โมเดลสตาร์อัพไทย ในธุรกิจจองตั๋วเครื่องบิน

กิตติกร กรรณเลขา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย วัน คลิก จำกัด

พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงโดยทุกวันนี้นักท่องเที่ยวต้องการความเรียบง่าย ความสะดวกรวดเร็ว รวมถึงความมั่นใจในการจองตั๋วเครื่องบิน

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมวางแผนและจองตั๋วเครื่องบินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก แต่เมื่อมองถึงแพลตฟอร์มการขายตั๋วเครื่องบินออนไลน์ในตลาดทั้งหมดส่วนใหญ่จะเป็นของต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการไทยขาดเครื่องมือและโอกาสในการแข่งขัน

โอกาสของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวออนไลน์
งานวิจัย “e-Conomy SEA: Unlocking the $200 Billion Opportunity in Southeast Asia” ที่จัดทำโดย Google และ Temasek แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบไปด้วย 1) โอกาสของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยตลาดอีคอมเมิร์ซจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 29 เปอร์เซ็นต์ จากมูลค่าราว 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2015 เพิ่มขึ้นเป็น 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025

2) โอกาสของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวออนไลน์ โดยคาดการณ์ ตลาดท่องเที่ยวออนไลน์ของไทยจะเติบโตราว 5.2 เท่า ภายในปี 2025 หรือคิดเป็นมูลค่าราว 21,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี ประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์อย่างการจองโรงแรมที่พักและตั๋วเครื่องบินต่างๆ ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 5 เท่าภายในปี 2025 จะมีมูลค่าแตะ 76,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคิดเป็น 85 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าตลาดการท่องเที่ยวโดยรวม

และ 3) โอกาสของแอพฯ ร่วมเดินทาง โดยมีการคาดการณ์ธุรกิจการเดินทางออนไลน์จะเติบโตมีมูลค่าราว 1,900 ล้านดอลลาร์-สหรัฐฯ ในปี 2025

รายงานนี้แสดงให้เห็นว่า มีโอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทยในขณะนี้ โดยเฉพาะในด้านโอกาสของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมา ระบบจองตั๋วเครื่องบินในประเทศไทยจะเป็นการจองผ่านตัวแทน หรือ Travel Agency และสายการบินโดยตรง ทำให้เข้าถึงตัวผู้บริโภคที่เป็นนักท่องเที่ยวยุคใหม่ได้ยาก ถึงแม้จะมีการแจ้งข่าวสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ก็เป็นเพียงการชี้ช่องทางเพื่อให้เข้าไปจองผ่านสายการบินนั้นๆ ทำให้แพลตฟอร์มจากต่างประเทศเริ่มเห็นช่องว่างและเข้ามาตีตลาดในประเทศไทย ซึ่งถ้าปล่อยให้กลุ่มนี้ครองตลาดได้ก็จะส่งผลทำให้ประเทศไทยเกิดความเสียเปรียบ เช่นเดียวกันกับตลาดการจองโรงแรมที่พักในช่วงที่ผ่านมา

“เทคโนโลยีจะส่งผลถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างใดอย่างหนึ่ง จนกระทั่งปลายปี 2016 ที่ Google กับ Temasek ได้ทำผลสำรวจพบว่า ตลาดการท่องเที่ยวออนไลน์ในอาเซียนมีขนาดใหญ่และยังเติบโตได้อีกมาก” กิตติกร กรรณเลขา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย วัน คลิก จำกัด กล่าว

การจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ทำได้มากกว่ารูปแบบเดิม
กิตติกร ให้ข้อมูลว่า บริษัท เอเชีย วัน คลิก จำกัด หรือ AOC ได้พัฒนาระบบ Internet Booking Engine หรือการจองตั๋วเครื่องบินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมาตั้งแต่ปี 2005 ทำงานกับเว็บไซต์การท่องเที่ยวออนไลน์กว่า 300 เว็บฯ ในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งานว่า กำลังสนใจจะเดินทางไปที่ใด และมี Algorithm เฉพาะด้านการค้นหาราคาจากพาร์ตเนอร์ต่างๆ เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน

จึงได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น Penguint (เพนกวินต์) ซึ่งเป็น Startup ในกลุ่ม Travel Tech โดยเป็นแอพฯ ที่ทำให้สามารถจองตั๋วเครื่องบิน จากระบบที่รองรับสายการบินกว่า 500 แห่งทั่วโลก ต่างจากแอพฯ อื่นๆ ที่จะให้บริการราคาค่าโดยสารจากสายการบินแห่งใดแห่งหนึ่งเท่านั้น เพราะในธุรกิจตั๋วเครื่องบินจะไม่มีผู้ให้บริการรายใดได้ราคาที่ดีที่สุดทุกสายการบิน

	ฉบับที่ 220 เดือนเมษายน จับตลาดในยุคโมบายล์เฟิร์ส

นอกจากนี้ ระบบการจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอพฯ penguint ยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับพฤติกรรมของคนไทยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการจองที่นั่งผ่านแอพฯ ไว้ก่อน และชำระเงินภายหลังผ่านทาง 7-Eleven, PayPal บัตรเครดิต หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ใช้งานตั้งแต่การไม่กล้าจองเพราะกังวลว่าจะกรอกข้อมูลผิด เลือกเที่ยวบินผิด หรือแม้แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้ตั๋วจริงหรือไม่ เพราะระบบจะมีการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลการจองก่อนส่ง E-Ticket

วัชระ เอมวัฒน์ กรรมการบริหารฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ เอเชีย วัน คลิก

แต่ถ้าหากผู้ใช้งานกรอกข้อมูลผิดพลาด มีข้อสงสัยระหว่างการจอง ต้องการแก้ไขหรือเพิ่มคำขอพิเศษ เช่น การเลือกอาหาร การเลือกที่นั่ง ก็สามารถสื่อสารผ่าน LINE Official Account @penguint ได้โดยตรง ซึ่งจะมีทีมงานคอยให้ความช่วยเหลือ จึงทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกถึงความเป็นมิตรและมีหลักฐานในการติดต่อทุกขั้นตอน ขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานยังสามารถตรวจสอบเที่ยวบินที่จองไว้กับแอพฯ penguint ได้ผ่านทาง www.checkmytrip.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของบริษัท Amadeus ที่เชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลของสายการบินทั่วโลก ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ตั๋วเครื่องบินที่จองไว้อย่างถูกต้องและเดินทางได้จริง

Penguint สร้างความแตกต่างจากแอพฯ อื่นก็คือ การสร้างระบบการวางแผน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทาง แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปที่ใดหรือไปในช่วงเวลาไหน ซึ่งระบบของ penguint จะช่วยค้นหาและสร้างทางเลือกในการตัดสินใจตั้งแต่แรกเริ่ม อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนการตัดสินใจจนกว่าจะได้ทางเลือกที่ดีที่สุด แม้กระทั่งตัดสินใจจองตั๋วไปแล้วก็ตาม

และจากการเปิดตัวเพื่อทดสอบระบบได้ประมาณ 3 เดือน แอพฯ penguint มีผู้ใช้งานมากกว่า 3 หมื่นราย และมีสัดส่วนผู้ใช้งานจริงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยอัตราการเติบโตของการดาวน์โหลดใน 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีสูงถึง 1,200 เปอร์เซ็นต์ และมียอดจำหน่ายตั๋วเครื่องบินผ่านระบบเติบโตถึง 300 เปอร์เซ็นต์ ต่อเดือน ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดผู้ใช้งานสูงถึง 3 แสนราย

ทักษะ บุนนาค กรรมการบริหารฝ่ายปฏิบัติการ เอเชีย วัน คลิก

Travel Tech Startup ไทยยังโตได้ ถ้ารู้จักเรียนรู้และนำเทคโนโลยีมาใช้
ทางด้าน ทักษะ บุนนาค กรรมการบริหารฝ่ายปฏิบัติการ และวัชระ เอมวัฒน์ กรรมการบริหารฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ ของ เอเชีย วัน คลิก เสริมด้วยว่า จากการเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ระบบ Booking Engine ผ่านเว็บไซต์และแฟนเพจ ปี 2016 พบว่า 5 อันดับของจังหวัดในประเทศไทยที่มีคนค้นหามากที่สุดคือ เชียงใหม่ 21.8 เปอร์เซ็นต์ กรุงเทพฯ 10.4 เปอร์เซ็นต์ หาดใหญ่ 9.8 เปอร์เซ็นต์ ภูเก็ต 9.6 เปอร์เซ็นต์ และเชียงราย 8.5 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ 5 อันดับของเมือง ที่มีคนค้นหามากที่สุดคือ โตเกียว 14.8 เปอร์เซ็นต์ ฮ่องกง 10.5 เปอร์เซ็นต์ โซล 8.6 เปอร์เซ็นต์ โอซาก้า 5.4 เปอร์เซ็นต์ และสิงคโปร์ 4.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสายการบินที่คนสนใจจะจองเพื่อเดินทางมากที่สุดคือ 1. การบินไทย 22.0 เปอร์เซ็นต์ 2. คาเธ่ย์ แปซิฟิค 8.9 เปอร์เซ็นต์ 3. เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ 6.9 เปอร์เซ็นต์ 4. ฮ่องกง แอร์ไลน์ 6.5 เปอร์เซ็นต์ และ 5. เอวาแอร์ 4.3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดนั้น เป็นการสะท้อนพฤติกรรมและความชื่นชอบของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

“โมเดลทางธุรกิจแบบ Startup ช่วยให้สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ปัญหาหลักของผู้ประกอบการไทยคือ ขาดการความรู้ความเข้าใจในการใช้โมเดลแบบ Startup ในการทำธุรกิจ ซึ่งนับว่ามีความจำเป็นอย่างมากในการแข่งขันกับแพลตฟอร์มจากต่างประเทศที่เริ่มเข้ามาตีตลาดในประเทศไทย”