เอ็นโซโก้ เริ่มต้นทำธุรกิจในเมืองไทยผ่านโซเชียลแพลตฟอร์มคือ เฟซบุ๊ก วันนี้มีการขายดีลสินค้า ทั้งกลุ่มร้านอาหาร ที่พัก และรีเทล มีสินค้ามากกว่า 50 ประเภท โดยมีของขายบนเว็บไซต์มากกว่า 15,000 รายการต่อเดือน มีร้านอาหารที่เป็นพาร์ตเนอร์มากกว่า 300 ร้าน และมีดีลที่พักใหม่ประมาณ 200 ดีลต่อเดือน
ค่าเฉลี่ยของการใช้งานทั้งเฟซบุ๊กและไลน์ประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ที่ LINE Pay จะเป็นหนึ่งใน Revolution เมื่อผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าจะซื้อบน LINE Chat เพราะได้ราคาพิเศษและจ่ายได้ทันที
เว็บดีลหนึ่งทางเลือกของการช้อปปิ้ง
วรวุฒิ วาริการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นโซโก้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดของธุรกิจเว็บดีลในประเทศไทยยังได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคถึงแม้จะไม่หวือหวาเท่ากับช่วงที่เกิดธุรกิจเว็บดีล เนื่องจากตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มีรูปแบบการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซหลากหลายให้ผู้บริโภคคนไทยได้ทดลองใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้สังคมซื้อสินค้าออนไลน์ของเมืองไทย เริ่มคล้ายห้างสรรพสินค้าหรือธุรกิจรีเทลที่มีหลากหลายรายในการเปิดให้บริการแก่ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าในแบบที่ชื่นชอบ ในโลกออนไลน์เว็บดีลถือเป็นห้างฯ หนึ่งที่เป็นตัวเลือกในการซื้อสินค้าเช่นกัน
ปัจจุบัน มูลค่าตลาด Online Retail มีประมาณ 2.5 เปอร์เซ็นต์ จากมูลค่าตลาด Retail ทั้งหมด ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตอย่างมาก ถึงแม้ตอนนี้ผู้บริโภคคนไทยยังไม่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย แต่ตลาดอีคอมเมิร์ซเมืองไทยแต่ละปีก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าอีก 20 ปีข้างหน้าคนไทยจะไม่รู้สึกแตกต่างระหว่าง Retail กับ Online Retail แต่จะมองแค่เป็นห้างฯ เหมือนกัน แค่พอใจจะไปซื้อสินค้าที่ไหนเท่านั้น
วรวุฒิ กล่าวต่อว่า พฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยนิยมใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสูงขึ้นทุกปี ประกอบกับจำนวนสมาร์ทโฟนเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนประมาณ 35 ล้านเครื่อง และถ้าคนเหล่านี้ซื้อสินค้าผ่านโมบายล์คอมเมิร์ซวันละ 100 บาท เท่ากับว่าจะมีเงินจำนวน 3,500 ล้านต่อเดือน ทุกวันนี้คนไทยใช้เงินในการทานข้าววันละ 100 บาท ถ้าคนกลุ่มนี้สามารถใช้โทรศัพท์มือถือชำระเงินค่าข้าวได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มูลค่าตลาดออนไลน์จะเติบโตแน่นอน
ฉบับที่ 200 เดือนสิงหาคมชำระเงินผ่านแอพฯ แชต รับตลาดโมบายล์ |
ขายของที่คนใช้ประจำ
ปัจจุบันจำนวนสมาชิกที่เข้ามาซื้อดีลแบ่งเป็นผู้ชายและผู้หญิงอย่างละครึ่ง เนื่องจากเริ่มมีสินค้าที่เจาะกลุ่มผู้ชายมากขึ้น สินค้าส่วนใหญ่ที่นำดีล มาให้เลือกช้อปจะเป็นสินค้าที่ซื้อได้ง่าย และใช้ทุกวันเป็นประจำ เช่น กลุ่มสินค้ารีเทล อาทิ วิตามินที่คนรักสุขภาพต้องทานทุกวัน หรือผ้าอ้อมสำเร็จรูปหรือนมกระป๋องที่คุณแม่จะต้องซื้อทุกเดือน สินค้ากลุ่มนี้เรียกว่า Subscription Commerce ซึ่งจะเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นต่อไป
วรวุฒิ กล่าวว่า นอกจากนี้เทรนด์สินค้าที่จะได้รับความนิยมอีกอย่างคือ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับความหวัง ความเชื่อ เช่น ถ้าทานอาหารเสริมชนิดนี้แล้วสุขภาพดี หรือแบรนด์สินค้าไหนที่แข็งแกร่ง ได้รับการยอมรับของผู้บริโภค ส่วนใหญ่คนก็จะต้องการสินค้าแบรนด์นั้น ดังนั้นการคัดเลือกสินค้าในกลุ่ม Retail หรือร้านอาหาร และที่พัก จึงจะเลือกจากการยอมรับของผู้บริโภคหมู่มาก หรือสินค้าที่อยู่ในกระแสการพูดถึงขณะนั้น
รายการสินค้าและบริการของเอ็นโซโก้จึงครอบคลุมเทรนด์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เช่น ถ้าด้านสุขภาพ ความงาม ไม่ใช่จะมีดีลบริการด้านความงามเท่านั้น แต่ยังมีร้านอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย หรือเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคคนไทยเนื่องจากคนไทยเป็นกลุ่มคนที่อ่านข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตและเชื่อมคอนเทนต์ไว ถ้าเอ็นโซโก้สามารถมีสินค้าหรือบริการรองรับความต้องการได้ทันที จะยิ่งทำให้ผู้บริโภคที่อยากได้ดีลสินค้าหรือบริการใดเป็นพิเศษ ก็จะเปิดเข้ามาเลือกใช้เป็นช่องทางแรก
“วันแรกที่ผมเข้ามาที่เอ็นโซโก้ คุณทอม ศรีวรา ผู้ก่อตั้งเอ็นโซโก้บอกผมว่า ถ้าเข้ามาทำงานที่เอ็นโซโก้จะต้องทำอย่างหนึ่งให้เกิดขึ้นคือ วันนี้คุณเอ็นโซโก้แล้วหรือยัง เหมือนวันนี้คุณดื่มนมแล้วหรือยัง ซึ่งวันนี้เรายังยึดแนวคิดนี้ให้เกิดกับทั้งพนักงานและสมาชิกตลอดเวลา”
ขยายฐานลูกค้าแบบมืออาชีพ
วรวุฒิ กล่าวว่า เอ็นโซโก้มีสมาชิก 3 ล้านราย จากจำนวนประชากรคนไทย 66 ล้านคน การเป็นพาร์ตเนอร์กับ LINE Thailand ซึ่งมีฐานลูกค้าสูงถึง 30 ล้านคน ถือเป็นโอกาสที่ดีในการขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็วถ้าให้ลูกค้า LINE กลายเป็นลูกค้าเอ็นโซโก้ด้วย ตอนนี้เอ็นโซโก้มีสมาชิกใน LINE Official จำนวน 8.5 ล้านคน และตั้งเป้าว่าจะต้องดึงคนอีก 20 ล้านคน เข้ามาใช้บริการ โดยมีกลยุทธ์คือ การสร้าง Brand Awareness การคัดเลือกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ รวมถึงการจัดโปรโมชั่นดึงดูดให้ลูกค้า LINE ได้ลองซื้อดีล
วรวุฒิ กล่าวต่อว่า ระบบโลจิสติกส์ถือเป็นหัวใจสำคัญกับการทำธุรกิจออนไลน์ ในอนาคตกำลังวางแผนออกแบบในการจัดส่งแบบเลือกวันและเวลาได้ เนื่องจากพบว่า บางครั้งการสั่งซื้อสินค้าผู้ซื้อไม่ได้มีความต้องการเร่งด่วนในการรับสินค้า เพราะถ้าเป็นสินค้าที่ต้องการเร่งด่วนการไปซื้อที่ไฮเปอร์มาร์ท หรือร้านสะดวกจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ดังนั้นจึงคิดว่าหากมีบริการนี้เพิ่มขึ้นจะทำให้สมาชิกมีทางเลือกในการรับสินค้าหลากหลายยิ่งขึ้น
ระบบการชำระเงินเป็นอีกหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโต ตอนนี้เอ็นโซโก้มีช่องทางการชำระเงินหลากหลายให้แก่สมาชิกได้เลือกชำระเงินตามความต้องการ ตั้งแต่บัตรเครดิต เคาน์เตอร์เซอร์วิส ธนาคาร Cash on Delivery ซึ่งการชำระเงินรูปแบบนี้จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าไม่มีบัตรเครดิต และลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัด รวมถึงกลุ่มคนที่ไม่มั่นใจในการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ และล่าสุด LINE Pay ที่คาดว่าจะช่วยขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มจากผู้ใช้งาน LINE ที่มีบัญชีของ LINE Pay ซึ่งทำให้ง่ายต่อการซื้อดีลและสินค้าพิเศษจากเอ็นโซโก้ได้ง่ายขึ้น
อีคอมเมิร์ซกับความเชื่อมั่น
“การทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้เติบโตอย่างยั่งยืนและครองใจผู้บริโภคได้นั้นสิ่งสำคัญคือ การสร้างความเชื่อมั่น เอ็นโซโก้อยู่ในตลาดอีคอมเมิร์ซมา 5 ปี ซึ่งเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่สมาชิกยังเข้ามาซื้อสินค้าเอ็นโซโก้อย่างต่อเนื่องเพราะมีความมั่นใจสินค้าและบริการของเรา”
วรวุฒิ กล่าวต่อว่า นอกจากให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและบริการแล้ว บริการหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญ เช่น ระบบการชำระเงิน การจัดส่ง และการันตีสินค้า หากไม่พอใจยินดีคืนเงินภายใน 7 วัน โดยไม่ถามเหตุผล และถ้าเกินกว่านี้สามารถคืนสินค้าได้แต่ต้องระบุเหตุผลในการส่งสินค้าคืน
ตอนนี้ความเชื่อมั่นในอีคอมเมิร์ซไทยน่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริโภคพร้อมจะซื้อสินค้าออนไลน์เนื่องจากเทคโนโลยี ร้านค้าออนไลน์รายใหญ่และรายย่อยมีให้เลือกช้อปมากมาย ประกอบกับระบบการชำระเงินที่สะดวกสบาย ตอบโจทย์ผู้ซื้อในทุกกลุ่ม ซึ่งถ้าหน่วยงานภาครัฐมีการก่อตั้งหน่วยงานมาดูแลการซื้อ-ขายผ่านออนไลน์อย่างจริงจังเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นอย่างมาก
“การเลือกช่องทางการชำระเงินทุกอย่างเริ่มต้นที่ลูกค้าว่านิยมใช้จ่ายรูปแบบใด สำหรับลูกค้าเอ็นโซโก้ 85 เปอร์เซ็นต์ ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ากลุ่มกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถ้าเราต้องการจะขยายฐานลูกค้าไปยังภาคต่างๆ เราจะมองว่าพาร์ตเนอร์ไหนสามารถช่วยได้ ซึ่ง LINE Pay เป็นรูปแบบหนึ่งที่สามารถเข้าถึงกลุ่มนี้ได้จากจำนวนสมาชิกไลน์ 33 ล้านราย เพียงแค่มีสมาร์ทโฟน กับแอพฯ LINE ลูกค้าจะได้รับดีลให้เลือกคลิกซื้อและชำระสินค้าได้ง่าย”
การมีช่องทางการตลาดพร้อมกับการชำระเงินบน Eco System เดียวกันยิ่งทำให้การซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ได้ง่าย สามารถปิดการขายได้ทันที การร่วมทำแคมเปญกับ LINE นอกจากจะช่วยขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเพิ่มประสบการณ์ที่ดีจากการซื้อ-ขายดีลให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่ด้วย เพราะช้อปดีลง่ายเพียงไม่กี่คลิกแถมได้สติ๊กเกอร์ไลน์หรือของพรีเมี่ยมน่า รักจาก การช้อปด้วย
“LINE Pay คือทิศทางที่เรามองไว้ในการทำการตลาดผ่าน LINE และให้ข้อเสนอที่มากกว่าเดิม สมาชิกเอ็นโซโก้จะได้สติ๊กเกอร์ที่พิเศษแปลกกว่าคนอื่นถ้าชำระผ่าน LINE Pay เราพยายามลงทุน มุ่งมั่นพัฒนาด้าน Customer Experience ต่อเนื่อง ให้ความสำคัญหลังจากการซื้อดีลว่าจะได้รับสิ่งพิเศษด้วยเช่นกัน และในการเข้าถึงตลาดต่างจังหวัดเราพยายามสื่อสารลูกค้า ประชาสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้า LINE Pay, LINE Chat และ Ensogo ให้ทุกคนรู้ว่าตอนนี้สามารถซื้อสินค้าได้แล้วผ่าน LINE Pay ในราคาพิเศษและชำระเงินได้ง่าย”
ถึงแม้ตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคจะนิยมเข้าโมบายล์อินเทอร์เน็ตมากกว่าหน้าจอพีซี แต่ด้วยความจำกัดของหน้าจอ ทำให้ไม่สามารถอ่านหรือดูรายละเอียดสินค้าได้มากเท่ากับหน้าจอพีซี พบว่าถึงแม้ทราฟฟิกจะมาทางโมบายล์เยอะ แต่เวลาตัดสินใจซื้อดีลสินค้าจะกดซื้อจากหน้าจอพีซี ในอนาคตถ้าเป็น Commodity มากขึ้น เช่น น้ำปลา ว่าสินค้าเป็นอย่างไรสามารถกดซื้อได้ทันที แต่สินค้าบางอย่างต้องการอ่านรายละเอียดเราจึงยังเห็นการเข้าในหน้าจอพีซี
จากผลสำรวจพบว่า ค่าเฉลี่ยของจำนวนการใช้งาน ทั้งเฟซบุ๊กและไลน์ประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ที่ LINE Pay จะเป็นหนึ่งใน Revolution เมื่อผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าจะซื้อบน LINE Chat เพราะได้ราคาพิเศษและใช้ LINE Pay ชำระเงินเพราะเห็นสินค้าบนไลน์สามารถคลิกซื้อและจ่ายได้ทันที ทำให้มีโอกาสน้อยมากในการไปจ่ายเงินบนแพลตฟอร์มชำระเงินอื่น
วรวุฒิ กล่าวว่า อีคอมเมิร์ซในเมืองไทยโตได้อีกมาก เพราะคนไทยบริโภคข้อมูลข่าวสารรวดเร็วมากบนออนไลน์ ทำให้เชื่อมั่นว่าจะปรับเข้ากับเทรนด์การซื้อ-ขายออนไลน์ได้เร็วมากขึ้นในอนาคต อย่างที่สองประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิต เพราะฉะนั้นการนำของต่างๆ มาขายจะง่ายขึ้น เพราะสังคมเริ่มเป็นอีคอมเมิร์ซแบบสมบูรณ์แบบ เด็กนักเรียน นักศึกษาขาย และผู้ประกอบการเริ่มหันมาขายของออนไลน์ และ AEC ประเทศไทยมีระบบพร้อมในการค้าขาย เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ต ระบบการชำระเงิน เพียงแต่ว่าตอนนี้คนมีเงินใช้จ่ายกันมากแค่ไหน และภาครัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้เร็วแค่ไหน
“ตอนนี้เอ็นโซโก้มีแอพพลิเคชั่นทั้งบน iOS และ Android โดยมีจำนวนผู้ดาวน์โหลดสูงถึง 1 ล้านราย แต่ปีนี้ได้มีการเปลี่ยนแอพฯ โฉมใหม่ ซึ่งสมาชิกมาดาวน์โหลดประมาณ 3 แสนราย จากตัวเลขนี้คาดว่าบางส่วนจะซื้อของบนเว็บไซต์จึงไม่ได้เข้ามาดาวน์โหลดแอพฯ เพื่อใช้งาน แต่จะพยายามทำการตลาดให้สมาชิกหันมาใช้งานผ่านโมบายล์มากยิ่งขึ้น เพราะเทรนด์ที่เกิดขึ้นคือ คนใช้งานผ่านโมบายล์เพิ่มขึ้นทุกปี”