บริการฝากเงินคริปโตแล้วได้ผลตอบแทนหรือดอกเบี้ย ซึ่งเรียกกันว่า “DeFi” เป็นที่สนใจมาได้พักใหญ่ เพราะสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไปอยู่มาก แต่ก็มีความเสี่ยงถ้าหากราคาเหรียญที่ฝากนั้นลดลงไปเกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ได้ ก็อาจกลายเป็นขาดทุนไปเลย
และอีกความเสี่ยงที่ต้องลุ้นหนักกว่า ก็คือว่าผู้ให้บริการ DeFi รายนั้น อาจถูกแฮ็คเจาะระบบเชิดเงินไปได้ …และหลังจากนั้นผู้ฝากอาจจะได้รับการชดเชยครบหรือไม่ครบหรือไม่ได้เลยก็เป็นได้
เช่นล่าสุดก็มี 2 ตัวอย่างของการถูกแฮ็ค ที่เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียง คือ Qubit กับ Wormhole
กรณีแรก Qubit Finance เพิ่งถูกแฮ็คเงินคริปโตฯสกุลต่างๆไปรวมคิดเป็นมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว 2,650 ล้านบาท
หลังจากนั้น ทีมงานประกาศจะยอมจ่าย 2 ล้านดอลลาร์ฯให้แฮ็คเกอร์ถ้าหากยอมคืนเงิน และจะไม่เอาเรื่องทางกฏหมายใดๆ แต่ก็ยังไม่มีการตอบรับจากมิจฉาชีพลึกลับแต่อย่างใด
ส่วนการชดเชยนั้น ทาง Qubit Finance ประกาศว่ากำลังรวบรวมข้อมูลและจะออกเอกสารยืนยันให้ไปแจ้งความ แต่ยังไม่กล่าวถึงการจ่ายชดเชยแต่อย่างใด
อีกรายคือ Wormhole ที่ถูกแฮ็คเงิน Ethereum และ Solana รวมเป็นมูลค่าราว 300 ล้านดอลลาร์หรือ 1 หมื่นล้านบาท
หลังจากนั้นทาง Wormhole ถึงกับต้องปิดระบบชั่วคราวเพื่อแก้ไข และประกาศว่ายินดีจ่าย 10 ล้านดอลลาร์หรือราว 330 ล้านบาทให้แฮ็คเกอร์หากว่ายอมคืนเงินทั้งหมดและจะไม่เอาเรื่องทางคดีเช่นกัน
ทั้งนี้ Wormhole มีเงินไหลเวียนในระบบทั้งหมดราว 1 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.3 หมื่นล้านบาท ฉะนั้นความเสียหายครั้งนี้สูงถึงประมาณ 30 % เลยทีเดียว
…
จากการที่แพลตฟอร์ม DeFi ถูกแฮ็คครั้งใหญ่ 2 รายติดๆกันตั้งแต่ต้นปีอย่างนี้ เป็นสัญญาณเตือนว่าการจะลงทุนใน Decentralize Finance ( DeFi ) ต้องใช้วิจารญาณและระมัดระวังในการแบ่งเจียดเงินให้รอบคอบกว่าเดิม
ข่าวจาก
twitter.com/QubitFin/status/1487710836173185025
therecord.media/cryptocurrency-platform-wormhole-hacked-for-an-estimated-322-million
ภาพประกอบจาก
sincecoin.com/news/defi-protocol-grim-finance-hacked-30-million-loss