ในช่วงปีที่ผ่านมาเราอาจเห็น Gadget หลายอย่างบ่อยมากขึ้น จนอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว อย่างสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ หรือกล้อง Action Cam ต่างๆ แต่วันนี้เราจะมาลองดูแนวโน้ม Gadget ที่เป็นเทรนด์ และน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่น่าจะเห็นกันแพร่หลายในปีต่อไปอย่าง กล้อง เพื่อถ่ายทอดสดกันครับ
จากกระแส Facebook Live ที่มาแรงมากในปีนี้ ทุกคนที่ใช้เฟซบุ๊ก ไม่ว่าจะแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ หรือประชาชนคนธรรมดาก็สามารถถ่ายทอดสดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าไปหาคนทั้งโลกได้ จึงเกิดความต้องการอุปกรณ์ใหม่ๆ เพื่อให้ถ่ายทอดสดได้ง่ายขึ้น มีคุณภาพดีขึ้น ที่แบรนด์ต่างๆ เริ่มขนลงตลาดกันหลายชิ้นแล้ว
Mevo
Mevo เป็นกล้องที่เกิดมาเพื่องานถ่ายทอดสดขึ้นอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ และถูกพูดถึงเป็นอย่างมากเมื่อ Facebook Live เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพราะเป็นกล้องตัวแรกๆ ที่รองรับ Facebook Live อย่างสมบูรณ์ แถมยังสามารถควบคุมการถ่ายทอดสดผ่านแอพฯ ได้อย่างง่ายดาย ผู้ถ่ายทอดสดสามารถสั่งงานถ่ายทอดสดด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องอาศัยทีมงานเพิ่มอีก (แต่ถ้ามีทีมงานช่วยก็จะทำให้สมาธิในการทำรายการสดดีขึ้น)
กล้อง ตัวแรกๆ ที่รองรับ Facebook Live อย่างสมบูรณ์ แถมยังสามารถควบคุมการถ่ายทอดสดผ่านแอพฯ ได้อย่างง่ายดาย ผู้ถ่ายทอดสดสามารถสั่งงานถ่ายทอดสดด้วยตัวเองได้
Mevo เป็นกล้อง 4K ที่สามารถถ่ายด้วยความละเอียด 720p ฟังดูงงๆ นะครับ คือตัวเซ็นเซอร์ภายในกล้อง Mevo นั้นเป็น Sony 4K Sensor แต่สามารถบันทึกภาพออกมาได้ที่ 720p30 เท่านั้น นั้นก็เป็นเพราะมันสร้างมาเพื่องานถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ ที่ส่วนใหญ่เราจะสตรีมวิดีโอสดความละเอียดไม่เกิน 720p เท่านั้น (เพราะ Facebook Live ยังไม่รองรับความละเอียดมากกว่านี้ และการสตรีมวิดีโอ 1080p ต้องใช้ความเร็วในการอัพโหลดสูงขึ้นกว่าเดิมมาก) เมื่อ Mevo สามารถเก็บภาพได้ที่ความละเอียด 4K ร่วมกับเลนส์มุมกว้าง 150 องศา แต่ใช้จริงแค่ 720p ผู้ใช้จึง สามารถครอปภาพที่ต้องการซูมผ่านแอพฯ ได้ โดยที่ไม่สูญเสียความละเอียด 720p ไปนั่นเอง
![]() |
ฉบับที่ 214 เดือนตุลาคมAI สำหรับแบรนด์ ผู้ช่วยในยุค IoT |
ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถตั้งกล้อง Mevo ไว้นิ่งๆ แล้วสั่งงานผ่านแอพฯ ให้ตัดสลับภาพมุมกว้าง ภาพพิธีกร ภาพแขก ภาพสินค้าที่นำมารีวิว ฯลฯ ได้เลย ผ่าน iPhone แทนที่การออกกองถ่ายจะต้องใช้อุปกรณ์ชุดใหญ่ ก็มีแค่กล้องตัวเล็กๆ มือถือ อินเทอร์เน็ต และเนื้อหาก็พอแล้ว
ถึงแม้ว่า Mevo ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างตามประสาอุปกรณ์ชุดแรกที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ เช่น ชุดไมโครโฟนด้านหน้ากล้องยังไม่ค่อยดี ก็แนะนำให้ต่อไมค์กับ iPhone แทน (ซึ่ง iPhone 7 ก็ไม่มีช่องเสียบไมค์แล้ว ก็ต้องหาไมค์แบบ Lighting มาใช้พร้อมหัวต่อแยกให้ชาร์จแบตไปพร้อมกันได้ให้ปวดหัวอีก) หรือคุณภาพของภาพที่อาจยังไม่ดีนักเวลาที่แสงน้อย เพราะใช้เลนส์รูรับแสง f/2.8 เอง แต่ก็เป็นคอนเซ็ปต์ที่ดีของกล้องที่ออกแบบเพื่อทำให้การถ่ายทอดสดง่ายที่สุด
DJI Osmo Mobile
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าแบรนด์ DJI ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ จากโดรน DJI Phantom อันโด่งดัง แท้จริงแล้วเป็นแบรนด์จีนแท้ๆ เลย โดยชื่อเต็มของบริษัทคือ Dà-Jiāng Innovations Science and Technology ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเสิ่นเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งผลิตภัณฑ์เด่นของบริษัทนอกจากจะเป็นโดรนหลากรุ่น เจาะหลายกลุ่มผู้ใช้แล้ว ผลิตภัณฑ์ Gimbal หรือชุดอุปกรณ์ป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับกล้องก็ยังได้รับความนิยมมากด้วย ซึ่งตัวล่าสุดที่เพิ่งออกมาอย่าง Osmo Mobile ก็เจาะกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
Osmo Mobile คือชุดอุปกรณ์ป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยสมาร์ทโฟน จุดหลักที่แตกต่างจาก Osmo รุ่นปกติคือมันไม่มีกล้องติดตั้งมาในตัว แต่ใช้กล้องของสมาร์ทโฟนในการถ่ายเลย ซึ่งทำให้เราสามารถถือสมาร์ทโฟนถ่ายวิดีโอได้นิ่งขึ้น และมีลูกเล่นในการถ่ายมากขึ้น
ที่ผู้ใช้สามารถสั่งให้แอพฯ จดจำวัตถุในภาพ อาจจะเป็นใบหน้าคน เพื่อให้กล้องแพนตามวัตถุที่เคลื่อนที่ไปมาได้ ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้กับการถ่ายรายการ หรือถ่ายทอดสด Facebook Live คนเดียวได้
DJI Osmo Mobile จะทำงานร่วมกับแอพฯ DJI Go ในสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมชุด Gimbal ให้เคลื่อนไหวอย่างที่ต้องการ ตั้งแต่การใช้งานเบสิกอย่างการชดเชยความสั่นไหวของกล้องหรือการเคลื่อนที่ต่างๆ ทำให้ภาพที่ออกมานิ่งขึ้น การเคลื่อนไหวของภาพยามที่กล้องเคลื่อนที่ก็นุ่มนวลขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นติดตามวัตถุ ที่ผู้ใช้สามารถสั่งให้แอพฯ จดจำวัตถุในภาพ อาจจะเป็นใบหน้าคน เพื่อให้กล้องแพนตามวัตถุที่เคลื่อนที่ไปมาได้ ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้กับการถ่ายรายการ หรือถ่ายทอดสด Facebook Live คนเดียวได้ ภาพที่ได้จึงดูมีการเคลื่อนไหว ไม่น่าเบื่อ หรือจะใช้ Osmo Mobile เพื่อถ่ายภาพนิ่งให้คมชัดขึ้นด้วยการลดการสั่นไหวของกล้อง ใช้ถ่ายพาโนราม่า หรือใช้ถ่าย Hyperlapse หรือวิดีโอ Timelapse ที่เคลื่อนไหวกล้องได้อีกด้วย
เนื่องจาก Osmo Mobile นั้นไม่มีกล้องในตัวเหมือน Osmo รุ่นพี่ ทำให้คุณภาพที่ได้ขึ้นอยู่กับความเทพของสมาร์ทโฟนเราเป็นหลัก นอกจากนี้ ระหว่างใช้งาน เรายังไม่สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนไปพร้อมกันได้ เพราะจะทำให้สมดุลเสีย ผู้ใช้จึงไม่สามารถใช้ไลฟ์นานๆ ได้อยู่ดี แต่ Osmo Mobile ก็มีราคาไม่แพง ขายในไทย 12,700 บาทเท่านั้น ก็ด้วยความยืดหยุ่นที่ใช้ได้ทั้งงานถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวิดีโอ ไลฟ์สด ทำให้น่าจะเจาะกลุ่มผู้ใช้ชาวไทยได้ไม่ยาก
Contributor
Eka-X
เอกพล ชูเชิด
วุ่นวายกับเทคโนโลยีมาตั้งแต่เยาว์วัย จนเริ่มมีอายุเยอะก็จับคีย์บอร์ดหาเลี้ยงชีพด้วยงานเขียนด้านเทคโนโลยีมาตลอด ทั้งยังเปิด Aofapp.com เว็บไซต์ส่วนตัวที่เล็กมากๆ เพื่อเขียนรีวิวแอพฯ มือถือเรื่อยๆ ในเวลาว่าง ถึงจะสาหัสกับงานขนาดไหนก็ยังเขียน แชร์ บ่นไปเรื่อยใน Twitter
Twitter: Twitter.com/eka_x