การคมนาคมโดยไร้คนขับ โดยรถยนต์ขับเองอัตโนมัติ ( Full Self Driving ) เป็นที่นิยมมากขึ้น และหลายๆประเทศก็เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ผู้คนพึ่งพารถส่วนตัวน้อยลง
การศึกษาวิจัยของ Roland Berger เผยว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่ได้อันดับ 4 ของโลกที่พร้อมสำหรับเทคโนโลยีไร้คนขับ
โดยสิงคโปร์ยังเป็นรองแค่ประเทศเนเธอร์แลนด์ จีน และสวีเดน ซึ่งคาดว่าสิงคโปร์จะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มียานยนต์ไร้คนขับมากที่สุด
ซึ่งในสิงคโปร์นั้น 85% ของประชากรปัจจุบันมีมากถึง 70% ของชาวสิงคโปร์ ที่ใช้แอพนำทางในมือถือขณะขับรถเป็นประจำ ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่อยู่ที่ 55%
ผลสำรวจอื่นยังเผยอีกว่าเพียง 40% ของประชากรชาวสิงคโปร์ใช้รถส่วนตัวไปท่องเที่ยว ซึ่งก่อนโควิดมีเพียง 20% ที่ใช้รถส่วนตัว และมีการเพิ่มขึ้นตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว แต่ก็ยังนับว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยอยู่ดี
น่าจะเป็นเพราะสิงคโปร์เป็นผู้นำด้านการใช้ยานพาหนะร่วมกัน โดยที่ 20.8% เป็นการสัญจรร่วม (การเช่ารถ, แท็กซี่) ซึ่งชาวสิงคโปร์มีตัวเลือกมากกว่าในเรื่องของการเดินทางสัญจร
ซึ่งตัวเลขนี้เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับชาวสิงคโปร์ เนื่องคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดูตื่นเต้นที่พาหนะแบบไร้คนขับจะเป็นกระแสหลักในอนาคตมากกว่าเมื่อเทียบกับคนในประเทศยุโรป
นอกจากนี้ Roland Berger ยังบอกอีกว่าผลสำรวจอื่นๆก็แสดงให้เห็นเช่นกันว่าคนในประเทศสิงคโปร์ ไทย และอินโดนีเซียตั้งหน้าตั้งตารอรถระบบไร้คนขับ และคาดหวังว่าจะได้ใช้งานในปี 2030