รัฐบาลสหรัฐฯโดยประธานาธิบดี Joe Biden มีแผนจะให้รถของทางการเปลี่ยนเป็น EV มาได้พักใหญ่ และล่าสุดก็สั่งเบรคกรมไปรษณีย์สหรัฐฯหรือ USPS ที่มีตั้งงบกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ฯจะจัดซื้อรถขนส่งล็อตใหม่ โดยมีรถที่ใช้น้ำมันถึง 90% และมีรถ EV แค่ 10%
โดยจากแผนเดิม ป.ณ. อเมริกัน หรือ USPS จะซื้อรถบรรทุก 165,000 คันในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า โดยจะมีแค่ 16,500 คันที่เป็นรถพลังไฟฟ้า ( EV – – Electric Vehicles )
ฝ่ายผู้อำนวยการงานไปรษณีย์อ้างเหตุผลที่ไม่ซื้อรถ EV ว่าเพราะมองว่ารถ EV นั้นแพงกว่ารถน้ำมัน และทางหน่วยไม่มีงบมากพอ และทางกรมไปรษณีย์ฯ USPS มีหนี้สะสมประมาณ 2.06 แสนล้านดอลลาร์ฯแล้ว จึงต้องประหยัดให้มากที่สุด
แต่ทางรัฐบาลมองว่า ป.ณ. อเมริกันอาจจะไม่ต้องซื้อรถ EV ทั้งล็อต 100% ก็ได้ แต่การซื้อ EV แค่ 10% ที่เหลือเป็นรถน้ำมันเช่นนี้ รัฐบาลสหรัฐฯจึงตีกลับ โดยให้เหตุผลว่าเป็นภัยต่อปัญหาสภาพอากาศโลกในระยะยาว ( climate change )
และในระยะยาวหรืออนาคตอันไกล ทางรัฐบาลต้องการให้รถทั้งหมดที่ใช้ในกิจการรัฐบาลกลาง ต้องใช้ไฟฟ้าหรือพลังงานสะอาดทั้งหมด ซึ่งรถไปรษณีย์นี้ถือเป็นถึง 30% ของรถทั้งหมดของรัฐบาลกลาง
ส่วนฝ่ายที่สามอย่างองค์กรสิ่งแวดล้อมชื่อ Environmental Protection Agency หรือ EPA นั้นมองว่าทางไปรษณีย์ USPS ประเมินรถ EV ผิดพลาด เช่นลืมมองว่าในอนาคตราคารถและต้นทุนการชาร์จจะลดลงเรื่อยๆ …นอกจากนั้น ปณ. ยังมองปัญหามลภาวะต่ำเกินไปด้วย
