ประเทศไทยเป็นตลาดเศรษฐกิจอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียน โดยคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2561-2562 จากนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียว โซลูชั่นเมืองอัจฉริยะและ IoT วัสดุก่อสร้างเพื่อการสร้างเมืองสีเขียว เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานและการป้องกันสิ่งแวดล้อม จึงเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย และเป็นสิ่งที่จำเป็นในระบบอุตสาหกรรมในปัจจุบันและอนาคต
จากที่กล่าวมาข้างต้น ทางไต้หวันเห็นถึงโอกาสและได้จัดซุ้มผลิตภัณฑ์สีเขียวของไต้หวันจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมที่จะช่วยประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อมในงาน ตัวอย่างเช่น
ด้านโซลูชั่นเมืองอัจฉริยะและอินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) ได้แก่ หลอดไฟแอลอีดีและโคมไฟสำหรับบนถนน โคมไฟสำหรับอุตสาหกรรม สถานีชาร์จไฟ เซ็นเซอร์ตรวจสอบสภาพอากาศ หลังคาและแผงโซล่าเซลล์แสงอาทิตย์ประเภทพื้นผิวคริสตัล โมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบควบคุมแสงอัจฉริยะ
รวมไปถึงเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เช่น กระจกอัจฉริยะที่เปลี่ยนจากกระจกใสเป็นกระจกฝ้าและทึบแสงได้ซึ่งควบคุมโดยระบบไฟฟ้า กระจกประเภทฉนวนกันความร้อนแบบประหยัดพลังงานการวางแผนเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงเผาขยะและโรงบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่
เมืองอัจฉริยะเป็นเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่นำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในการอำนวยความสะดวก รวมไปถึงเมืองสีเขียวที่ผู้ประกอบการและทางภาครัฐในความสำคัญเพราะส่งผลถึงโลกที่เป็นที่อยู่อาศัยของทุกคน ผู้ผลิตนวัตกรรมอาจจะต้องนึกถึงความเชื่อมโยงระหว่าง 2 สิ่งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของของผู้บริโภคที่เริ่มเห็นความสำคัญ