เมื่อพูดถึงการปั่นจักรยานหลายคนอาจจะคิดว่าไม่เหมาะกับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในการปั่น รวมถึงอากาศที่ร้อน เกินกว่าจะปั่นไหว แต่ผู้ให้บริการจักรยานสาธารณะก็ยังคงมองประเทศไทยว่ามีประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยล่าสุดสตาร์ทอัพสัญชาติจีนอย่าง ofo (โอโฟ่) ก็เข้ามาทำตลาดในการให้บริการจักรยานแล้วอีกราย
ofo ได้เริ่มเข้ามาทดลองให้บริการในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต นำรถจักรยานเข้าไปให้บริการ 1,000 คัน ผลการตอบรับน่าพอใจ โดยเฉลี่ย 4 ครั้งต่อวัน ต่อคน และล่าสุดได้เริ่มเปิดให้บริการในจังหวัดภูเก็ต ด้วยความร่วมมือจากบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด (PKDC) เพื่อช่วยส่งเสริมในเรื่องของสมาร์ทซิตี้
นพพล ตู้จินดา ผู้จัดการทั่วไป ofo ประเทศไทย กล่าวว่า ofo เริ่มต้นเปิดให้บริการจักรยานสาธารณะแบบไร้สถานี หรือที่เรียกว่า dockless bike sharing ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 ปัจจุบันมีจักรยานให้บริการรวมกว่า 10 ล้านคัน ครอบคลุมการให้บริการในเมืองใหญ่กว่า 170 เมืองใน 9 ประเทศ โดยในแต่ละวันมีจำนวนการใช้บริการสูงถึง 25 ล้านครั้งต่อวัน จนถึงปัจจุบันมีผู้ใช้งานจักรยาน ofo ร่วมแล้วกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก และมีจำนวนการใช้งานรวมแล้วกว่า 4 พันล้านครั้ง
โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์ของ ofo ในการขยายการบริการในอาเซียน ปัจจุบัน ofo มีจักรยานให้บริการในประเทศไทยแล้วกว่า 10,000 คัน โดยเป็นจักรยานรุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อรุ่น Smart Lock โดยมีฟังก์ชั่นพิเศษ คือ ระบบล็อคอัจฉริยะ ที่ทำงานผ่านแอพด้วยระบบบลูทูธ เพียงสแกน QR Code บนจักรยานก็สามารถปลดล็อคได้ทันที และระบบ GPS ที่ติดตั้งในจักรยาน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาและจอดจักรยานได้อย่างสะดวกและง่ายดาย
“กลยุทธ์สำคัญของเราคือ Smart Campus และ Smart City โดยในช่วงแรกจะเน้นการเข้าถึงมหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่และมีความจำเป็นในการใช้จักรยาน เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีการสัญจรภายในมหาวิทยาลัยที่สะดวกกว่าการใช้รถยนต์หรือการเดินเท้า และการขยายการบริการมาในเขตเมืองเพื่อช่วยให้การเดินทางระยะสั้นสะดวกสบายคล่องตัวมากขึ้น และเป็นหนึ่งทางเลือกการสัญจรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็เริ่มขึ้นแล้วในภูเก็ตเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา” นพพล กล่าว
สำหรับประเทศไทยจะเติบโตขึ้นได้ ด้วยศักยภาพของประเทศที่มีหัวเมืองขนาดใหญ่หลายแห่ง และมีจำนวนประชากรสูงกว่า 70 ล้านคน และมีนักศึกษาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศอีกกว่า 700,000 คน รวมถึงมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวปีละไม่ต่ำกว่า 7 ล้านคน
https://www.facebook.com/ofothailand/videos/284734872014432/
ที่ผ่านมา ofo ให้บริการมาแล้ว 170 เมือง ซึ่งพฤติกรรมการใช้งานของ ofo นิยมใช้สำหรับการเดินทางในรัศมี 1 – 5 กิโลเมตร เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและแก้ไขปัญหาที่จอดรถในพื้นที่ที่มีการจราจรแออัดโดย Bike Sharing เป็นบริการเช่ารถจักยานที่นำเทคโนโลยีมาประสานกันผ่านแอพฯ สามารถค้นหาจักรยาน และสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อปลดล็อคจักรยานได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยความที่เป็นจักรยานสาธารณะ ofo เองก็ได้ทำจุดจอดไว้เพื่อสร้างความสะดวกและเป็นระเบียบ แต่หากผู้ใช้งานจอดไว้ไม่ตรงจุดก็จะมีเจ้าหน้าที่ พร้อมรถยกไปเก็บจักรยานมาไว้ที่จุดจอด ด้วยการตรวจจับจากระบบ Narrow Band Internet of Things (NB-IoT) ที่ร่วมมือกับ China Telecom และ Huawei Technologies ในการติดตั้งระบบ NB-IoT ไว้ที่จักรยานเพื่อระบุพิกัดได้แม่นยำยิ่งขึ้น
สำหรับค่าบริการปกติของจักรยาน ofo จะคิดราคา 5 บาท ต่อการใช้ 30 นาที โดยมีค่ามัดจำ 99 บาทในครั้งแรก ซึ่งในช่วงเปิดตัว ofo ให้ผู้ใช้งานได้ทดลองใช้ฟรี 1 เดือนในภูเก็ต และทดลองใช้ฟรี 3 เดือนในกรุงเทพ เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม
สำหรับในช่วงเริ่มต้น การให้บริการยังคงเน้นที่มหาวิทยาลัย เนื่องจากสามารถควบคุมการพื้นที่ใช้งานได้ และภายในปีนี้จะมีกิจกรรมให้ติดตาม รวมถึงร่วมพาร์ทเนอร์กับภาคเอกชนห้างสรรพสินค้า หมู่บ้าน เพื่อสร้างจุดจอด ofo ให้ครอบคลุมมากขึ้น