หลายเดือนที่ผ่านมา เงินสกุลดิจิตัลที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดคือ Luna แห่งเครือข่าย Terra ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเหรียญที่ล่มสลายสร้างภัยพิบัติทางการเงินสา่วนตัวให้กับนักเทรดเหรียญหลายๆคนทั่วโลก
และผลกระทบโดบภาพรวมในไทยนั้น ล่าสุดก็มีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต. ) โดยนายพงศธร ปริญญาวุฒิชัย ได้สำรวจและรายงานไว้อย่างน่าสนใจ พอสรุปได้ดังนี้
ลำดับเหตุการณ์
1. ภาพรวมมูลค่าซื้อขายบนศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ปี 2565 พบว่า หลังจากเดือนเมษายนเป็นต้นมา ทิศทางของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ในช่วงขาลง
2. ในเดือนพฤษภาคม 2565 ราคาของ Luna ที่มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากขึ้นไปแตะจุดราคาสูงสุดในเดือนเมษายน
3. เกิดการลงดิ่งแรง ( fall stage ) ของ Luna ผูกติดกับการที่ราคาของเหรียญ UST (stable coin) นั้นหลุดจากที่ผูกไว้ในอัตรา 1 UST ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมีราคาน้อยกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเริ่มเกิดขึ้น 5 วันระหว่างวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม
4. เกิดการลงที่ชะลอตัวในแดนล่าง ( bottom out – stage) หลังจากวันที่ 13 พฤษภาคม และมีการประกาศระงับการซื้อขาย Luna ชั่วคราว 1 วัน
ผลกระทบ
– ในประเทศไทย มีจำนวนบัญชีที่เข้ามาซื้อขาย Luna ทั้งหมดพบว่ามีบัญชีจำนวน 211,723 บัญชี
– ในนี้มีประมาณ 67% ที่มีประสบการณ์ซื้อขายเหรียญประเภทอื่นมาก่อน แต่ยังไม่เคยซื้อ Luna และเพิ่งเริ่มเข้ามาซื้อขายในช่วง bottom out
– และในนี้กลุ่มบัญชีที่เข้ามาเพื่อเก็งกำไรในเหรียญ Luna เพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 9,658 บัญชี โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3%
– 96% หรือเกือบทุกคน ขาดทุนสุทธิจากการซื้อขาย Luna โดยส่วนใหญ่เข้ามาซื้อขายในช่วง bottom-out
– แต่กลุ่มที่ “ขาดทุนหนัก” ที่สุด คือคนที่ถือมาจากก่อนช่วง fall และที่เข้ามาในช่วง fall
– โดยรวมแล้วคนไทยขาดทุนไปกับ Luna ประมาณ 980 ล้านบาทหรือเกือบ 1 พันล้านบาท
… ทั้งนี้ ใครสนใจรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม ก็ไปอ่านได้ที่ sec.or.th/TH/Template3/Articles/2565/140765.pdf
ภาพประกอบจาก
bbc.com/news/technology-61552030