ในช่วงที่ผ่านมา แพลตฟอร์มสำหรับรับชมวิดีโอผ่านออนไลน์อย่าง YouTube กำลังประสบปัญหาในเรื่องของการควบคุมเนื้อหาที่มีความรุนแรง เหยียดเชื้อชาติ หรือกระทั่งแสดงออกซึ่งพฤติกรรมในการก่อการร้าย โดยผลที่ตามมาก็คือทางแบรนด์ใหญ่ๆ ที่นิยมซื้อโฆษณาที่แทรกตามคลิปต่างๆ บน YouTube นั้น ก็ได้แสดงความไม่พอใจที่โฆษณาของตนเอง ไปปรากฏในคลิปที่ไม่พึงประสงค์จนระงับการลงเม็ดเงินไปยังแพลตฟอร์มโดยตรง เพื่อแก้ปัญหานี้ ทาง YouTube จึงได้ออกมาตรการใหม่ออกมา เพื่อควบคุมการแสดงผลโฆษณาทั้งหมดแล้ว
แรกเริ่มเดิมที อัลกอริทึมของ YouTube นั้น ไม่ได้มีการจำแนกว่าคลิปประเภทใดที่ควรหรือไม่ควรแทรกโฆษณาลงไปหรือไม่ แต่ภายหลังจากที่ลูกค้าอย่าง Coca-Cola, PepsiCo และ Walmart ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม YouTube เป็นประจำ ได้ดึงโฆษณาของตนเองออกไปเนื่องจากไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้าเสียหาย หากมีโฆษณาไปปรากฏใต้คลิปที่มีความรุนแรง ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเสียหายให้กับฐานรายได้ทางโฆษณาให้กับทาง Google เป็นอย่างมาก ภายหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้ YouTube จึงได้กำหนดกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อแก้ปัญหาด้วยการหยุดแสดงโฆษณาในคลิปวิดีโอที่มีจำนวนผู้ชมต่ำกว่า 10,000 วิวแล้ว ทั้งยังมีการรีวิวโดยผู้ตรวจสอบที่เป็นมนุษย์เพิ่มเติมขึ้นอีกด้วย
นอกจากการจำกัดโฆษณาให้ลงเฉพาะในคลิปที่มีจำนวนผู้ชมถึงเกณฑ์แล้ว YouTube กำลังพิจารณาถึงมาตรการควบคุมและบล็อกช่องที่ขโมยคลิปวิดีโอมาจากที่อื่น และทำการโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มของตนเองเพิ่มเติมในอนาคต