเมคอัพอาร์ติสจนถึงปัจจุบัน
“กว่า 7 ปีที่แล้ว ที่เข้ามาอยู่ในวงการการแต่งหน้าอย่างเต็มตัว แต่ถ้าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้น ต้องบอกว่าตัวเองเป็นคนชื่นชอบในศิลปะ และสนใจการวาดภาพมาตั้งแต่เด็ก ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือปิดเทอมก็เลือกเรียนพิเศษวิชาศิลปะ ผิดจากเพื่อนคนอื่นที่มักจะเลือกเรียนวิชาสามัญ เมื่อเข้ามหาลัย ชุมนุมศิลปะการแสดงจึงเปรียบเสมือนเวทีแรกให้ได้แสดงความสามารถในการแต่ง หน้า แล้วก็ทำได้ดีจนรุ่นพี่หลายคนจ้างไปแต่งหน้าในวันรับปริญญา การรับจ้างแต่งหน้าให้รุ่นพี่เหล่านี้จึงเปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายเมคอัพอาร์ติส” ฟลุค เล่าถึงการก้าวเข้ามาสู่วงการเมคอัพอาร์ติส
ก่อนจะเป็นผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์
ใน ช่วงแรก ฟลุค เริ่มจากตอบกระทู้ในห้องโต๊ะเครื่องแป้งเว็บไซต์พันทิพก่อน แล้วค่อยเริ่มตั้งกระทู้เอง แต่การเขียนกระทู้ของฟลุคสมัยนั้นเรียกได้ว่ามีสไตล์ความคิดที่แตกต่างจาก ผู้อื่นอยู่พอสมควร จึงกลายเป็นที่จดจำของสมาชิกห้องโต๊ะเครื่องแป้งในขณะนั้น เมื่อผลงานในพันทิปมีมากขึ้น และกระทู้เก่าถูกดันหายไป เขาจึงสร้างบล็อกขึ้นมาเพื่อรวบรวมผลงานต่างๆ ไว้ในที่เดียว
ฟลุค ยอมรับว่า ระยะแรกผลตอบรับจากคนอ่านไม่ดีนัก เนื่องจากเขามักจะลงรูปเฉพาะเวลาแต่งหน้าเสร็จ ประกอบกับการแต่งหน้าของเขามีเอกลักษณ์ที่ดึงความเป็นธรรมชาติออกมา ทำให้คนอ่านไม่เข้าใจความแตกต่างก่อน-หลังแต่งหน้า เมื่อเขาเห็นผลตอบรับลักษณะนี้จึงเปลี่ยนสไตล์ของคอนเทนต์เป็นการลงภาพ Before-After ก่อนแต่งหน้าและหลังแต่งหน้า เพื่อให้ผู้อ่านเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
“หลังลงรูปแบบ Before-After ปรากฏว่า ผลการตอบรับดีมาก สมัยก่อนถึงกับมีคนเอารูปไปทำเป็น Forward Mail แล้วตั้งหัวข้อว่า ‘แต่งหน้าเก่งหรือรีทัชเก่ง’ ซึ่ง Forward Mail นั้นถูกส่งต่อกันออกไปเยอะมาก แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครจับผิดได้เพราะเราไม่ได้รีทัช ช่วงนั้นทำให้คนรู้จักชื่อเราเพิ่มมากขึ้นโดยไม่รู้จักหน้าเราด้วยซ้ำ”
สำหรับฟลุคแล้ว เขาเป็นทั้งบล็อกเกอร์และเมคอัพอาร์ติส เนื่องจากเมคอัพอาร์ติสคืออาชีพที่หาเงินเลี้ยงชีวิต ส่วนบล็อกเกอร์ก็เป็นช่องทางที่ทำให้คนทั่วไปรู้จักเขาในฐานะช่างแต่งหน้า ซึ่งส่วนใหญ่เขามักจะแต่งหน้าเจ้าสาวเป็นหลัก และเจ้าสาวเหล่านี้ก็รู้จักเขาผ่านอินเทอร์เน็ตทั้งสิ้น เพราะไม่ว่าจะแนะนำกันปากต่อปากอย่างไร คนก็ต้องดูผลงานผ่านออนไลน์อยู่ดี
ฉบับที่ 197 เดือนพฤษภาคมกระเป๋าเงิน Virtual เชื่อมเศรษฐกิจดิจิตอล |
มีคอนเทนต์ที่ชัดเจน
อาชีพช่างแต่งหน้า ในมุมมองของผู้คนบางส่วนเป็นอาชีพที่ไม่ได้รับการยอมรับ เขาเหล่านั้นมักจะคิดว่าเป็นอาชีพที่คนไม่มีการศึกษาหรือเรียนไม่จบมาทำ แต่ปัจจุบันอาชีพนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น ส่วนหนึ่งมีอิทธิพลมาจากโลกออนไลน์ ซึ่งตัวฟลุคเองก็ตั้งใจสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และรักษาภาพลักษณ์ของตนเอง เพราะการดำเนินชีวิตทุกอย่างสามารถสะท้อนถึงงานของเขาด้วย
ฟลุค ให้ความสำคัญกับสื่อโซเชียลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ยูทูป ทวิตเตอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางการเข้าถึงกลุ่มผู้อ่านโดยตรง เมื่อเขาเขียนบล็อกเสร็จก็มักจะนำลิงก์ไปแชร์ในช่องทางเหล่านี้ เฉพาะอย่างยิ่งกับเฟซบุ๊กที่มีกลุ่มแฟนคลับอยู่มากที่สุด ซึ่งแฟนคลับของฟลุคส่วนใหญ่มักจะอ่านกันเงียบๆ ไม่ค่อยมีคอมเมนต์หวือหวามากนัก เพราะแฟนคลับกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่โตมาพร้อมๆ กัน เป็นวัยทำงานอายุ 25-35 ปี มีกำลังซื้อเครื่องสำอาง ส่วนกลุ่มวัยรุ่นมีค่อนข้างน้อย เนื่องจากพวกเขาต้องการการแต่งหน้าที่แปลกใหม่ เปลี่ยนสไตล์ได้บ่อย และเครื่องสำอางราคาย่อมเยา
เมคอัพอาร์ติสคืออาชีพที่หาเงินเลี้ยงชีวิต ส่วนบล็อกเกอร์ก็เป็นช่องทางที่ทำให้คนทั่วไปรู้จักเขาในฐานะช่างแต่งหน้า ซึ่งส่วนใหญ่เขามักจะแต่งหน้าเจ้าสาวเป็นหลัก และเจ้าสาวเหล่านี้ก็รู้จักเขาผ่านอินเทอร์เน็ตทั้งสิ้น
“คนส่วนใหญ่มักชอบคำว่า ‘ถูกและดี’ แต่จริงๆ แล้วผมคิดว่าของถูกและดีมันก็มี แต่มันมีน้อยมาก ของดีก็มักมีราคาสูง ครั้งหนึ่งผมเคยทำวิดีโอชื่อ ‘สุดยอดแป้งฝุ่นในราคาเข้าถึงได้’ ปรากฏว่าผมโดนด่าเพราะแนะนำแป้งราคาประมาณ 1,500 บาท แต่ความคิดของเราคือ คุณภาพดีเมื่อเทียบกับอีกแบรนด์ที่ราคา 6,000 บาท ดังนั้นแน่นอนว่ากลุ่มที่บอกว่าแพงก็จะไม่ติดตามผม”
ความสนใจในเทคโนโลยี
นอกจากการรีวิวผลิตภัณฑ์ด้านความงามแล้ว ยังมีเรื่องของแฟชั่น รถยนต์ และไอที เรียกได้ว่าขึ้นอยู่กับความชอบและความสนใจในช่วงนั้นๆ ฟลุค เล่าต่ออีกว่า เขาชื่นชอบสินค้าไอทีมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากสมัยก่อนทางบ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้น เขาจึงชอบที่จะได้ลองสินค้าใหม่ก่อนคนอื่น ส่วนแกดเจ็ตที่ชื่นชอบที่สุดตอนนี้คือ สมาร์ทวอทช์ เพราะนอกจากจะเชื่อมต่อการทำงานกับสมาร์ทโฟนเพื่อรองรับการติดต่อทั้งสายเรียกเข้าและเครือข่ายสังคมออนไลน์ ยังสามารถวัดค่ามวลกายว่าพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ รวมถึงแจ้งเตือนว่าออกกำลังกายมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน
นอกจากนี้ ฟลุค แสดงความเห็นต่อการซื้อของออนไลน์ว่า ตัวเขามักจะซื้อสินค้าที่ไม่สามารถหาได้ตามหน้าร้านทั่วไป แต่สำหรับเครื่องสำอาง เขาอยากให้สาวๆ คิดก่อนซื้อ เพราะข้อเสียของการซื้อของออนไลน์คือไม่ได้ลองผลิตภัณฑ์ก่อน หากคิดจะซื้อเพื่อมีไว้ครอบครองหรือเก็บสะสมก็ซื้อเลย แต่หากอยากซื้อมาใช้ให้เกิดประโยชน์ควรไปทดลองผลิตภัณฑ์เสียก่อน เนื่องจากการมองเห็นเฉดสีของผลิตภัณฑ์ผ่านคอมพิวเตอร์อาจใกล้เคียง แต่ไม่ตรงกับความเป็นจริงเสมอไป เราอาจทดลองสินค้าที่เคาน์เตอร์แล้วกลับบ้านมาซื้อผ่านออนไลน์ด้วยโปรโมชั่นที่ดีกว่าก็ได้ ดังนั้น การสั่งซื้อเครื่องสำอางผ่านระบบออนไลน์จึงเหมาะกับการซื้อซ้ำ หรือซื้อผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเก็บสะสมมากกว่า
สะท้อนตัวตนด้วยบทความ
การรีวิวสินค้าอื่นที่แบรนด์ต้องการให้รีวิว ฟลุคจะให้ทางแบรนด์ส่งมาเพื่อทดลองก่อน แล้วจะตัดสินใจอีกทีว่าจะรับรีวิวหรือไม่ สำหรับการเขียนก็จะอ่านซ้ำ 3 รอบ ว่าบทความนั้นๆ สามารถตีความเป็นอย่างอื่นได้ไหม หรือไปกระทบความคิดเห็นของบล็อกเกอร์ท่านอื่นหรือไม่ เพราะเขาไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งหรือกระแสดราม่าใดๆ บทความนั้นอาจถูกเก็บไว้ก่อนแล้วนำมาลงในเดือนต่อๆ มาเพื่อเลี่ยงกระแส
“การเป็นบล็อกเกอร์ หมายความว่าเราจะไม่มีโซเชียลมีเดียที่เป็นส่วนตัวอีกต่อไป เราต้องคิดก่อนเขียน คิดก่อนพูด อย่าคิดว่าเราจะสามารถบ่นในเฟซบุ๊กส่วนตัวได้ เพราะมีคนอีกมากกำลังจับตามองเราอยู่ คำพูดบางคำพูดของเราสามารถกระจายออกไปได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที ไม่ว่าเราจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม”
ปัจจุบัน มีบิวตี้บล็อกเกอร์รุ่นใหม่เกิดขึ้นมากมายในวงการนี้ ฟลุคจึงอยากแนะนำน้องๆ ใช้ความชอบเป็นทุนในการสร้างงานเขียนและการทำวิดีโอ ไม่อยากให้เอาเรื่องเงินหรือผลตอบแทนเป็นเป้าหมายหลัก ฟลุคเล่าว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ยินบล็อกเกอร์รุ่นน้องพูดว่า “สินค้านี้ดีนะ แต่ไม่เขียนหรอกเพราะไม่ได้จ้าง” เขาไม่อยากให้เด็กรุ่นใหม่มองแบบนี้ เพราะเชื่อได้เลยว่าหากทำไปโดยไม่มีพื้นฐานความชอบ สักวันคนอ่านจะเลิกติดตามแน่นอน
ฟลุค กล่าวทิ้งท้ายถึงคติในการดำเนินชีวิตของตนเองว่า “ผมจะทำในสิ่งที่คนอื่นอยากให้ทำ เพราะนั่นคือสิ่งที่จะทำให้ผมมีความสุข ถ้าถามว่าทำไมผมถึงแต่งหน้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมทำในสิ่งที่รัก แต่ถ้าถามว่าผมอยากทำอย่างอื่นไหม ตอบได้เลยว่ายังมีอย่างอื่นที่อยากทำอีกมาก แต่การแต่งหน้าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา 99 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ผมแต่งหน้าให้ยิ้มมีความสุข บางคนถึงกับร้องไห้ขอบคุณ มันแสดงให้เห็นว่า ทุกคนอยากให้ผมแต่งหน้า ผมก็ไม่ปฏิเสธในสิ่งที่คนอื่นอยากให้ผมเป็น และผมจะใช้เวลาพิสูจน์ว่าผมทำได้ดี และดีขึ้นเรื่อยๆ”
3 ไอเทมเด็ดที่สาวๆ ควรมี
- รองพื้น สาวๆ สามารถมีผิวที่ดูดีตลอดเวลาได้ด้วยรองพื้น ถึงแม้ว่าจะมีผิวที่ดีอยู่แล้ว การเลือกรองพื้นให้เข้ากับตนเองจะช่วยให้ดูดีขึ้นอีก ส่วนเทคนิคการเลือกรองพื้นนั้น ฟลุคแนะนำให้เข้าไปรองเลือกสีและเนื้อสัมผัสที่เคาน์เตอร์ที่มีพนักงานขายคอยแนะนำจะดีกว่า
- มาสคาร่า+ที่ดัดขนตา อย่างที่รู้กันว่าดวงตาเปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจ ดังนั้น มาสคาร่าที่ดีเวลาปัดบนขนตาที่ดัดแล้วจะต้องงอนอย่างนั้นทั้งวัน จะช่วยให้สาวๆ ดูตาโตมากขึ้น
- ลิปสติกความชุ่มชื่นสูง เพราะสาวไทยส่วนใหญ่มักจะมีริมฝีปากแห้ง จึงควรเลือกลิปสติกที่สามารถเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก ที่สำคัญคือ ควรพกติดตัวตลอดเวลา เพราะลิปสติกเปรียบเสมือนสิ่งที่ยืนยันว่าสาวๆ แต่งหน้าเสร็จแล้ว เพราะอย่าปล่อยให้สีลิปสติกซีดโดยเด็ดขาด