ปีนี้อาชญากรรม ransomware (ไวรัสเรียกค่าไถ่) ขยายหนัก ทำสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมา โดยจากการสำรวจโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แค่ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ 2021 ก็พบการเรียกค่าไถ่รวมแซงปีที่แล้ว 2020 ทั้งปีไปแล้ว
เงินส่วนใหญ่เป็น Bitcoin และยังถูกฟอก ทำให้ยากต่อการสืบสาวไปถึงต้นตอ และส่วนน้อยเป็นเหรียญทางเลือกอื่นๆ โดยเหยื่อมีทั้งบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ โรงพยาบาล บริษัทประกันภัย และอื่นๆ อีกมากมาย
พฤติกรรมของ ransomware ทั่วไปคือจะแปลงข้อมูลทั้งหมดในคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ และเครื่องอื่นๆทั้งหมดในระบบ ให้กลายเป็นรหัสที่อ่านไม่ได้ ใช้ไม่ได้อีกต่อไป
ที่ผ่านมาหลายองค์กรทั่วโลกที่เคยโดนโจมตีลักษณะนี้ ยังไม่เคยมีรายไหนหาตัวผู้กระทำผิดได้ และส่วนใหญ่ก็กู้ระบบเดิมกลับมาไม่ได้ …และสุดท้ายวิธีแก้จะมีทางเดียว คือยอมจ่ายเงินเรียกค่าไถ่ให้เจ้าของ Malware โดยจ่ายผ่านเงินสกุลดิจิตัล เช่น บิทคอยน์
เว้นเสียแต่ว่าองค์กรนั้นๆมีการสำรอง backup ข้อมูลไว้ตลอดเวลา หรืออย่างน้อยทุกวัน แล้วแยกส่วนสำรองนั้นไว้ต่างหากไม่เชื่อมกับระบบหลัก จึงสามารถนำข้อมูลชุดสำรองมาใช้แทนได้
ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา เหยื่อบางรายที่กู้ระบบได้นั้น ก็เพราะเคยสำรองข้อมูล ( backup) ไว้แยกต่างหากอยุ่เสมอ ไม่เชื่อมโยงกับระบบเดิมอยู่ตลอด ส่วนสำรองนั้นจึงรอดจาก ransomeware ได้
จากกราฟจะเห็นว่า ransomware เริ่มพบในช่วงปี 2011 หรือสิบปีก่อน และเริ่มระบาดหนักตั้งแต่ 2016 เป็นต้นมา ซึ่งในไทยปีที่แล้วก็มี ร.พ. สระบุรีที่โดนไป
… ทั้งนี้รัฐบาลอเมริกันประกาศว่ากำลังเร่งขจัดวงจรอุบาทว์นี้ โดยกระทรวงยุติธรรมกำลังจัดตั้งทีมด้านนี้โดยตรง