องค์กรอาจพลาดโอกาสทางการตลาดในอนาคต

บิล แพดฟิลด์ ผู้บริหารฝ่ายบริการของไดเมนชั่น ดาต้า กรุ๊ป

เจ้าหน้าที่ดูแลด้านไอทีใช้เวลาในการทำงานมากกว่า 30% ไปกับการให้บริการตามคำขอและดูแลประเด็นการแก้ปัญหา ขณะที่การสร้างสรรค์นวัตกรรมใช้เวลาเพียงแค่ 15% นี่แสดงให้เห็นถึงการจัดสรรเวลาที่ลดลงถึง 25%ในแต่ละปี อย่างในเรื่องความต้องการประโยชน์ที่จะได้จากการปรับปรุงความผูกพันระหว่างลูกค้ากับองค์กร การใช้งาน  Internet of Things (IoT)  การเพิ่มการใช้งานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data และการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งทำให้นวัตกรรมด้านไอทีเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเอามาเป็นข้อต่อรองในองค์กรได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นได้ว่า องค์กรธุรกิจที่ขาดการพัฒนารูปแบบธุรกิจด้วยไอที อาจพลาดโอกาสทางการตลาดในอนาคต

เหตุผลบางประการที่ทำไมองค์กรไอทีทั้งหลายยังดำเนินการได้ล่าช้าอยู่ น่าจะมาจากเรื่องของงบประมาณ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จต้องการการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างผู้คน กระบวนการ และเครื่องมือ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มของการให้บริการอัตโนมัติด้านไอทียังมีราคาแพง และต้องใช้เวลามากในการพัฒนาและบูรณาการเพื่อเข้าสู่สภาพแวดล้อมด้านไอทีแบบไฮบริดให้เป็นผลสำเร็จ

องค์กรส่วนใหญ่ซึ่งมีส่วนร่วมในข้อมูลนี้กล่าวว่า พวกเขายังคงต้องคอยสอดส่องและปรับจูนการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้านไอทีที่ยังไม่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน โดยมีเพียง 14% ที่รายงานว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของเขามาถึงจุดที่เป็นระบบดิจิทัลแล้ว และองค์กรเพียง 20% เท่านั้นที่กล่าวว่า การดำเนินงานของพวกเขาเป็นระบบอัตโนมัติโดยสมบูรณ์ และเกิดผลสัมฤทธิ์ในการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเป็นอย่างดี ในขณะที่ส่วนใหญ่ยังอยู่บนเส้นทางสู่การสร้างระบบงานอัตโนมัติแต่ยังไปไม่ถึงเป้าหมายคือ 9% ขององค์กรไม่มีระบบงานอัตโนมัติ 13% มีระบบงานอัตโนมัติที่มีข้อจำกัด 32% มีระบบงานอัตโนมัติและการประสานงานในระดับกลาง และอีก 25% มีระบบงานที่เป็นอัตโนมัติอย่างมาก