ในยุคก่อนหน้านี้เกมอาร์เขดหรือเกมตู้ที่เราคุ้นชินกัน เป็นพื้นที่สำหรับความบันเทิงที่ใครต่อใครก็มุ่งหน้าไปหยอดเหรียญเพื่อได้รับประสบการณ์ที่น่าสนุกและตื่นเต้นในรูปแบบที่หาไม่ได้จากที่บ้าน แต่เมื่อเกมถูกย่อส่วนลงมาอยู่บนมือถือ และคอมพิวเตอร์มากขึ้น ทำให้ความนิยมของเหล่าเกมตู้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่เมื่อเทคโนโลยีที่ผนวกกับเกมในยุคใหม่อย่าง VR ได้เกิดขึ้น ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นกลับมาอีกครั้งในรูปแบบเสมือนจริง 360 องศา จึงเกิดเป็นสวนสนุกในรูปแบบ VR ที่ได้รับความนิยม อย่างมากในต่างประเทศ โดยทั้งนี้ก็ได้มีการเปิดให้บริการในประเทศไทยแล้วด้วยเช่นกัน
รัถภัทร์ โชติมงคล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วีอาร์ดับเบิ้ลยู วัน จำกัด กล่าวว่า VRX เป็นการร่วมทุนระหว่าง 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท วีอาร์ ดับเบิ้ลยูวัน ทำหน้าที่ควบคุมการบริหารของร้าน VRX ทั้งหมด บริษัท ดิสรัปทีฟ เทคโนโลยี จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านการจัดการนวัตกรรม (Innovation Management) และบริหารเทคโนโลยี VR, AR เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ความเป็นจริง และบริษัท เทอร์ทีน ฟออร์ คอร์ป บริษัทฯ ที่จัดหา Technology Partner และให้บริการเนื้อหาการจำลองสถานการณ์แบบ VR 360
การร่วมมือกันครั้งนี้เราได้ให้บริการ VR ARCADE ภายใต้ชื่อร้าน VRX ตั้งอยู่บนพื้นที่ 250 ตารางเมตร ณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ซึ่งเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับประสบการณ์เสมือนจริงพร้อมการมองเห็น 360 องศาผ่านเครื่องเล่น 5 ชนิด ด้วยเทคโนโลยีจาก อเมริกา ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ และจะนำอุปกรณ์ใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องรวมถึงขยายไปอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย
“นอกจากสร้างประสบการณ์ VR ในรูปแบบเกมแล้ว เรายังแผนการดำเนินธุรกิจขยายธุรกิจรูปแบบ VR ด้วย 2 กลยุทธ์หลัก คือ การแนะนำเทคโนโลยี VR สู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว การแพทย์ และธุรกิจอีเว้นท์ และกลยุทธ์การตลาดที่จะขยายฐานลูกค้าแบบ B2B คือ การขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์” รัถภัทร์ กล่าว
โดยในปีนี้จะเริ่มที่การเข้าสู่ธุรกิจอสังหาฯ ในการใช้ VR เพื่อดูพื้นที่ห้องตัวอย่างเสมือนจริง และส่วนของงานอีเว้นท์ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการทำมาร์เกตติ้ง ส่วนทางด้านแฟรนไชส์จะเริ่มในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเร็วๆ นี้จะเปิดที่พัทยา หัวหิน โดยแต่ละจังหวัดก็จะมีคอนเทนต์ที่โดดเด่นต่างกันไป เพื่อให้เป็นจุดดึงดูดของสาขานั้นๆ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเลยทีเดียว แต่ราคาก็อาจจะแรงไปนิดสำหรับเด็กๆ โดยเริ่มที่ 300-500 บาท ต่อเครื่องเล่น ใช้เวลา 15-30 นาที แต่ถ้าใครอยากจะเล่นทั้งวันก็มีราคาแบบ 1 day pass 1,290 บาทด้วย ซึ่งใครอยากไปทดลองเล่นในช่วงวันหยุดคงต้องเผื่อเวลาสักหน่อย เพราะว่าพื้นที่ของร้านนั้นไม่ใหญ่มาก แนะนำวันธรรมดาทางจะสะดวกกว่าแน่นอน