บทบาทสำคัญของ 4G นั้นจะมาช่วยตอบสนองการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ช่วยเร่งให้เกิดการใช้งานดาต้าแบบก้าวกระโดดในสังคมไทย ด้วยปริมาณดาต้าที่มากกว่าการใช้งาน 3G ที่สำคัญ 4G ยังทำให้แอพพลิเคชั่นในการรับชมวิดีโอต่างๆ ได้รับความนิยม และแอพพลิเคชั่นแบบสตรีมมิ่งก็จะเติบโตมากขึ้นในยุค 4G
สมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส
ผู้ให้บริการลุยเปิด 4G สอดรับเทรนด์การใช้งานของผู้บริโภค
ด้าน สมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวโดยหลังจากที่ทางเอไอเอสได้ใบอนุญาตใช้คลื่น 1800 MHz เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ก็ได้มีการเร่งติดตั้งเครือข่ายภายในงบลงทุนกว่า 14,520 ล้านบาท เพื่อเริ่มทดลองให้บริการ 4G ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และเป็นรายแรกที่นำคลื่นความถี่จากการประมูล 1800 MHz และ 2100 MHz มาให้บริการ 4G ภายใต้ชื่อ AIS 4G ADVANCED ซึ่งการให้บริการ 4G ADVANCED จะนำคลื่น 1800 MHz ร่วมกับคลื่น 2100 MHz มาเปิดให้บริการ จะช่วยทำให้ได้ความเร็วในการใช้งานขึ้นไปสูงกว่า 150 Mbps ตอนนี้ได้เปิดให้บริการแล้วใน 42 จังหวัด และจะครอบคลุมทั่วประเทศภายในเดือนพฤษภาคม 2559 นี้
 |
ฉบับที่ 206 เดือนกุมภาพันธ์การแข่งขันบริการ Streaming บน 4G |
จากการที่ 4G จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอ ดังนั้น เอไอเอสจึงเปิดตัวแอพพลิเคชั่นศูนย์รวมความบันเทิงที่ครบรสและใหญ่ที่สุดในชื่อ AIS Play ที่มีช่องรายการทีวีให้รับชมกว่า 100 ช่อง ทั้งแบบชมสดและชมย้อนหลัง ภาพยนตร์จากหลายค่ายดังทั้งไทยและต่างประเทศ ซีรีส์จากฮอลลีวู้ด กีฬา การ์ตูน คาราโอเกะ ฯลฯ โดนจะมอบให้ลูกค้าที่ใช้แพ็กเกจ 4G ใช้งานแอพฯ AIS Play + AIS Cloud 100 GB ได้ฟรี
แพ็กเกจที่ให้ปริมาณดาต้าเป็นจำนวนมาก เป็นสิ่งที่มาตอบโจทย์ในกระแสของสตรีมมิ่ง เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันรับชมคอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอกันมากขึ้น
สำหรับแพ็กเกจใหม่ของเอไอเอสจะมีทั้งการให้บริการ 4G แบบไม่จำกัด รวมถึงความหลากหลายอย่างการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบปกติ แบบใช้งานหลายเครื่อง หรือแบบแชร์ค่าโทรค่าเน็ตในครอบครัว โดยทุกรูปแบบเป็นไปตามข้อกำหนดของ กสทช. เริ่มต้นที่ราคา 299 บาท ได้ค่าโทร 100 นาที อินเทอร์เน็ต 1.5 GB หรือขยับขึ้นมาที่ราคา 488 บาท ได้ค่าโทร 200 นาที อินเทอร์เน็ต 10 GB ไปจนถึงราคา 1,888 บาท ได้ค่าโทร 1,500 นาที อินเทอร์เน็ต 75 GB ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวทำให้เราเห็นได้ว่า ปริมาณดาต้าที่ใช้ในยุค 4G นั้นค่อนข้างสูงกว่าในยุค 3G เป็นอย่างมาก เพราะเทคโนโลยี 4G จะสามารถรับ-ส่งข้อมูลด้วยสัญญาณและความเร็วที่มีคุณภาพมากกว่าเครือข่าย 3G ทำให้สามารถชมวิดีโอหรือชมการถ่ายทอดสดบนมือถือด้วยภาพคุณภาพสูงระดับ HD ได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด และสามารถรับ-ส่งข้อมูลไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมาก
ดังนั้น แพ็กเกจที่ให้บปริมาณดาต้าเป็นจำนวนมาก เป็นสิ่งที่มาตอบโจทย์ในกระแสของสตรีมมิ่ง เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันรับชมคอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอกันมากขึ้น และที่สำคัญบรรดาผู้ผลิตคอนเทนต์หรือผู้ให้บริการเกี่ยวกับสตรีมมิ่งคอนเทนต์เองต่างก็เห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมรับชมข้อมูลผ่านโมบายล์เป็นหลัก เราจึงได้เห็นแอพพลิเคชั่นทั้งที่เกี่ยวกับการรับชมภาพยนต์ ดูรายการทีวี หรือแม้แต่การฟังเพลงที่ค่อยๆ เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
