Microsoft เตรียมปิดบริการ LinkedIn หลักในจีนหลังปีนี้ หลังจากกฎควบคุมอินเตอร์เน็ตเข้มงวดขึ้นในปักกิ่ง ทำให้มีข้อจำกัดด้านกฎระเบียบและสภาพแวดล้อมการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมหาศาล
นักวิชาการหลายคนได้รับจดหมายเตือนจาก LinkedIn ในปีนี้ว่าพวกเขาแชร์เนื้อหาต้องห้ามที่ทางการจีนไม่สามารถดูได้ แต่จะเห็นได้จากผู้ใช้งาน LinkedIn จากที่อื่น
Tony Lee นักวิชาการมหาวิทยาลัย Berlin’s free กล่าวกับสำนักข่าว AP ในเดือนมิถุนายนว่า LinkedIn ไม่ได้บอกเขาว่าเนื้อหาไหนต้องห้าม แต่คาดว่ามาจากบทความใน profile เขาเอง ซึ่งบางชิ้นเกี่ยวกับการปราบปรามผู้ประท้วงกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยที่จตุรัสเทียนอันเหมินในปักกิ่งปี 1989 และอีกหนึ่งอันเปรียบเทียบ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน กับเหมาเจ๋อตุง ผู้นำคนก่อน
Lee กล่าวว่าเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมมากของ LinkedIn ที่จะคงไว้ซึ่งความแตกต่าง และกล่าวอีกว่ามันดีกว่าที่ทาง LinkedIn ถอนตัวจากประเทศมากกว่าทำตามกฎเซนเซอร์เผด็จการของทางจีน ซึ่งจะส่งผลเสียกับความน่าเชื่อถือระดับโลกของบริษัท
กว่า 7 ปีที่ทาง LinkedIn เปิดตัวเป็นภาษาจีนและใช้ภาษาเขียนของจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อขยายธุรกิจในประเทศ ตอนเปิดตัวต้นปี 2014 ก็เกิดคำถามยุ่งยากจากข้อเรียกร้องเรื่องการเซ็นเซอร์เนื้อหา แต่ในส่วนของการทำธุรกิจและการใช้มาตรการปกป้องสิทธิ์และข้อมูลของผู้ใช้งานก็เป็นที่ชัดเจน
Microsoft ซื้อ LinkedIn ในปี 2016 LinkedIn และจากการรายงาน มีสมาชิกกว่า 54 ล้านคนในจีนแผ่นดินใหญ่ คิดเป็นผู้ใช้งานอันดับ 3 รองจากอเมริกาและอินเดีย
LinkedIn มีบทบาทในฐานะ Social media เดียวที่เพื่อนร่วมงานจีนและตะวันตกสามารถสื่อสารกันได้โดยไม่มีการเซ็นเซอร์หรือจับตามองจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน Eyck Freymann นักวิชาการที่ได้รับจดหมายเตือนกล่าว
Freymann นักศึกษาปริญญาเอกจีนศึกษา มหาวิทยาลัย Oxford กล่าวว่ามันแย่ที่ทาง Microsoft ใช้เวลาเป็นเดือนเซนเซอร์ผู้ใช้งาน และยิ่งแย่ที่กดดันผู้ใช้งานให้เซนเซอร์ตัวเอง แต่บริษัทก็ตัดสินใจถูกแล้วที่ถอนตัว
สื่อโซเชียลอื่นจากอเมริกาอย่าง Facebook และ Twitter ก็ถูกบล็อกในจีน และย้อนไปเมื่อปี 2010 Google ก็ถอนตัวออกจากจีน หลังรัฐบาลจีนเริ่มเซนเซอร์ผลการค้นหาและวิดีโอบน Youtube อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ปีก่อนก็กลับไปมีการสร้าง search engine ที่ผ่านการเซนเซอร์แล้ว ชื่อว่า “Dragonfly” แต่ก็ต้องพับโครงการไปหลังการประท้วงของพนักงานกูเกิลเองในปี 2018
Bing ซึ่งเป็นเสิร์ชของทาง Microsoft ถูกบล็อกชั่วคราวในจีนเมื่อต้นปี 2019 ทำให้ Brad Smith ประธานบริษัท ออกมาเผยว่าผู้บริหารพบความยากลำบากในการเจรจาต่อรองกับจีนเรื่องเซนเซอร์และข้อเรียกร้องอื่นๆ
ข่าวจาก
japantoday.com/category/tech/microsoft-shutting-down-linkedin-in-china
