กระเป๋าคลัทช์ จากผ้าม่อฮ่อม บนออนไลน์ by Tila

“หยง – ตปนีย์ ติลา” เจ้าของแบรนด์ by Tila (บาย ติลา)

จาก “ม่อฮ่อม” ภูมิปัญญาผ้าพื้นเมือง ของดีประจำจังหวัดแพร่ ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสีน้ำเงินครามธรรมชาติ และเทคนิคการมัดย้อม นำมาสร้างสรรค์เป็น “กระเป๋าคลัทช์” ในสไตล์โมเดิร์น ภายใต้การออกแบบโดย “หยง – ตปนีย์ ติลา” เจ้าของแบรนด์ by Tila (บาย ติลา) ที่นอกจากจะเป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในชุมชนแล้ว ยังเป็นการเพิ่มคุณค่าให้ผ้าม่อฮ่อมไทยอีกด้วย

จากผ้าม่อฮ่อม สู่กระเป๋าคลัทช์สไตล์โมเดิร์น
หยง เล่าว่า ด้วยความที่เป็นชาวจังหวัดแพร่ จึงคุ้นเคยกับผ้าม่อฮ่อมมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งได้มีโอกาสเรียนรู้การทำผ้ามัดย้อม ผ้าม่อฮ่อม จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หยงมีความคิด นำผ้าม่อฮ่อม ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องสี และลวดลายของผ้าอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มาตัดเย็บประกอบเข้ากับหนังแท้ ผสมผสานเข้ากับการออกแบบ จนออกมาเป็นกระเป๋าคลัทช์ที่ดูทันสมัยเข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานในปัจจุบัน

“เราไปศึกษาการทำมัดย้อมและทำผ้าม่อฮ่อม ที่ศูนย์เรียนรู้ย้อมผ้าหม้อห้อม บ้านป้าเหงี่ยม บ้านทุ่งโฮ้ง จังหวัดแพร่ ซึ่งที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปเรียนรู้การทำผ้าม่อฮ่อมได้ หลังจากใช้ระยะเวลาสักพักในการทดลองนำผ้าชนิดต่างๆ มาย้อม เพื่อดูว่าผ้าแบบไหนที่เหมาะสมสำหรับการตัดเย็บกระเป๋ามากที่สุด ซึ่งหลังจากที่คอลเลคชั่นแรกออกวางจำหน่าย เราได้ปรับปรุงในเรื่องคุณภาพของเนื้อผ้าเรื่อยมา จนมาลงตัวที่ผ้า Canvas (แคนวาส) ซึ่งมีความหนาช่วยให้ความแข็งแรง รวมไปถึงการพัฒนาด้านการออกแบบ และการตัดเย็บ เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกคุ้มค่าในการใช้งานมากที่สุด”

	ฉบับที่ 218 เดือนกุมภาพันธ์ ร้านค้าขนาดเล็ก ไม่ต้องใช้เงินสด

เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมงานดีไซน์ และสินค้าจากธรรมชาติ
นอกจากแนวคิดและสไตล์ของสินค้าที่ชัดเจนแล้ว by Tila ยังมุ่งเจาะกลุ่มคนวัยทำงานเป็นหลัก เนื่องจากพบว่า ลูกค้ากลุ่มนี้มีพฤติกรรมเลือกซื้อสินค้า โดยคำนึงถึงคุณภาพและดีไซน์ มากกว่าราคา อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อเพียงพอ ทำให้ปัจจุบัน แบรนด์มีลูกค้าคนไทยถึงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และ 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นลูกค้าต่างชาติ ที่อยู่ในแถบเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่งชื่นชอบและนิยมซื้อสินค้าจากดีไซเนอร์ไทย

“แม้ว่าเราจะมีคู่แข่งในตลาดเป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ แต่เราเชื่อว่าด้วยจุดเด่นของผ้าม่อฮ่อม ที่ใช้สีครามจากการสกัดต้นห้อม ซึ่งเป็นสีจากธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้เรามีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเรื่องดีไซน์ และคนที่ทราบถึงที่มาที่ไปของผ้าม่อฮ่อม ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเข้าใจในงานของเรา และมองข้ามข้อจำกัดด้านการใช้งานบางอย่างไป เช่น เมื่อใช้งานไปสักพักสีของผ้าจะตุ่นหรือซีดลง หรือสีตกเมื่อซัก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผ้าม่อฮ่อม ลูกค้าบางคนที่ศึกษาข้อมูลมาบ้างก็พอทราบ แต่บางคนที่ไม่ทราบจะมีคำถามต่างๆ ตามมา ซึ่งเราก็ต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับลูกค้า”

คนรู้จักแบรนด์เรามากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการรีวิวสินค้าจากผู้ใช้งานจริง ร่วมกับการใช้ Influencer บนออนไลน์ และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขยายช่องทางจำหน่ายไปสู่ออฟไลน์

บอกเล่าที่มาที่ไปของแบรนด์ ขยายสู่ช่องทางออฟไลน์
แม้ว่าธุรกิจจะเริ่มต้นจากช่องทางออนไลน์อย่าง เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ที่ไม่ต่างจากร้านค้าออนไลน์อื่นๆ ขณะเดียวกัน by Tila ยังได้ขยายช่องทางขายไปสู่ออฟไลน์ โดยวางจำหน่ายสินค้าที่ร้าน Another Story ในศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์คอนเซ็ปต์สโตร์ ที่รวบรวมสินค้าจากนักออกแบบจากทั่วมุมโลกทั้งไทยและเทศ ร่วมกับการออกร้านตามงานอีเวนต์ เพื่อให้เป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้น

“ในเพจเรามีการทำคอนเทนต์ที่นำเสนอถึงที่มาที่ไปของการทำผ้าม่อฮ่อม ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการทำผ้าที่ต้องอาศัยความละเอียดในทุกขั้นตอน และหลังจากที่เราเปิดร้านบนออนไลน์ได้ไม่นาน ก็ได้รับการติดต่อจากร้าน Another Story ให้นำสินค้าเข้าไปวางจำหน่าย ซึ่งเขาเห็นสินค้าของเราผ่านเพจเฟซบุ๊ก ปัจจุบันเราเปิดร้านมา 3 ปีแล้ว ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คนรู้จักแบรนด์เรามากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการรีวิวสินค้าจากผู้ใช้งานจริง ร่วมกับการใช้ Influencer บนออนไลน์ และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขยายช่องทางจำหน่ายไปสู่ออฟไลน์ โดยจะเห็นได้จากยอดขายผ่านหน้าร้านที่คิดเป็นสัดส่วน 50 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งหมด”

เตรียมเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ปรับดีไซน์-เพิ่มสินค้าใหม่

“ในปีนี้เราวางแผนที่จะออกสินค้าใหม่เป็น Tote bag ที่ยังคงใช้วัสดุหลัก เป็นผ้า Canvas และหนังเช่นเดิม แต่จะมีการปรับดีไซน์ให้สามารถใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง รวมไปถึงการออกร้านตามงานอีเวนต์มากขึ้น ส่วนการขยายช่องทางหน้าร้านในลักษณะของการฝากขายนั้น ขณะนี้เรากำลังติดต่อร้านที่อยู่ในโซนสยามสแควร์ เช่น เซ็นทรัลเวิร์ล หรือสยามเซ็นเตอร์ เนื่องจากในปีนี้เราต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติมากขึ้น”

สุดท้ายนี้ เธอยังฝากคำแนะนำถึงคนที่ต้องการทำธุรกิจว่า นอกจากการเลือกทำในสิ่งที่ชอบ และใช้ความมุ่งมั่นและตั้งใจเป็นแรงผลักดันแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ การหาเงินทุนเพื่อรองรับการทำธุรกิจ แม้ว่าการขายบนออนไลน์จะใช้ต้นทุนน้อย และมีเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจมากมายก็ตาม ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ธุรกิจสามารถพัฒนาต่อไปได้