เว็บยุคใหม่ๆนิยมออกแบบให้ดูง่ายบนมือถือ ใช้ง่ายบนมือถือ และหลายเว็บก็ดีไซน์ให้ดูคล้ายแอพมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งการออกแบบและสร้างเว็บให้ใช้แทนแอพมือถือได้นั้น ก็ควรมีสร้างเว็บให้มีอย่างน้อย 6 ข้อต่อไปนี้
…
- อ่านง่ายเมื่อเปิดในจอมือถือ โดยหน้าจอคอลัมน์เดียว และขนาดตัวอักษรใหญ่พอควร ซึ่งอาจจะมี 2 ดีไซน์ต่างกันเมื่อดูในคอมฯกับในมือถือ หรือที่เรียกว่าเป็น responsive design หรืออาจจะมีดีไซน์เดียวสำหรับจอมือถือเท่านั้น (mobile first) แต่ว่าดูในจอคอมฯได้เช่นกัน
- เปิดเว็บนั้นๆแล้วมีการซ่อน “แถบที่อยู่เว็บ (url)” ด้านบนไม่ให้เกะกะ
- ตอบสนองการกดและการเปิดข้อมูลอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องโหลดใหม่ทั้งหน้า และไม่ต้องโหลดใหม่บ่อยๆ
- เปิดแบบ offline ได้ คือดูหน้าแรกได้แม้มือถือจะไม่ได้ต่อเน็ตอยู่ (แต่ดูข้อมูลต่อจากนั้นได้ไม่เต็มที่)
- มีลิงค์ให้เพิ่มไอคอนของเว็บนั้นลงบน “หน้าโฮม” ของมือถือจนดูคล้ายการติดตั้งแอพ แต่ที่จริงแล้วเป็นการเรียกบราวเซอร์มาเปิดเว็บนั้นๆ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทวิตเตอร์ก็ใช้อยู่ที่ twitter.com
- มีระบบ notification ที่หากผู้ใช้กดตกลง ก็จะได้รับ “การแจ้งเตือน” จากเว็บได้เรื่อยๆคล้ายกับลงแอพไว้เลย
- มี “splash screen” หรือหน้าจอโลโก้ใหญ่ๆขึ้นมาระหว่างรอไม่กี่วินาทีเมื่อกดเรียกแอพ (ข้อนี้ไม่จำเป็นเท่าไรนัก)
ยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิลก็ทยอยปรับบราวเซอร์ Chrome ให้สนับสนุนเทรนด์นี้ตลอดมา โดยนักพัฒนาเว็บสามารถใส่คำสั่งต่างๆเพื่อให้เว็บตัวเองมีคุณสมบัติ 6 ข้อนี้ได้ โดยเรียกว่าเป็นแนวคิด “Progressive Web App” หรือ PWA
เช่นล่าสุดในเวอร์ชั่น “Chrome 58 Stable” บนแอนดรอยด์นั้น ก็สนับสนุนการทำให้เว็บโชว์เต็มจอได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้ทำเว็บแค่เพิ่มคำสั่ง
display: fullscreen
ลงไปในโค้ด เว็บหน้านั้นๆก็จะเต็มจอโดยไม่มีแถบที่อยู่ และแถบด้านล่างมาเกะกะ
ถ้าใครอยากทำแอพมือถือ ซึ่งไม่ต้องใช้งานฮาร์ดแวร์ของเครื่อง เช่นกล้อง ไมค์ หรือเซ็นเซอร์ต่างๆ และไม่ใช่เกมที่เน้นกราฟฟิกและการตอบสนองที่รวดเร็วล่ะก็ …น่าจะหันไปทำ mobile web ที่มีคุณสมบัติ 5 ข้อที่บอกไปจะดีกว่า
เหตุผลเพราะ “web-app” นั้นง่ายกว่าการพัฒนาแอพแท้ๆ ( native app ) และทำเวอร์ชั่นเดียวเปิดได้กับทุก OS ทั้ง Android, iOS, คอมพิวเตอร์, และอื่นๆ
นั่นคือถ้าแบรนด์ไหนอยากทำแอพที่เน้นข้อมูลที่เป็นข้อความ รูปภาพ คลิป การค้นหา โดยไม่ต้องมีเกมกราฟฟิกโต้ตอบเร็วๆ, ไม่ต้องให้ผู้ใช้เปิดกล้องถ่ายรูปใส่ฟิลเตอร์, ฯลฯ ก็ควรไปทำ mobile web แทน
สอดคล้องกับผลวิจัยหลายสำนักพบว่าผู้ใช้มือถือในสหรัฐฯและหลายประเทศนั้น ดาวน์โหลดแอพใหม่ๆน้อยลงเรื่อยๆ โดยนิยมเหลือไว้แต่แอพที่ใช้ประจำจริงๆเท่านั้น เหตุผลก็เช่นเพราะ “เมมเต็ม” จากการที่แอพหลักๆเช่น Facebook , ฯลฯ กินเนื้อที่หนักขึ้นเรื่อยๆ
แหล่งข้อมูล :
blog.chromium.org/2017/03/chrome-58-beta-indexeddb-20_21.html
developers.google.com/web/fundamentals/engage-and-retain/web-app-manifest