เพียงแค่ระยะเวลา 1 เดือน LINE Pay มีจำนวนผู้สมัครใช้งานกว่า 1ล้านบัญชี ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มให้บริการทางการเงิน ปัจจุบัน LINE ประเทศไทยมีผู้ใช้งานจำนวน 33 ล้านราย โดย LINE คาดว่า LINE Pay และเป็นส่วนสำคัญกับการผลักดันให้บริการเติบโตในอนาคต
ประภากร ลิปิกรณื หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ LINE Pay
คนไทยเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อสติ๊กเกอร์ผ่านแพลตฟอร์ม LINE โดยที่ไม่รู้สึกว่าการซื้อ-ขายในรูปนี้คือแบบอีคอมเมิร์ซอย่างหนึ่ง จึงทำให้เกิดการละลายพฤติกรรมความกลัวและเริ่มคุ้นชินในการชำระเงินซื้อสินค้าและบริการผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น
เพื่อนักช้อป สาวกไลน์
ประภากร ลิปิกรณ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ LINE Pay กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศไทยจัดเป็นอันดับ 2 ของโลกในการใช้งานแอพพลิเคชั่น LINE รองจากประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นประเทศไทยจึงเป็นประเทศที่ LINE ให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะมีการเติบโตของผู้ใช้อย่างต่อเนื่องทั้งด้านโปรดักส์และคอนเทนต์
ประภากร กล่าวต่อว่า LINE ได้ทำการสำรวจตลาด E-Payment ของเมืองไทย โดยศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคว่า ก่อนตัดสินใจนำบริการ LINE Pay มาเปิดต่อจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การปรับเปลี่ยนเป็นภาษาให้รองรับการใช้งาน พร้อมกับการยื่นเรื่องในการขอเป็นผู้ให้บริการด้าน E-Payment ต่อธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อสามารถเชื่อมต่อกับ Payment Gateway กับธนาคารภายในประเทศ
สร้างพฤติกรรมซื้อออนไลน์
คนไทยที่มีความชื่นชอบสติ๊กเกอร์ LINE คาแร็กเตอร์ต่างๆ ทั้งแบบแจกฟรีและซื้อ โดยส่วนรายได้จากการขายสติ๊กเกอร์ของ LINE ประเทศไทยมียอดจำหน่ายไม่แพ้ประเทศอื่นๆ พฤติกรรมนี้ทำให้คนไทยเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อสติ๊กเกอร์ผ่านแพลตฟอร์ม LINE โดยที่ไม่รู้สึกว่าการซื้อ-ขายในรูปนี้คือแบบอีคอมเมิร์ซอย่างหนึ่ง จากเมื่อก่อนกลัวการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่ได้ทดลองซื้อสติ๊กเกอร์และเหรียญในเกมของ LINE จึงทำให้เกิดการละลายพฤติกรรมความกลัวและเริ่มคุ้นชินในการชำระเงินซื้อสินค้าและบริการผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น
LINE Pay เปิดตัวเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา ตอนนี้มีผู้สมัครใช้บริการประมาณ 1 ล้านไอดี และผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในเมืองไทยกับร้านค้ารายย่อยอีกจำนวนหนึ่งได้สมัครเข้าร่วมใช้บริการแล้ว โดยการสมัครเชื่อมต่อ LINE Pay กับร้านค้า แบ่งเป็น 2 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1. ผู้ประกอบการรายใหญ่ฝ่ายเซลติดต่อเพื่อแนะนำโปรดักส์และให้ทดลองสมัครใช้บริการ 2. ร้านค้ารายย่อย สามารถสมัครใช้งานเพื่อเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ได้ที่เว็บไซต์ line.me
ในเฟสแรกได้ทำการเริ่มเชื่อมต่อกับกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของตลาดอีคอมเมิร์ซ ได้แก่ ลาซาด้า เอ็นโซโก้ และซีเอ็ด ซึ่งเป็นพันธมิตรที่นำ LINE Pay ในการรับชำระเงินให้แก่สมาชิกออนไลน์
โซลูชั่นการชำระเงินหลากหลาย
ประภากร กล่าวต่อว่า LINE Pay มีโซลูชั่นสำหรับร้านค้ารายใหญ่และรายย่อย โดยสามารถเลือกเชื่อมต่อได้ทั้งเว็บไซต์ โมบายล์ แอพพลิเคชั่น และหน้าร้าน โดยถ้าเป็นร้านค้ารายใหญ่จะเชื่อมต่อกับบริการ POS (Point of Sale) ซึ่งซีเอ็ดเป็นร้านค้าแรกของไทย และ LINE ที่ทำการเชื่อมต่อระบบนี้กับหน้าร้านที่เป็นออฟไลน์ เมื่อผู้ซื้อต้องการชำระเงินด้วย LINE Pay ที่หน้าร้านของซีเอ็ด จะต้องเปิดเข้าไปแอพพลิเคชั่นเพื่อขอ LINE Code ด้วยวิธีสร้าง QR Code หรือขอเป็นรหัส ซึ่งรหัสนี้จะมีอายุในช่วงระยะเวลาสั้นเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานในการชำระเงินผ่าน LINE Pay ส่วนหน้าร้านเพียงแค่ใส่ราคาหรือสแกนสินค้า และกดยืนยันการชำระเงินเท่านั้น ข้อมูลในการแจ้งการชำระเงินจะส่งทำการผ่าน LINE Pay Server เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของผู้ซื้อให้กดยืนยันการสั่งซื้อ
ส่วนร้านค้ารายย่อยหรือกลุ่ม SMEs จะมีบริการ Web POS รองรับเนื่องจากระบบ POS ค่อนข้างลงทุนสูงและใช้อุปกรณ์ในการติดตั้งเยอะ ประกอบกับร้านค้ารายย่อยหรือกลุ่ม SMEs ส่วนใหญ่จะขายแบบออกบูธตามงานแฟร์ บนออนไลน์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก และทุกวันนี้ร้านค้าเวลาโปรโมตร้านจะมีการเขียนช่องทางการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เสมอ ซึ่ง LINE ถือเป็นช่องทางแรกที่ถูกนำมาใช้ติดต่อ ดังนั้น การใช้บริการ Web POS จะเข้ามาตอบโจทย์การซื้อ-ขายผ่านแพลตฟอร์มแชตได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาในการเข้าไปในหน้าแอพพลิเคชั่นใหม่ เพื่อทำการโอนเงินจากบัญชีธนาคารหรือเดินไปตู้เอทีเอ็ม สามารถปิดการขายได้ทันที
ประภากร อธิบายต่อว่า การใช้งาน Web POS ของ LINE Pay นั้น เมื่อลูกค้าแจ้งรหัสสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อ ทางร้านค้าจะเข้าไปดาวน์โหลดรหัสสินค้าของ LINE Pay Merchant ด้วยการเข้าระบบผ่านเว็บไซต์และสร้างป้ายราคาขึ้นมาในรูปแบบ QR Code เมื่อสร้างเสร็จส่งให้กับผู้ซื้อเพื่อทำการสแกนและกดยืนยันการชำระเงิน ทั้งนี้จะต้องมีการพูดคุยกันผ่านสองดีไวซ์คือ พีซีและโมบายล์ ที่จะนำมาใช้สแกน QR Code ซึ่งรูปแบบการชำระเงินแบบนี้เป็นการช่วยเหลือร้านค้าให้สามารถซื้อ-ขายสินค้าเบ็ดเสร็จภายใน LINE และที่สำคัญแก้ปัญหาให้กับลูกค้าด้วยการสร้างความมั่นใจว่าไม่โดนหลอกเพราะโอนเงินผ่าน LINE Pay ส่วนร้านค้าจะทำให้สามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น เพราะลูกค้าตัดสินใจซื้อและชำระเงินได้ทันทีไม่ว่าจะผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต
 |
ฉบับที่ 200 เดือนสิงหาคมชำระเงินผ่านแอพฯ แชต รับตลาดโมบายล์ |
นอกจากนี้ รูปแบบนี้จะเอื้อกับคนไปออกบูธขายสินค้า เช่น ร้านขายลูกชิ้น ไม้ละ 20 บาท ร้านค้าเข้าไปในเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อสร้างป้ายราคาขึ้นมาเป็น QR Codeให้ลูกค้ามาสแกนชำระเงินได้ทันที ซึ่งช่วยแก้ปัญหาของร้านค้ารายเล็กที่ไม่ต้องการจ่ายค่าเช่าเครื่อง EDC ให้สามารถรับชำระบัตรเครดิตและเดบิตได้เพียงมีสมาร์ทโฟนเท่านั้น อีกทั้งแก้ปัญหาให้ผู้ซื้อกรณีขี้เกียจเดินหาตู้เอทีเอ็มเวลาเดินช้อปและเงินเหลือในกระเป๋าไม่พอ หรือช่วยให้ผู้ซื้อสินค้าสามารถจ่ายเงินจำนวนหลักสิบบาทด้วยบัตรเครดิตได้บนบัญชีของ LINE Pay ที่สำคัญไม่ต้องพกเหรียญให้หนักกระเป๋าอีกต่อไป
สำหรับร้านค้าที่ต้องการเชื่อมต่อระบบการชำระเงิน LINE Pay ในรูปแบบ Web POS สามารถสมัครและเปิดใช้งานได้ไม่ถึงชั่วโมงก็สามารถเปิดรับชำระได้ทั้งบัตรเครดิตและเดบิตได้เลย โดยค่าธรรมเนียมร้านค้าตอนนี้มีการจัดแคมเปญลดค่าธรรมเนียมให้ถึงสิ้นเดือนตุลาคม แต่หลังจากนั้นจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมของร้านค้าที่มีการใช้บริการผ่าน LINE Pay คือ 3 เปอร์เซ็นต์ ในการโอนเงินจาก LINE Pay ไปให้ยังร้านค้าที่ใช้บริการนั้น เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้เปิดให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ จึงเป็นการโอนเงินกลับไปยังบัญชีของร้านค้าที่แจ้งในขั้นตอนลงทะเบียนไว้ โดยจะโอนเงินจากบัญชี LINE Pay ไปยังบัญชีร้านค้าภายในเวลา 4 วันทำการ
ชำระเงินมั่นใจปลอดภัย
“LINE Pay ใช้แพลตฟอร์มของ CyberSource ซึ่งเป็นบริษัทลูกของวีซ่า เพราะฉะนั้นในอนาคตคงจะต้องมีการร่วมมือกันแน่นอน และในอนาคตคาดว่าจะมีแคมเปญดีๆ กับด้าน Card Association ด้วย”
ร้านขายลูกชิ้น ไม้ละ 20 บาท ร้านค้าเข้าไปในเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อสร้างป้ายราคาขึ้นมาเป็น QR Code ให้ลูกค้ามาสแกนชำระเงินได้ทันที ซึ่งช่วยแก้ปัญหาของร้านค้ารายเล็กที่ไม่ต้องการจ่ายค่าเช่าเครื่อง EDC ให้สามารถรับชำระบัตรเครดิตและเดบิตได้เพียงมีสมาร์ทโฟนเท่านั้น
ประภากร กล่าวว่า สำหรับร้านค้าที่สมัครใช้งาน LINE Pay มั่นใจได้ว่าจะไม่เจอการ Fraud ขึ้น เนื่องจากได้มีการพัฒนาระบบในการตรวจสอบบัตรเครดิตและเดบิตทุกครั้งก่อนการชำระเงินถ้าใช้งานได้ถึงจะอนุมัติให้ทำการส่งไปตัดรายการหน้าร้าน นอกจากนี้ LINE Pay จะมีทั้งระบบอัตโนมัติและธรรมดา ซึ่งระบบธรรมดาเอาไว้รองรับกรณีที่ไม่สามารถตัดสต๊อกแบบเรียลไทม์ได้บนหน้าเว็บไซต์ เช่น วันนี้ซื้อของในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ระบุว่าต้องเช็กสินค้าก่อน และเมื่อมีพร้อมจัดส่งถึงจะทำการจัดยอดเงินใน LINE Pay ซึ่งกรณีนี้จะมีระบบ Manual ให้เพื่อเช็กสต๊อกสินค้าก่อนเมื่อมีสินค้าพร้อมและจัดส่ง ร้านค้าจะเข้าระบบ Merchant site เพื่อกดยืนยันการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าและให้ระบบทำการตัดเงินในบัญชี LINE Pay
กรณีของลูกค้าที่ถูกร้านค้าเบี้ยวส่งสินค้า หรือมีปัญหากับการซื้อสินค้าสามารถแจ้งเข้ามาที่ LINE ได้ทันที ในหน้า Help page (Contact.line.me) โดยเจ้าหน้าที่ของ LINE จะทำการประสานงานไปยังธนาคารผู้ออกบัตร และร้านค้าเพื่อติดตามแก้ไขปัญหา ซึ่งถ้าร้านค้ากระทำผิดจริงจะติด Black list ทันที
การเว้นระยะในการส่งเงินให้กับร้านค้าโดยไม่โอนเงินเข้าบัญชีทันที เพราะต้องการถือเงินไว้จนกว่าจะแน่ใจว่าสินค้าได้ส่งถึงมือผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโดยเฉลี่ยสินค้าจะถูกจัดส่งประมาณ 3-4 วันในกรณีลงทะเบียน เพราะถ้าของยังส่งไม่ถึงภายใน 2 วัน จะได้รู้แล้วว่าอาจเกิดปัญหาขึ้นกับลูกค้าและเราจะได้เข้าไปช่วยเหลือได้ทัน
ช่วงนี้ผู้ที่ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ถ้าซื้อ LINE Credit ผ่านทาง LINE Pay จะได้โบนัสเพิ่มอีก 25 เปอร์เซ็นต์ หรือร้านค้าที่ร่วมทำโปรโมชั่นกับ LINE เมื่อลูกค้าชำระเงินผ่าน LINE Pay จะได้รับชุด LINE Sticker หรือตุ๊กตา LINE รวมถึงโปรโมชั่นที่ร้านค้ามอบให้เพิ่มด้วย เช่น ซื้อผ่าน LINE Pay ลด 25 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น
ตอนนี้ LINE Pay สามารถใช้เดบิตการ์ดได้ทั้งหมด 3 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย คาดว่าต่อไปหากธนาคารที่สามารถใช้บัตรเดบิตเพื่อรับชำระเงินออนไลน์ได้ทาง LINE Pay ก็จะเข้ามาให้บริการเพิ่มแน่นอน ส่วนบัตรเครดิตได้หมดทั้ง VISA MasterCard และ JCB
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
ประภากร เผยว่า ในไตรมาส 4 จะทำการเปิดตัวบริการใหม่คือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีฟีเจอร์หลากหลายและที่โดดเด่น น่าสนใจ ได้แก่ การโอนเงิน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม ซึ่งคาดว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ตลาดเติบโตระดับหนึ่งเนื่องจากลดปัญหาค่าธรรมเนียมในการโอนเงินผู้บริโภคได้ การหารเงิน ซึ่งมองคิดว่าจะเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่มีประสบการณ์การเวลาทานข้าวกันเป็นกลุ่มและเกิดความยุ่งยากเวลาเรียกเก็บเงินจะต้องมานั่งหารเงินและรวบรวมเงินส่งให้กับแม่ค้า ฟีเจอร์หารเงินนี้จะมาช่วยทำให้การหารเงินค่าทานข้าวสนุกและสะดวกยิ่งขึ้น
การเปิดให้บริการฟีเจอร์กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะมีส่วนผลักดันให้คนที่ใช้ LINE จำนวน 33 ล้านคน มาสมัครบัญชี LINE Pay มากยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มแรกที่จะเติมเงินเข้ากระเป๋าใบนี้มองว่าคือผู้ที่ใช้งานแอพฯ ต่างๆ ของ LINE ในการซื้อสติ๊กเกอร์ หรือเหรียญในเกม
ในเฟสแรกกับการเปิดใช้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์นี้จะมีฟีเจอร์ทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่
- การผูกกับบัญชีธนาคาร ซึ่งเมื่อผูกเรียบร้อยสามารถโอนเงินเข้ามายังกระเป๋าเงิน LINE Pay ได้ทันที
- มีช่องทางในการเติมเงินหลากหลายช่องทาง ได้แก่ ผ่านบัญชีหรือเคาน์เตอร์ธนาคารตู้เอทีเอ็ม รวมถึงเคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วไปที่วางแผนไว้
- การโอนเงิน หรือ P2P โดยฟีเจอร์นี้จะมีฟังก์ชั่น การขอเงิน หรือแจ้งสั่งในการโอนเงินไปให้อีกคนได้ ซึ่งฝั่งตรงข้ามที่เราขอเงินไปเขาสามารถยอมหรือปฏิเสธได้หมด
- หารเงิน เมื่อไปกินข้าวกับเพื่อนเราเป็นคนจ่ายก่อนในการเก็บเงินคืนที่หลังผ่านกระเป๋า LINE Pay ได้
“สำหรับตลาด e-Wallet มองว่า ทุกคนอยากเข้ามาให้บริการในตลาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิล ค่ายมือถือ หรือธนาคาร แต่สำหรับ LINE จะมีความแตกต่างเนื่องจากเราเป็น Mobile Platform ที่มีคนใช้งานเยอะที่สุดในประเทศ ดังนั้น สิ่งที่ LINE นำเสนอคือสำหรับคนวงกว้างไม่ได้เฉพาะแค่คนบางกลุ่มเท่านั้น”
ใน LINE Pay มีการวางแผนในการขยายไปยังธุรกิจกลุ่มของฟาสต์ฟู้ดและร้านอาหารเช่นกัน เพราะ LINE มองว่าเป็นตลาดสำคัญรองลงมาจากกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งอีกไม่นานจะเห็นว่ามีพาร์ตเนอร์รายใดที่เข้ามาร่วมกับ LINE Pay เพราะมองว่าการจับตลาดในกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่ใหญ่และน่าจะช่วยในการขยายฐานคนใช้งาน LINE Pay ได้เร็วขึ้นอีกทางหนึ่ง
ร้านค้าที่มาสมัครกับ LINE Pay จะได้รับการสนับสนุนด้าน Co-Marketing ฟรีภายใน eco system ของ LINE ทั้งหมด ร้านค้าหลายๆ ร้านมีกำลังที่จะเปิดธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แต่ไม่มีกำลังจะไปทำการตลาดเพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจ เรามีเครื่องมืออย่าง LINE Pay Official Account ที่ให้โปรโมตผ่านช่องทางนี้ได้ ตอนนี้มีคนตาม LINE Pay Official Account ประมาณ 6.8 ล้านคนแล้วและวันนี้เมื่อซื้อสินค้าด้วย LINE Pay จะมีสติ๊กเกอร์ให้ฟรี
“วิสัยทัศน์ของ LINE คือ ต้องการเห็นผู้ใช้งาน LINE จำนวน 560 ล้านคนทั่วโลกหันมาใช้ LINE Pay ในการชำระเงินให้กับร้านค้าทั้งออนไลน์ออฟไลน์ ร้านค้า 1 ร้าน ที่เปิดชำระผ่าน LINE Pay หมายถึงเขาสามารถรับชำระเงินจากลูกค้าทั่วโลกซึ่งก่อให้เกิดรายได้มหาศาล”
