ภาพของ นายตำรวจ ที่ขับรถนำขบวน ที่บอกว่า ท่านนายกตู่ ไปขับรถนำขบวน
ภายใต้ความโศกเศร้า ที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย คือการที่เราสูญเสียในหลวง ที่เป็นที่รักและเคารพยิ่งของพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ยังความอาลัยไปทั่วทุกสารทิศ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทุกอย่างสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ ทันเหตุการณ์
และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้บุคคลที่อยู่ห่างไกล สามารถได้รับรู้ รับชม และได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน การถ่ายทอดสด ภาพบรรยากาศ ทั้งภาพพระราชกรณียกิจต่างๆ คลิปวิดีโอ ที่ใครมีก็ถูกเผยแพร่ออกมาแบ่งปันให้เราได้รับรู้รับชมกัน แม้กระทั่งภาพถ่ายที่หาดูได้ยากมาก เป็นขาว-ดำ ก็หาได้จากในโลกออนไลน์ ซึ่งแน่ใจว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่อินเทอร์เน็ตยังไม่เฟื่องฟูขนาดนี้ เราคงไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่สวยงามเหล่านี้เป็นแน่แท้
 |
ฉบับที่ 215 เดือนพฤศจิกายนเจาะตลาดข้ามประเทศด้วยระบบส่งเงิน |
แต่โลกไม่ได้มีด้านเดียว มีด้านดี ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน เริ่มตั้งแต่ มีคนแชร์พระบรมศพของสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งไม่ใช่รูปพระบรมศพของพระองค์จริงๆ ตามด้วยเหตุการณ์การไปส่งเสด็จ ขบวนรถที่เคลื่อนออกถูกตัดต่อให้มีนกบินเหนือขบวนเสด็จ ตามมาด้วยภาพของ นายตำรวจ ที่ขับรถนำขบวน ที่บอกว่า ท่านนายกตู่ ไปขับรถนำขบวน ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีกระแสออกมาเรียกร้องความสนใจอีกมากมายเป็นระยะๆ เช่น แป้น Keyboard ที่สะกดคำว่า “รักในหลวง”
หลายคนที่ทำรูปขึ้นมา ไม่ใช่ว่าจะมีเจตนาไม่ดี แต่เพียงเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และคิดว่าเป็นสิ่งที่คนจะสนใจ และดูแล้วน่าประทับใจ หรืออะไรก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ “มันไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ทั้งนั้น หลายคนที่ทำรูปขึ้นมา ไม่ใช่ว่าจะมีเจตนาไม่ดี แต่เพียงเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และคิดว่าเป็นสิ่งที่คนจะสนใจ และดูแล้วน่าประทับใจ หรืออะไรก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ “มันไม่เป็นความจริง”
ดังนั้น เราทุกคนที่เป็นคนเสพข้อมูล ไม่ว่าจะทาง Facebook, Twitter, Instagram โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง LINE ควรจะใช้วิจารณญาณให้มากๆ ว่าข้อมูลที่ส่งมานั้น มีความจริงมากน้อยเพียงใด สิ่งที่เราทำได้คือ การเสพข้อมูลข่าวสารอย่างมี “สติ” คิดก่อนแชร์เสมอ เพื่อไม่ให้เรื่องที่ไม่จริงนั้น กระจายตัวไปในวงกว้าง และทำความเสียหายได้ต่อไปค่ะ
ร่วมด้วยช่วยกัน มี “สติ” บนโลกออนไลน์นะคะ
| พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550 มาตรา 14 |
| ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ |
| (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน |
| (2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน |
| (3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา |
| (4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ |
| (5) เผยแพร่หรือส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4) |
| แจ้งเหตุเว็บไซต์ไม่เหมาะสม |
| ติดต่อ |
| กระทรวงกลาโหม โทร. 02-980-5617 E-mail: cyberclean@mod.go.th |
| กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 0-2831-9888 E-mail: webmaster@dsi.go.th |
| กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โทร 0-2141-6747 Fax : 0-2143-8019 สายด่วน: 1212 หรือ สายตรง: 0-2141-6971-4 Email: pr@mict.mail.go.th |
| กองบังคับการปราบปรามฯ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) www.tcsd.in.th/แจ้งเหตุเบาะแส/ |
| มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย โทร. 0-2642-7033 (สายด่วนตลอด 24 ชั่วโมง) Fax : 0-2642-7032 |
Contributor
ปภาดา อมรนุรัตน์กุล
สาวนักกิจกรรมตัวยง ผู้ทุ่มสุดตัวให้กับทุกชุมชนสังคมที่เข้าร่วม ปัจจุบัน Goople ดำรงตำแหน่งกรรมการ บริษัท RedRank จำกัด เป็นเจ้าของหนังสือ และเว็บไซต์Successadsense.com เกี่ยวกับการทำ Google AdSense ให้ประสบความสำเร็จ และรับหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายให้กับหลายหน่วยงานเกี่ยวกับการสร้างรายได้บนอินเทอร์เน็ต
Twitter: http://twitter.com/Goople
