การ “เปิดบ้านให้เป็นโรงแรม” ผ่านแอพอย่าง AirBnB กำลังถูกควบคุมเข้ม “ลดวัน” ที่อนุญาตให้ปล่อยเช่าลงเรื่อยๆในหลายประเทศ
เช่นก่อนนี้ไม่นาน รัฐบาลญีปุ่นได้กำหนดให้เปิดเช่าได้ไม่เกินปีละ 180 วัน และต้องมีมาตรการรักษาความสะอาด กับมาตรการในการป้องกันเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน ต้องมีการเตรียมยื่นรายชื่อผู้เข้าพัก และจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านที่แท้จริงเท่านั้นจึงจะให้บริการได้ ซึ่งแม้ผู้ให้บริการหลายฝ่ายจะยังไม่เห็นด้วยเนื่องจากให้เวลาในการบริการน้อยเกินไป
อีกประเทศคือแคนาดา เมืองโตรอนโตออกกฏคุมเข้มเจ้าบ้าน AirBnB ปล่อยเช่าได้แค่หลังเดียว(บ้านหลัก)เท่านั้น โดยแยกย่อยได้ไม่เกิน 3 ห้อง และรวมทุกดีลแล้วห้ามเกิน 180 วันต่อปีด้วย
ส่วนเนเธอร์แลนด์ที่เคยกำหนดข้อจำกัดให้เพียง 60 วัน แต่ล่าสุดเมือง Amsterdam ลดโควต้าเหลือเพียง 30 วันเท่านั้น แต่จะเริ่มใช้ในปีหน้า 2019 เพื่อลดปัญหาข้างเคียงที่เกิดกับเพื่อนบ้านหรือชุมชนรอบข้าง
เจตนารมณ์ของกฏหมายนี้ก็เพื่อควบคุม “การเช่าระยะสั้น” เหล่านี้ให้อยู่ในการดูแลของเจ้าของบ้านมากขึ้น เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อเพื่อบ้านและชุมชน
และนอกจากนั้นก็เป็นเรื่องที่ “การเช่าระยะสั้น” เหล่านี้ไปมีส่วนดันให้ค่าเช่าระยะยาวแบบเดิมๆสูงขึ้นโดยใช่เหตุด้วย
ฝ่ายผู้บริหาร Airbnb ในเนเธอร์แลนด์คัดค้านมาตรการนี้ และแย้งว่าเป็นการเข้าข้างกลุ่มทุนโรงแรมใหญ่ๆ และยังอ้างว่าในปี 2015 และ 2016 AirBnB ได้ส่งภาษีให้เมือง Amsterdam รวมแล้วกว่า 11 ล้านยูโร
นอกจากเมืองที่ยกไป ก็ยังมีตัวอย่างอื่นๆเช่น ลอนดอน 90 วันต่อปี, ปารีส 120 วันต่อปี เป็นต้น
