Facebook ทดสอบระบบ “Subscription Group” คือกลุ่มที่จะเข้าต้องเสียเงิน หรือกลุ่มฟรีที่มีเนื้อหาบางอย่างที่ต้องจ่ายถึงจะอ่านได้ ส่วนค่าบริการรายเดือนที่แอดมินอาจจะเรียกเก็บได้นั้นอยู่ระหว่าง $4.99 ถึง $29.99 (ประมาณ 165 บาทถึง 1,000 บาทต่อเดือน)
LinkedIn ก็เพิ่มฟีเจอร์ QR code มาช่วยให้การแอดกันง่ายขึ้น ..และอีกฟีเจอร์ใหม่คือระบบแปล “See Translation” ที่รองรับถึง 60 ภาษา …
Walmart ออกบริการ chat ช่วยคนที่ไม่มีเวลาว่างเลือกซื้อของ ให้สามารถพิมพ์สินค้าที่อยากได้ หรือถ่ายรูปแทนการพิมพ์ โดยสินค้าอาจเป็นได้ทั้งสินค้าบริโภค (แต่ไม่มีอาหารสด), ของใช้ในบ้าน, หลากหลายไปถึงเครื่องประดับ…
บราวเซอร์ยอดนิยมอย่าง Google Chrome รุ่นใหม่(เวอร์ชั่น 66) มีการเพิ่มฟีเจอร์ “บล็อค” คลิปวิดีโอไหนก็ตามที่เล่นพร้อมเปิดเสียงอัตโนมัติแล้ว
ยูทูบเพิ่มช่องแชทในเว็บสำหรับคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ้ค ให้คุยกับเพื่อนไปได้ระหว่างดูคลิป
JD แห่งจีน สร้างศูนย์จัดการคำสั่งซื้อสินค้าแห่งใหม่ที่เซี่ยงไฮ้ รองรับคำสั่งซื้อถึง 2 แสนคำสั่งต่อวัน แต่ใช้พนักงานเพียงแค่ 4 คน
“Google Maps Offline” คือแอพแผนที่ซึ่งใช้ได้แม้ตอนที่ไม่มีเน็ต เพราะได้ดาวน์โหลดแผนที่บริเวณที่ต้องการไว้ก่อนแล้ว ซึ่งล่าสุดใช้ได้ในไทยแล้ว
“วอทสแอพ” เพิ่มทางเลือก สร้างกลุ่มที่มีแต่แอดมินส่งข้อความในกลุ่มได้ เพราะกลุ่มบางชนิด ก็ต้องการแค่ไว้แจ้งข่าวสาร ไม่อยากให้มีการพูดคุยมาทำให้ประกาศต่างๆหายไปหรือหาอ่านได้ยาก…
ไมโครซอฟท์ประกาศได้เริ่มใช้ AI มาช่วยเรียนรู้หาเวลาว่าจะอัพเดตช่วงใดแล้วไม่รบกวนผู้ใช้ และยังเลือกว่าเครื่องไหนยังไม่จำเป็นต้องอัพเดตก็ปล่อยไปก่อน
รู้จัก 10 สตาร์ทอัพทั่วเอเชียรวมถึงจากไทย ที่จะได้ไปนำเสนอไอเดียทางธุรกิจต่อหน้านักลงทุนจากทั่วโลกในงาน Demo Day Asia เดือนกันยายนนี้ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ขุดความทรงจำตลับเกมส์เก่า “Battle Kid” มาผลิตขายใหม่ ซึ่งเป็นเกมแนวแอคชั่น มองด้านข้างแบบที่นิยมสมัย 30 ปีก่อน โดยจะออกตลับ เพื่อฟื้นความทรงจำวัยเด็กของคนอายุ 35 up กันให้สุดๆ
ถ้าส่งคลื่นวิทยุออกไป แล้วใช้ AI ตรวจจับคลื่นที่สะท้อนกลับมาอย่างละเอียด เราก็จะสามารถรู้ได้ว่าหลังกำแพงนั้นมีใคร หรืออะไร อยู่ตรงไหนบ้าง
WebMD เว็บรวมข้อมูลด้านการแพทย์รายใหญ่ของโลก ร่วมมือกับ Tencent บริษัทไอทีรายใหญ่ของจีน นำเนื้อหาจาก WebMD ไปแปลและเผยแพร่เป็นภาษาจีนผ่านเว็บและแอพของ Tencent เช่น WeChat และ QQ …
กูเกิ้ลออกเว็บใหม่ ใช้ AI คอยจับความเคลื่อนไหว ไปเทียบกับคนทั่วโลกว่ามีใครทำท่าคล้ายกันบ้าง แล้วจะให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นภาพ GIF ขยับท่าทางของผู้ใช้คนนั้น แต่มีภาพคนอื่นๆมาประกอบกันด้วย
นักวิจัยคิดค้นเซ็นเซอร์วัด “ฮอร์โมนแห่งความเครียด” มาใช้ใส่ในสายรัดข้อมือหรืออุปกรณ์อื่นๆ …
