Try Me แอพฯ รวมสินค้าทดลองใช้ฟรี บริการส่งถึงบ้าน

จุไรภรณ์ วิจักขณวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิว แอดเวอร์ไทซิ่ง จํากัด

เราคงคุ้นชินกับการที่มีคนยืนแจกของฟรีให้ทดลองใช้ตามท้องถนน หรือที่เรียกกันว่า “แจกเทสเตอร์” หลายคนคงจะชอบของฟรีที่ใครๆ ก็อยากได้ แต่จริงๆ แล้วสินค้าเหล่านั้นกลับไม่ได้ถูกใช้จริงจากเหล่าบรรดาผู้รับสินค้า แถมบางครั้งอาจถูกทิ้งตามถังขยะเสียด้วยซ้ำ ปัญหานี้เกิดจากผู้รับไม่ได้สนใจในตัวสินค้า และไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายตามที่แบรนด์ต้องการ

ซึ่งบริษัท คิว แอดเวอร์ไทซิ่ง จํากัด ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น Try Me  เป็นการเพิ่มช่องทางโปรโมตสินค้าผ่านออนไลน์ให้กับตัวสินค้าใหม่ๆ แก่นักธุรกิจ สามารถลงฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และรับประกันได้ว่าถึงมือผู้บริโภคอย่างแน่นอน อีกทั้งผู้ใช้งานแอพฯ ยังสามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง กดรับสินค้าทดลองใช้ฟรีถึงบ้านง่ายๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสักบาทเดียว

เพิ่มช่องทางโปรโมตสินค้าทดลองกระจายสู่ผู้บริโภคผ่านแอพฯ Try Me  
จุไรภรณ์ วิจักขณวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิว แอดเวอร์ไทซิ่ง จํากัด ให้ข้อมูลว่า จากการที่บริษัทผลิตสื่อโฆษณาของลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก และเล็งเห็นว่าลูกค้ามีสินค้าออกใหม่สู่ท้องตลาด ซึ่งส่วนใหญ่ออกบูธตามท้องถนนเพื่อกระจายสินค้าให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ จึงมีแนวคิดพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ในการโปรโมตสินค้านอกเหนือจากการผลิตสื่อโฆษณานอกบ้าน หรือป้ายบิลบอร์ด และเพิ่มช่องทางในการกระจายสินค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างที่ต้องการ รวมถึงให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์กับสินค้าโดยตรง

ยิ่งในปัจจุบันคนไทยใช้สมาร์ทโฟนกันเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้เองทำให้นักการตลาดโปรโมตสินค้าผ่านแอพฯ บนสมาร์ทโฟนกันมากขึ้น รวมไปถึงธุรกิจโฆษณามีอัตราการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้พัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่น Try Me  เพื่อใช้ดึงดูดความสนใจต่อกลุ่มเป้าหมาย เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการโปรโมตสินค้าใหม่ๆ ถึงมือผู้บริโภคตรงตามไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตยุคดิจิทัล และสามารถอินเตอร์แอ็คทีฟกับสื่อโฆษณาได้ด้วย

“เราสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อขยายช่องทางในการกระจายสินค้าใหม่มากขึ้น และเป็นตัวช่วยในการสำรวจตลาด ซึ่งเราพัฒนาแอพฯ Try Me เพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักธุรกิจในการลดต้นทุนในส่วนนี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการโปรโมต สามารถลงสินค้าได้ทุกอย่างตามต้องการ”

	ฉบับที่ 211 เดือนกรกฏาคม แพลตฟอร์ม IoT หัวใจของข้อมูล

จากการเปิดตัวแอพฯ ไม่ถึงสองเดือน มียอดดาวน์โหลดประมาณ 4,000 คน โดยสินค้าทดลองที่แจกฟรีนั้นส่วนใหญ่เป็นสินค้าตัวใหม่ อย่างสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค เช่น ขนม ของใช้ เป็นต้น รวมไปถึงคูปองส่วนลดจากเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สปา คลินิก ตั๋วหนัง เป็นต้น โดยแบรนด์สามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้เพศไหนรับของ หรือกำหนดช่วงอายุได้ อย่างเช่น สินค้าบางประเภทเหมาะสำหรับผู้หญิง หรือสินค้ากำหนดอายุใช้สำหรับวัยรุ่น ถ้าหากใครไม่อยู่ในเงื่อนไขก็จะไม่สามารถรับสิทธิทดลองใช้สินค้า ซึ่งเป็นข้อดีกว่า การออกบูธที่บางครั้งอาจกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ยากกว่า และให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

เลือกสินค้ากดรับสิทธิได้ง่ายๆ ใช้ฟรีถึงบ้าน
สำหรับผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลดแอพฯ บนโทรศัพท์มือถือทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และไอโอเอส จากนั้นลงทะเบียนสามารถเลือกรับของได้วันละ 1 ชิ้น โดยภายในจะมีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเภท ผู้ใช้งานเลือกได้ 2 ลักษณะ คือ 1. กดรับสินค้าทดลองฟรีและส่งให้ถึงบ้าน 2. กดรับเป็นบัตรส่วนลด นำไปใช้กับร้านค้าต่างๆ ซึ่งจำกัดสิทธิในการรับสินค้า 1 อย่างต่อคน ได้เดือนละครั้ง เพื่อเป็นการกระจายไปยังผู้บริโภคอย่างทั่วถึง โดยบริการจัดส่งอาทิตย์ละครั้งทางไปรษณีย์ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามก็สามารถใช้สินค้าฟรีได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีสินค้าทดลองใช้ฟรีใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานทราบทันที หากเป็นสินค้าที่กำลังมองหาหรือต้องการใช้สามารถกดรับได้สะดวกทันใจโดยไม่เสียเวลา เมื่อใช้สินค้าในแต่ละครั้ง ยังมีตัวช่วยบอกความรู้สึกหลังการใช้สินค้า เพื่อให้แบรนด์นำไปพัฒนาสินค้าสู่ผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นคะแนนสะสมในการรับรางวัลได้อีกด้วย

“เราพยายามทำให้เกิดความแตกต่าง เพราะสมัยนี้คนชอบอะไรที่ง่ายไม่ยุ่งยาก จำเป็นต้องสร้างสิ่งใหม่ๆ เพื่อจูงใจผู้บริโภค ในช่วงนี้เราทำการโปรโมตเพื่อให้มียอดดาวน์โหลดมากขึ้น มั่นใจว่าแอพฯ Try Me จะเป็นตัวเลือกในการใช้สินค้าก่อนซื้อมาใช้จริงของผู้บริโภค”

ตั้งเป้าผู้ใช้งาน 1 แสนรายได้ประโยชน์ทั้งแบรนด์และผู้บริโภค
เชื่อว่าจะช่วยเอื้อประโยชน์ทั้งฝ่ายแบรนด์และผู้บริโภค ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่สามารถทดลองใช้สินค้าใหม่ถึงบ้าน โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้ดาวน์โหลดใช้งาน 1 แสนราย จากนั้นขยายไปสู่การสร้างพื้นที่โฆษณาสำหรับลงสื่อวิดีโอด้วย ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการใช้ง่ายรวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น เหมือนเป็นแหล่งรวบรวมสินค้ามาร์เก็ตติ้งแบบเรียลไทม์ ซึ่งสินค้าล้วนได้มาตรฐานมีทั้งแบบขนาดทดลอง และขนาดขายจริง

ทั้งนี้ ยังต่อยอดขยายให้มีแบรนด์มาลงสินค้าในแอพฯ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่มาผลิตสื่อกับบริษัทฯ หรือการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ รวมไปถึงธุรกิจที่อยากลงโปรโมตสินค้าให้เป็นที่รู้จัก เมื่อมีสินค้าจำนวนมากหลากหลายประเภทจะมีการจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่สินค้า  และผู้ใช้งานอาจสามารถรับสินค้าจากวันละชิ้น เป็นวันละหลายชิ้นมากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มขีดจำกัดในการเข้าถึงของผู้ใช้งานได้มาก สามารถอินเตอร์แอ็คทีฟกับสื่อโฆษณาเพื่อให้มีประโยชน์ทั้งแบรนด์และผู้บริโภคมากที่สุด