เปิดตัว “LINK Collaboration Space” คอมมูนิตี้แห่งใหม่ ตั้งเป้าหวังเป็นศูนย์กลางเครือข่ายคนทำงานสายดิจิทัลโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Freelance พนักงานบริษัท และเอเจนซี โดยเป็นพื้นที่สร้างสรรค์แรงบันดาลใจในการทำงาน แบ่งปันองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ตลอดจนการต่อยอดไอเดียสร้างสิ่งใหม่ๆร่วมกัน หรือแม้แต่การนำความรู้มาปรับใช้ให้เกิดผลงานที่สร้างสรรค์และได้มาตรฐานที่ดี
ตอบรับทุกโจทย์การทำงาน เป็นมากกว่า Co-Working Space
จุดเด่นของ LINK Collaboration Space นอกจากสถานที่และบรรยากาศในแต่ละพื้นที่แล้ว ยังมีการผลักดันให้เกิดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นส่วนเสริมให้วงการดิจิทัลแข็งแรง ทั้งนี้แบ่งพื้นทีให้บริการออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่
1.LINK Digital Playground พื้นที่โซนแชร์ออฟฟิศ (Co-Working Space) และเช่าห้องประชุม เพื่อให้เป็นสร้างสรรค์ไอเดียการทำงาน ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับบริษัทสตาร์ทอัพ อย่าง Zanroo ในด้าน Social Insight monitoring รวมถึง Platform สำหรับ Freelance ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อย่าง Fastwork.co เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านการทำงานของคนดิจิทัล ซึ่งในพื้นที่จะประกอบด้วย ที่สำหรับการนั่งคิดงาน ห้องประชุม ห้องนอนสำหรับพักผ่อน และร้านกาแฟ เป็นต้น
พื้นที่แชร์ออฟฟิศ (Co-working Space) เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง สามารถรองรับได้ 30 ที่นั่ง พร้อมทั้งมีบริการพิมพ์เอกสาร ที่อยู่ในการติดต่อและรับส่งเอกสาร พร้อมขนม กาแฟและน้ำดื่มให้บริการไม่จำกัด โดยค่าบริการเริ่มต้น 200 บาท
Meeting Room สามารถรองรับคนจำนวนตั้งแต่ 4 – 30 คน ราคาเริ่มต้นที่ 300 – 1,200 บาทต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมที่รองรับถึง 100 คนอีกด้วย
LINK Studio บริการให้เช่าสตูดิโอ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ราคาเริ่มต้นที่ 1,200 บาท
2.LINK Digital Studio สตูดิโอโปรดักชั่น ที่มีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบครัน อาทิ กล้องถ่ายภาพคุณภาพสูง ชุดไฟ และฉาก เป็นต้น รองรับกระแสการทำคอนเทนต์ที่เปลี่ยนจากตัวหนังสือมาเป็นรูปภาพและภาพเคลื่อนไหวมากขึ้น เช่น Facebook Live , Youtube Live , ฉาก Green Screen ที่สามารถซ้อน Digital Background ได้อย่าง Real-Time , ระบบอัดเสียงสำหรับการทำรายการ Podcast ตลอดจนทีมงาน Post-Production ที่สามารถตัดต่อ อัดเสียงต่าง ๆ หลังจากการถ่ายทำได้ทันที
3.LINK Academy โซนนี้ถือเป็นไฮไลท์ โดยเป็นแหล่งรวมกิจกรรม Speaker, Meetup, Workshop ที่จะจัดขึ้นทุกเดือน รวมถึงมีหลักสูตรเสริมศักยภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างครบวงจรเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เช่น Digital Transformation ที่สร้างหลักสูตรร่วมกันกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก Accenture หรือหลักสูตรเข้มข้น 1 – 2 วัน กับผู้เชี่ยวชาญในแขนงต่าง ๆ อาทิ Online Ad Optimization, Story-telling, In-bound Marketing ไปจนถึง Branding for Digital Era
4.LINK Digital Creator Hub บริการ Solutions และ Service สำหรับ Online Creator โดยเฉพาะทั้ง Influencer, Youtuber, Blogger, Podcaster และ Creator ที่แต่ละคนสามารถโฟกัสกับสิ่งที่ตนเองถนัดคือการทำคอนเทนต์ โดยที่ทาง LINK จะร่วมพัฒนาในส่วนอื่น อาทิ สถานที่ทำงาน สตูดิโอ การพัฒนาองค์ความรู้ วางแผนการตลาดเพื่อเพิ่มยอดผู้ติดตาม ไปจนถึงสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมอีกด้วย
ส่งเสริมเครือข่ายดิจิทัลให้ยั่งยืน
รุ่งโรจน์ ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ LINK Collaboration Space บอกอีกว่า จะเข้าไปสนับสนุนและส่งเสริมให้คนดิจิทัลสามารถเติบโตและพัฒนาศักยภาพเฉพาะสายงานมากขึ้น เช่น ระบบฐานข้อมูลที่จะช่วยเชื่อมโยงกลุ่มคนดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งการต่อยอดไอเดียใหม่ , การส่งงานจากลูกค้าที่มีอยู่ในเครือข่าย , การหาเพื่อนร่วมงานในแวดวงดิจิทัล รวมถึงการขยายโอกาสในการทำงานอย่างยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย