ตลาดแอพยุคใหม่ ต้องจำกัดกลุ่มผู้มีสิทธิเห็นและโหลดไปใช้ได้

Microsoft Store เพิ่มฟีเจอร์ "Private Audience" ให้นักพัฒนาสามารถส่งแอพขึ้นไป โดยจำกัดให้มีผู้ใช้แค่บางกลุ่มเท่านั้นที่จะมองเห็นและดาวน์โหลดหรือซื้อไปได้ จึงเหมาะกับช่วงทดลองใช้ และเหมาะกับแอพที่เปิดให้ผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม เช่นแอพที่บริษัททำมาให้พนักงานเท่านั้น

ในการทำแอพใดๆก็ตาม เมื่อเสร็จสิ้นใหม่ๆ เจ้าของอาจอยากให้คนกลุ่มหนึ่งใช้งานก่อน แต่จะไปไล่ติดตั้งเองบนมือถือเป็นสิบๆหรือร้อยๆเครื่องก็คงไม่สะดวก หรือถ้าจะส่งขึ้น store ไปก็หมายถึงการเปิดให้สาธารณชนได้พบเจอและดาวน์โหลดไปใช้งาน ซึ่งก็อาจยังไม่พร้อมขนาดนั้น

ล่าสุด Microsoft ได้เริ่มใช้ระบบใหม่ในศูนย์ดาวน์โหลดและขายแอพและโปรแกรมต่างๆที่ชื่อ Microsofy Store โดยเพิ่มฟีเจอร์ “Private Audience” ให้นักพัฒนาสามารถส่งแอพขึ้นไปแล้วจำกัดให้มีผู้ใช้แค่บางกลุ่มเท่านั้นที่จะมองเห็นและดาวน์โหลดหรือซื้อไปได้ ส่วนคนอื่นๆนอกกลุ่มนั้น ถึงจะรู้ลิงค์แต่ก็เข้าไปไม่ได้

ระบบนี้ นอกจากจะเหมาะกับช่วงทดลองใช้ ก็ยังเหมาะกับแอพหรือโปรแกรมบางอย่างที่จะเปิดให้ผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม เช่นแอพที่บริษัทหนึ่งทำมาให้พนักงานซึ่งอาจมีหลายหมื่นคนทั่วโลกได้ใช้ หรือแอพทีมงานที่เล็กกว่านั้นเป็นต้น

การระบุผู้มีสิทธิในกลุ่มผู้ใช้นั้น นักพัฒนาสามารถกำหนดและแยกแยะได้หลายกลุ่ม โดยระบุชื่ออีเมลที่เป็น Microsoft Account เช่น outlook.com, live.com, hotmail.com เป็นต้น

ถ้าระบบนี้แวิร์ค และแพร่หลายนิยมใช้กันทั่วไป เราก็คงได้เห็นตลาดแอพแห่งอื่นๆเช่น Playstore ของกูเกิล หรือ iTunes ของแอปเปิลใช้บ้างต่อไป

 
 ข่าวจาก
  blogs.windows.com/buildingapps/2018/03/28/private-audience-a-new-way-to-test-your-apps-and-games-in-production

You may be interested in

Latest post from Facebook

Related Posts

อันดับ cloud
Cloud War : สงครามบนฟากฟ้า อีกยุทธภูมิหนึ่งที่น่าจับตา

หากเอ่ยชื่อ Amazon หลายคนคงคิดถึงร้านค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้สารพัดให้ซื้อหาชนิดที่เรียกได้ว่าตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ และบริษัทก็คงทำผลกำไรได้อย่างมหาศาลจากธุรกิจดังกล่าว จนส่งผลให้ Jeff Bazos ผู้ก่อตั้ง กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นของโลก