พฤติกรรมการออกกำลังกายและเข้าฟิตเนส เพื่อดูแลรูปร่างได้รับความนิยมจากเหล่าคนรักสุขภาพเป็นอย่างมาก หลายคนยอมจ่ายเงินเพื่อเป็นเมมเบอร์ จ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวเพื่อให้มีรูปร่างที่ดี และได้ผลตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ด้วยข้อจำกัดบางประการ อาจจะทำให้ไม่สามารถมีเวลาที่แน่นอนในการออกกำลัง หรือเป็นไปได้ตามแพลนที่เทรนเนอร์นั้นวางเอาไว้ให้
FitMeUp แอพพลิเคชั่น ผลงานของ สุรัติกร ชุมแก้ว, ภาคภูมิ พงษ์สวัสดิ์ และธัญชนก มณีสุธรรม ที่จะช่วยให้คำแนะนำในการออกกำลังกายและการทานอาหาร เพื่อให้มีรูปร่างที่ต้องการ ภายใต้เป้าหมายและข้อจำกัดของแต่ละบุคคล ที่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และสะดวกกว่า เพราะอยู่บนแพลตฟอร์มโมบายล์
ลดค่าใช้จ่ายการจ้างในมาตรฐานที่เท่ากัน
ด้วยความที่คนหันมาใส่ใจสุขภาพและออกกำลังกายกันมากขึ้น และการเข้าถึงข้อมูลเพื่อออกกำลังก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน แต่การที่มีข้อมูลจำนวนมาก และปฏิบัติตามทุกอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะได้ผลดีกับทุกๆ คน
“การออกกำลังเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เพราะว่าโครงสร้างร่างกายกล้ามเนื้อของคนเราไม่ได้เหมือนกัน อย่างข้อมูลในอินเทอร์เน็ตที่มากมายขนาดนั้น มันก็ต้องใช้การสังเคราะห์ให้เป็นด้วย ซึ่งในบางครั้งก็ทำตามได้ยากด้วย ทำให้คนหันหน้าไปพึ่ง Personal Trainer เพื่อให้ช่วยเหลือได้ถูกจุด แต่ว่าอัตราค่าจ้างก็มีราคาสูงเมื่อเทียบกับรายได้มาตรฐาน อย่างต่ำก็ 700 บาท ต่อชั่วโมง หรือถ้าเป็นออนไลน์ก็ 3,500 – 9,000 บาท ต่อเดือน”
FitMeUp จึงถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ต้องการมีรูปร่างที่ดีสามารถเข้าถึงได้ง่าย ด้วยการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยมีการให้คำแนะนำเรื่องของการออกกำลังกายและคุมอาหาร เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยมุ่งหวังให้ประหยัดกว่าการจ้างเทรนเนอร์
ใช้เทคโนโลยีช่วยวิเคราะห์เพื่อให้ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ
ก่อนหน้านี้ทางผู้พัฒนาได้มีการจัดทำเว็บไซต์เพื่อให้ข้อมูลมามากกว่า 7 ปี ซึ่งพบว่า คำถามที่ผู้ใช้งานเข้ามาถามก็มีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งส่วนนี้น่าจะนำระบบคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในการช่วยตอบได้ โดยใช้ข้อมูลจากประสบการณ์ของทีมงานที่มีทั้งโปรแกรมเมอร์และเทรนเนอร์ เพื่อให้ผลงานออกมาได้มาตรฐานมากที่สุด
อัตราค่าบริการจะถูกกว่าการจ้างเทรนเนอร์ออนไลน์ โดยเทรนเนอร์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มนี้จะมีระบบเรตต์ติ้งเพื่อให้รักษามาตรฐาน การทำงาน และลูกค้าก็สามารถเปลี่ยนเทรนเนอร์ได้ตลอดเวลา ภายในแอพฯ ยังมีส่วนลดเกี่ยวกับธุรกิจเวทเทรนนิ่ง
เมื่อเปรียบเทียบ FitMeUp กับแอพฯ หรือเว็บไซต์อื่นๆ จะวางตัวไว้ในรูปแบบของ Personal Trainer เฉพาะบุคคล ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ในเบื้องต้นจะมีการใช้งานฟรีที่สำเร็จรูป เพื่อให้ทำตามได้ง่ายๆ ซึ่งหากต้องการคำแนะนำแบบส่วนตัวก็จะมีค่าบริการ 300 บาทต่อเดือน และหากต้องการพูดคุยหรือคำแนะนำเพิ่มเติมแบบเทรนเนอร์ออนไลน์ก็จะมีค่าใช้บริการ 2,200 บาทต่อเดือน โดยสามารถแชตเพื่อสอบถามได้ตลอดเวลาอีกด้วย
ฉบับที่ 214 เดือนตุลาคมAI สำหรับแบรนด์ ผู้ช่วยในยุค IoT |
ทั้งนี้ อัตราค่าบริการจะถูกกว่าการจ้างเทรนเนอร์ออนไลน์ โดยเทรนเนอร์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มนี้จะมีระบบเรตต์ติ้งเพื่อให้รักษามาตรฐานการทำงาน และลูกค้าก็สามารถเปลี่ยนเทรนเนอร์ได้ตลอดเวลาอีกด้วย นอกจากนี้ ภายในแอพฯ ยังมีส่วนลดเกี่ยวกับธุรกิจเวทเทรนนิ่ง ซึ่งทางส่วนธุรกิจเองก็จะได้ข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และปรับใช้เพื่อการให้บริการต่อไป
ส่งเสริมให้มีรูปร่างที่ดีด้วยการสร้างแรงบันดาลใจ
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาใช้งานแอพฯ คือกลุ่มคนลดความอ้วน รวมทั้งกลุ่มคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และมีการเติบโตสูงมาก ซึ่งการใช้งานเบื้องต้นก็จะใช้ข้อมูลพื้นฐานเพียงแค่ เพศ อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง รูปร่างปัจจุบัน และรูปร่างที่ต้องการ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกประยุกต์ให้เข้ากับอุปกรณ์และเวลาที่ผู้ใช้งานมี โดยผ่านการแนะนำจากเทรนเนอร์โดยตรง ซึ่งนำไปปฏิบัติตามได้ทันที
ความเหมาะสมของท่าออกกำลังกายและเวลาเป็นสิ่งที่จะทำให้เห็นผลได้ดีที่สุด ซึ่งภายในแอพฯ จะมีภาพ Before & After เพื่อให้เห็นถึงการเปรียบเทียบพัฒนาการ และในอนาคตจะมีการให้เห็นโปรไฟล์ของผู้ใช้งานที่เป็นเพื่อนกันด้วยเพื่อให้เกิดการกระตุ้น เป็นแรงจูงใจให้ออกกำลังอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
“เราจะเน้นการสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังให้กับลูกค้า อาทิ การทำภารกิจต่างๆ การแข่งขัน พบปะเทรนเนอร์และผู้ใช้งานท่านอื่นๆ เพื่อความใกล้ชิด เพื่อเป็นการกระตุ้นพฤติกรรมการออกกำลังกาย และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้ตามความต้องการ”
เมื่อเทรนเนอร์ราคาแพงถูกย่อส่วนลงมาอยู่ในมือ พร้อมกับราคาที่ถูกกว่า ด้วยการพัฒนาแอพฯ ฝีมือคนไทย FitMeUp จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ออกกำลังกายที่มีเวลาน้อย และค่าใช้จ่ายที่จำกัด เหมาะกับการออกกำลังกายเองที่บ้าน และสามารถสร้างรูปร่างที่ดีได้อย่างแท้จริง