eko แอพฯ สื่อสารสำหรับองค์กร ด้วยความปลอดภัยบนคลาวด์

เบอร์นี เทย์, กรวัฒน์ เจียรวนนท์ และเดวิด จาง

ในยุคที่ผู้คนหันมาติดต่อสื่อสารผ่านแอพพลิเคชั่นแชตจำนวนมาก ที่สามารถพูดคุย ส่งรูป คลิปวิดีโอ หรือข้อมูลถึงกันได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่เว้นแม้แต่แอพพลิเคชั่นแชตที่ถูกสร้างมาเพื่อใช้งานภายในองค์กรโดยเฉพาะอย่าง eko (เอโค่) ที่เข้ามาเป็นช่องทางให้พนักงานสามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้ทั้งในเรื่องธุรกิจ หรือข้อมูลที่รู้เฉพาะภายในองค์กร โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนากว่าแอพฯ แชตทั่วไป

คุยผ่านแอพฯ แชตแทนอีเมล สร้างแพลตฟอร์มสนทนาสำหรับองค์กร
กรวัฒน์ เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เอโค่ คอมมิวนิเคชั่น กล่าวว่า จากแนวคิดแรกเริ่มเห็นพฤติกรรมของเพื่อนที่หันมาใช้แอพพลิเคชั่นแชตแทนอีเมล บวกกับพนักงานในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชอบใช้แอพฯ แชตในการทำงาน แต่ปัญหาก็คือ แอพฯ แชตทั่วไปถูกสร้างขึ้นให้เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนบุคคลมากกว่าการใช้งานในองค์กร และยังมีปัญหาในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยของผู้ให้บริการ การเข้ารหัสข้อมูล และการสนับสนุนด้านการตรวจสอบที่ยังมีความบกพร่อง จนกลายเป็นแนวทางในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ใช้สื่อสารภายในองค์กรขึ้น

“ตั้งแต่ขั้นตอนการสร้างต้นแบบ ทดสอบระบบเบต้า จนกระทั่งเป็นแอพพลิเคชั่น ekoได้ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มคลาวด์ของ Amazon Web Services (AWS) ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้พัฒนาอย่างเราได้ มีความยืดหยุ่น ปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังสามารถปรับขยายเพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้ในอนาคต”

ทั้งนี้ ยังออกแบบให้สามารถใช้ได้ทุกขนาดองค์กร ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ บุคลากร กระบวนการ และเทคโนโลยี โดยเพิ่มความปลอดภัยแก่องค์กรในเรื่องการสื่อสารภายใน มีการเข้ารหัสข้อมูลทุกชิ้นที่ผ่านระบบ รวมถึงแหล่งเก็บข้อมูลทุกที่ในดาต้าเซ็นเตอร์ ตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด และรับรองความปลอดภัยของข้อมูลที่เป็นความลับ

ฟีเจอร์การทำงาน ตอบโจทย์ทั้งพนักงานและองค์กร
จุดเด่นที่สำคัญของแอพฯ ตัวนี้ นอกจากระบบความปลอดภัยแล้ว คือ มีทั้งความรวดเร็วและรูปแบบการใช้งานที่มาพร้อมความสามารถของฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การทำงานเป็นอย่างมาก และยังใช้บริหารทรัพยากรบุคคลในองค์กรได้ด้วย ซึ่งสรุปออกมาได้ดังนี้ 1. Chat ห้องแชตที่สามารถแก้ไขหรือเรียกกลับข้อความที่กดส่งไปแล้วได้ 2. Workspace แชตกลุ่ม จัดระเบียบหัวข้อพูดคุย เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน 3. Workflow ระบบกรอกเอกสารในรูปแบบดิจิทัล เช่น ใบลา ใบโอที ยื่นเรื่องต่างๆ ได้ในมือถือ

4. Discover พื้นที่แชร์ข้อมูลความรู้จากองค์กรหรือพนักงาน มีส่วนร่วมและแชร์เรื่องราวให้กัน พร้อมระบบสะสมแต้มที่เปิดโอกาสให้องค์กรเอาไปใช้จัดกิจกรรมมอบเป็นรางวัลให้กับพนักงานได้ 5. Enterprise-grade Security มีระบบความปลอดภัยขั้นสูง มีการตั้งเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับองค์กร โดยข้อมูลจะถูกจัดเก็บแยกกัน 6. Permissions กำหนดให้พนักงานคนใดสามารถเข้าถึงข้อมูลได้บ้าง หรือเข้าถึงข้อมูลองค์กรได้แค่ไหน และ 7. Customizabllity ออกแบบดีไซน์แอพฯ ให้เป็นแบรนด์ขององค์กรเองได้ เช่น ตั้งชื่อแอพฯ เป็นชื่อองค์กร ออกแบบสี สติ๊กเกอร์ เป็นต้น

ฉบับที่ 218 เดือนกุมภาพันธ์

ร้านค้าขนาดเล็ก ไม่ต้องใช้เงินสด

 

“เราได้พัฒนา eko ให้มีความสมดุลระหว่างสิ่งที่กลุ่มพนักงานต้องการสำหรับการสื่อสารทางธุรกิจและสิ่งที่องค์กรธุรกิจแบบดั้งเดิมต้องการในแง่ของการจัดการข้อมูลและการรักษาความปลอดภัย โดยดูว่าลูกจ้างต้องการอะไร บริษัทต้องการอะไร เพื่อพัฒนาเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับทั้ง 2 กลุ่ม พร้อมเน้นความเรียบง่าย ให้พนักงานที่ไม่เก่งเทคโนโลยีใช้สะดวกด้วย”

ทั้งนี้ รูปแบบการใช้งานของแอพพลิเคชั่นไม่ต่างไปจาก LINE หรือ WeChat ที่เราใช้กันอย่างคุ้นชิน แต่จะให้ความรู้สึกว่าเรากำลังใช้แอพพลิเคชั่นที่เราออกแบบเอง โดยองค์กรสามารถเลือกใช้งาน ฟังก์ชั่นได้ตามต้องการ ซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้บริการเซิร์ฟเวอร์เน้นไปที่องค์กรขนาดใหญ่มากกว่า รองรับพนักงานได้ถึง 100 คนขึ้นไป ภายในปีหน้าจะปรับลดฟีเจอร์ลงเพื่อให้ตลาด SMEs สามารถเข้าถึงได้ในราคาที่พอดีต่อการใช้งาน โดยสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ทั้งระบบ Android และ iOS

ให้บริการที่มีประสิทธิภาพ ขยายตลาดไปจีนและยุโรป
กรวัฒน์ ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาจะเห็นซอฟต์แวร์ที่คิดและพัฒนาจากต่างประเทศถูกซื้อมาใช้ในไทย ดังนั้นจึงอยากแสดงฝีมือของคนไทย และสามารถสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์และไปขายให้ต่างประเทศได้เช่นกัน ซึ่งจะใช้จุดแข็งที่เป็น Mobile First และโปรดักส์ในเรื่องของราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์องค์กรในเอเชียมากกว่าคู่แข่งอย่าง Microsoft และ Facebook Workplace

“การทำตลาดเป็นเรื่องที่ยาก ใช้เวลานาน เพราะลูกค้าของเราเป็นองค์กรขนาดใหญ่ จำเป็นต้องสร้างบริการที่ดีและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการใช้งานของลูกค้าจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า แอพพลิเคชั่นมีคุณภาพจริง และจะทำให้เราขยายฐานลูกค้าได้อย่างสบายยิ่งขึ้น”

หลังจากเปิดตัวสักระยะพร้อมขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะเตรียมบุกตลาดจีน อีกทั้งกำลังมองตลาดยุโรปซึ่งมีโอกาสอีกมาก โดยปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 180,000 ราย ทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน และตะวันออกกลาง ซึ่งลูกค้ามีหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร ค้าปลีก ยานยนต์ โทรคมนาคม และอาหาร

ด้วยแพลตฟอร์มของ Eko ที่เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานขององค์กรจะช่วยให้คนสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ เสมือนว่าพวกเขาทำงานอยู่ในออฟฟิศ เพียงพูดคุยกันผ่านโทรศัพท์มือถือได้อย่างลงตัว

You may be interested in

Latest post from Facebook

Related Posts

มหกรรมประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17
ทีมนักศึกษาพัฒนา ระบบให้บริการใช้ไฟฟ้าในร้านกาแฟ ผ่านแอปพลิเคชั่น

งาน “มหกรรมประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศไทย (Thailand IT Contest Festival)” ครั้งที่ 17...