ขณะนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ฟินเทค” ที่มีกระแสแรงมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกิดจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาทางการเงิน ไฟแนนซ์ มีสตาร์ทอัพที่ปล่อยโซลูชั่นมาตอบโจทย์ให้ผู้คนเข้าถึงการเงินมากขึ้น จึงทำให้สถาบันการเงินรายใหญ่หลายเจ้า ต่างตื่นตัวกับกระแสของฟินเทคกลัวว่าจะมาแทนที่และแย่งลูกค้าไป ทำให้มีการถกเถียงในเรื่องนี้เสียยกใหญ่เลยทีเดียว
วุฒิชัย เจริญผล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ไอที บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) หนึ่งในสถาบันการเงินที่มองกระแสของฟินเทคว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีไปเร็วมาก ทำให้ฟินเทคเติบโตเร็วกว่าที่คิด ส่วนสถาบันการเงินเรายังไปช้ากว่า หาคนมาสร้างนวัตกรรมไม่ทันต่อความต้องการ ดังนั้น จำเป็นต้องใช้กระแสฟินเทคให้เป็นประโยชน์ โดยการร่วมมือกับสตาร์ทอัพ
นอกจากนี้ ยังเผยวิธีการร่วมมือกับฟินเทคของ KTC ที่อาจจะเริ่มช้ากว่าสถาบันการเงินเจ้าอื่น ซึ่งไม่คิดที่จะทำฟินเทคของตนเอง แต่มองว่าจะร่วมมือกับสตาร์ทอัพฟินเทคมากกว่า โดยจะเลือกที่คิดว่าเหมาะสมและคุ้มค่ามาให้บริการแก่ลูกค้า
สตาร์ทอัพฟินเทคมองอย่างไร กับการร่วมมือสถาบันการเงิน
แม้ว่าฟินเทคจะเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเงินในประเทศแล้วก็ตาม ถึงกระนั้นก็ยังคงใหม่มาก และยังไม่มีชื่อเสียงมากพอที่จะทำให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจรูปแบบบริการ ฟินเทคจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นเสียก่อน ส่วนใหญ่แล้วจะมีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างจากสถาบันการเงิน
นเรศ เหล่าพรรณราย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท สต๊อคควอดแรนท์ (ประเทศไทย) จำกัด สตาร์ทอัพที่ให้บริการวิเคราะห์ แนะนำการเลือกลงทุนในหุ้น กล่าวว่า ปัจจุบันการเข้ามาของฟินเทคอยู่ในช่วงร่วมมือกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ไม่ใช่คู่แข่งกันแล้ว โดยจุดแข็งของฟินเทคไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของไอเดีย สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องรออนุมัติหลายขั้นตอนอย่างสถาบันการเงิน
ด้าน เอกสิทธิ์ เดี่ยววณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดรีมเมคเกอร์ คราวด์ฟันดิ้ง จำกัด กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของฟินเทคจำเป็นต้องควบรวมกับสถาบันการเงินอยู่แล้ว เนื่องจากฟินเทคเป็นผู้ประกอบารรายใหม่ ต้องพึ่งพาอาศัยความสามารถของสถาบันการเงิน เช่น สินทรัพย์ในการปล่อยกู้ การเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคาร
ทั้งนี้ สตาร์ทอัพทั้งสองรายต่างบอกตรงกันว่า ฟินเทคไม่ได้มาแทนที่สถาบันการเงิน แต่กลับมาช่วยส่งเสริมและร่วมมือกันมากกว่า เพราะเรื่องของการเงินเป็นสิ่งที่กระทบกับทุกคนโดยตรง เชื่อว่าอย่างไรสตาร์ทอัพเองก็สนใจที่จะร่วมกับสถาบันการเงินอย่างแน่นอน นอกจากนี้ทั้งคู่ต่างมีการพูดคุยทำการตกลงกับสถาบันการเงิน อย่างสต๊อคควอดแรนท์มีการเจรจาร่วมมือกับทางโบรกเกอร์ 2-3 รายในการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นกลไกเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการแย่งตัวมาร์เก็ตติ้ง และในระยะต่อไปจะให้บริการเล่นหุ้นได้ทั่วโลก
ตัวอย่าง สตาร์ทอัพที่ร่วมกับสถาบันการเงิน