งาน “มหกรรมประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศไทย (Thailand IT Contest Festival)” ครั้งที่ 17 ที่จัดต่อเนื่องทุกปี โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อวันที่ 14-16 มีนาคม 2561 ณ ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์
เน้นการเตรียมความพร้อมและการสร้างคนไทยรองรับศตวรรษที่ 21 ภายใต้ยุทธศาสตร์ “วิทย์สร้างคน” ในการสร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาทุนมนุษย์ตั้งแต่ระดับเด็กจนถึงเยาวชน ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
“มหกรรมประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศไทย” เป็นงานประกวดแข่งขันการพัฒนา การออกแบบเทคโนโลยีสารสนเทศในระดับเยาวชน เป็นมหกรรมที่รวมสุดยอดผลงานที่พัฒนาจากความรู้ และ ความสามารถของเยาวชนไทยจากทั่วประเทศทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ได้นำความรู้ และประสบการณ์มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาสร้างสรรค์ผลงาน และนวัตกรรมที่มีความคิดสร้างสรรค์ผ่านกระบวนการคิดและดำเนินการอย่างเป็นระบบตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ อีกทั้งยังได้มีโอกาสนำผลงานมาเผยแพร่สู่สาธารณชน
ทาง Digital Age จึงทำเสนอผลงานของนักศึกษาที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ มาหนึ่งผลงาน จากทีมนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่ ออกแบบระบบให้บริการใช้ไฟฟ้าในร้านกาแฟ ควบคุมไฟฟ้าสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่นเพื่อเปิดงานเต้ารับไฟฟ้า สำหรับผู้ให้บริการร้านกาฟ และผู้ให้บริการที่ต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่จำกัดในรูปแบบต่างๆ
ทั้งยังสามารถควมคุมเวลา ในการใช้ไฟฟ้า และเช็คสถานการณ์ใช้งานเต้ารับของผู้ใช้ได้ เป็นการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการให้บริการลูกค้าที่ต้องการชาร์จแบตเตอร์รี่ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โน๊ตบุ๊ก เป็นต้น แต่ให้จำกัดในเวลาที่เหมาะสมในการใช้บริการแต่ละราย โดยมีหลักการที่ผู้ให้บริการกดสร้างรหัสจากแอปพลิเคชั่นแล้วนำรหัสให้กับลูกค้า เมื่อลูกค้ารับรหัสก็สามารถกดที่เต้ารับ เมื่อเต้ารับทำงานก็สามารถใช้งานไฟฟ้าได้
นอกจากนี้ ภายในการจัดงานมีการประกวดแข่งขันสุดยอดผลงานนวัตกรรมด้าน IT ของเยาวชนไทยจากทั่วประเทศ 4 กิจกรรม คือ 1. การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20 2. การประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ครั้งที่ 20 3. การประกวดวงจรอิเล็กทรอนิกส์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 17 และ 4. โครงการ “ต่อกล้าให้เติบใหญ่”