ภวิศ อักษรานุวัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอนน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ปัจจุบันความต้องการอสังหาริมทรัพย์สูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งซื้ออยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อปล่อยให้เช่า ซึ่งเริ่มมีคนหันมาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ปล่อยเช่ามากขึ้น แต่ด้วยปัญหาของผู้ให้เช่าอาจไม่มีเวลาดูแลและจัดการเรื่องการหาผู้เช่า หรือวุ่นวายกับการลงประกาศในช่องทางต่างๆ และยังขาดเครื่องมือในการช่วยบริหารจัดการเรื่องเงิน ทำให้มีการพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มฝากเช่าที่พักอาศัยและให้บริการค้นหา-ให้เช่า บนเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า Nornn.com (นอนน์ ดอทคอม)
ลงทุนอสังหาฯ เพิ่มขึ้น สร้างแพลตฟอร์มรองรับ
ภวิศ อักษรานุวัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอนน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า จากการที่คลุกคลีกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวมาตั้งแต่เล็ก เห็นเทรนด์ของที่อยู่อาศัยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีผู้ซื้อเพื่อการลงทุนสำหรับปล่อยเช่าเพิ่มสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ประกอบกับพฤติกรรมคนไทยในการค้นหาข้อมูลบนแพลตฟอร์มออนไลน์สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงมองเห็นโอกาสในการเติมเต็มช่องว่างของการเช่าและให้เช่าที่อยู่อาศัยที่สะดวกแก่ทั้งสองฝ่าย
โดยมีการศึกษารูปแบบจากเว็บไซต์ปล่อยเช่าที่พักอาศัยของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ส่วนใหญ่จะเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะสั้นมากกว่าระยะยาว จึงนำมาพัฒนาให้ตรงกับพฤติกรรมของคนไทยเสมือนเป็นสื่อกลางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า รวมที่พัก บ้าน อพาร์ทเมนต์ อาคารพาณิชย์ และคอนโดฯ ไว้ที่เดียว
“แพลตฟอร์มของนอนน์ จะช่วยเชื่อมโยงการทำธุรกิจให้เช่าที่พักอาศัยกับผู้ต้องการเช่าเข้าด้วยกัน ในรูปแบบของ O2O (Offline to Online) สามารถแชตคุยรายละเอียดผ่านระบบได้ และกำหนดเวลาเข้าพักเองได้ทั้งแบบรายวัน รายเดือน และรายปี”
ข้อมูลรายละเอียดห้องพักที่ปล่อยให้เช่า
ระบบจัดการที่พักอาศัย สะดวกทั้งผู้เช่าและผู้ปล่อยเช่า
เว็บไซต์ลงประกาศให้เช่าที่พักในไทยอาจจะมีบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังขาดในเรื่องของระบบจัดการ โดยเฉพาะการยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ปล่อยเช่าตัวจริง Nornn.com สามารถสมัครเป็นสมาชิกฟรี โดยช่วยเพิ่มโอกาสในการปล่อยเช่า ตั้งราคาค่าเช่าได้ตามความเหมาะสม มีระบบจัดการการเช่าที่พัก ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีผู้ต้องการเช่าที่พัก และฟังก์ชั่น HostPal ให้ผู้ปล่อยเช่าแต่งตั้งบุคคลเข้ามาช่วยจัดการให้เช่าชั่วคราวในกรณีที่ไม่สะดวกดูแลเอง
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือจัดการกับรายรับ เป็นรูปแบบรายงานการรับเงินที่ผู้ให้เช่าได้รับจากการเช่า ทำให้สามารถติดตามได้ง่ายๆ ว่าจะได้รับค่าเช่าเมื่อไร บ้านที่ปล่อยให้เช่าสร้างรายได้แล้วเท่าไร โดยสามารถรับเงินผ่านธนาคารตรงเวลา ทำให้ไม่ต้องปวดหัวกับการเช็กหรือกังวลการรับเงินสด
สำหรับผู้เช่า สามารถเลือกดูที่พักได้ตามความต้องการ พร้อมข้อมูลด้านไลฟ์สไตล์ในบริเวณใกล้เคียงกับที่พัก และที่สำคัญ สามารถจ่ายค่าเช่าผ่านบัตรเครดิต ไม่ต้องมีมัดจำค่าเช่า ซึ่งเรทราคารายเดือนจะอยู่ที่ 5,000-130,000 บาท โดยกลุ่มลูกค้าจะแบ่งเป็นกลุ่มผู้ให้เช่าคือ นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่มีเวลาในการดูแลหาผู้เช่า ขณะที่กลุ่มผู้เช่าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน นักศึกษา และคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย
ค้นหาที่พัก
ภวิศ กล่าวเสริมว่า สำหรับแพลตฟอร์มสามารถดูผ่านได้ทั้งคอมพิวเตอร์ แลปท็อป สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ขณะนี้กำลังพัฒนาเป็นรูปแบบแอพพลิเคชั่น สำหรับรายได้จะมาจากค่าธรรมเนียมจากการเช่า โดยคิด 8 เปอร์เซ็นต์ จากผู้ให้เช่า และคิด 12 เปอร์เซ็นต์ จากผู้เช่า รวมถึงขยายไปยังการเช่าสินทรัพย์อื่นๆ ด้วย เช่น เรือยอชท์ เต้นท์ เป็นต้น
“ในส่วนของข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเช่าที่พักอาศัยนั้น ก็จะมีการแนะนำสำหรับคอนโดมิเนียม ผู้ให้เช่าหรือเจ้าของต้องปล่อยเช่ารายเดือน และต้องแจ้งให้กับทางฝ่ายนิติบุคคลทราบด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในข้อกฎหมายตามมา โดยในระยะแรกจะเน้นที่พักในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และหัวเมืองท่องเที่ยว”
พร็อพเทค สตาร์ทอัพ ตัวช่วยตลาดอสังหาริมทรัพย์
หากดูจากรูปแบบการให้บริการของ Nornn.com เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพด้าน Property Technology หรือพร็อพเทค ที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาจับทางในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ถือว่าเป็นภาคการผลิตใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ และคาดว่าจะมีแนวโน้มที่สูงขึ้นดูได้จากโครงการบ้าน หรือคอนโดฯ ขยายตัวไปเกือบทุกพื้นที่
ทั้งนี้ จะมีผู้ใช้บริการลงประกาศให้เช่าที่พักบนสื่อออนไลน์มากขึ้น เมื่อเทียบกับ Nornn.com ที่เพิ่งเปิดตัวมีผู้ลงประกาศให้เช่าอยู่ที่ 1,000 ราย คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสมาชิกใช้งานเพิ่มเป็น 14,000 ราย และมีข้อมูลที่พักอาศัยพร้อมให้เช่าในระบบมากกว่า 10,000 ยูนิต
แม้ว่าจะมีคนหันมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กันมากขึ้น โดยการปล่อยให้เช่าที่พักนั้นเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้ ถึงกระนั้นอาจเป็นรายได้หลัก หรือมากกว่ารายได้จากงานประจำด้วยซ้ำไป ซึ่งยังคงต้องการระบบที่จะช่วยเป็นเครื่องมือจัดการในเรื่องดังกล่าวให้ง่ายขึ้น
ฉะนั้นแล้ว “พร็อพเทค” จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเทคโนโลยีนี่แหละจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโต ที่แปรเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในการหาที่พักได้มากที่สุด
