สนับสนุนนวัตกรรมผ่านการระดมทุนออนไลน์

ณัฐวุฒิ เผ่าปรีชา ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหาร MEEFUND

การเริ่มต้นในการสร้างชิ้นงาน นวัตกรรม หรือแม้แต่ธุรกิจก็ตาม ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการสร้างสรรค์ให้ออกมาเป็นได้จริงคือ เงินทุนสนับสนุน การเปิดพื้นที่ระดมทุนมวลชน  หรือ Crowdfunding จึงเป็นช่องทางที่จะสร้างสรรค์ผลงานนั้นให้เกิดขึ้นจริงได้

สนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ผ่านการระดมทุนออนไลน์
วงการฟินเทคในประเทศไทยกำลังเป็นที่จับตามอง ผู้เล่นหลายรายต้องการเข้ามาอยู่ในตลาด ซึ่งเป็นเรื่องดีที่สามารถทำให้วงการไฟแนนซ์ได้มีการตื่นตัวและสอดรับกับเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยทำให้การทำธุรกรรมต่างๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนของ Crowdfunding คือ การระดมเงินทุนสาธารณะทั้งจากประชาชนหรือองค์กรจำนวนมากโดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการระดมเงินทุน ซึ่งตอบสนองทั้งผู้ประกอบการที่ไม่มีเงินทุน และนักลงทุนที่มีเงินลงทุนน้อยสามารถลงทุนได้โดยผ่านช่องทางคือ Website หรือ URL ต่างๆ ที่เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จระดับโลกอย่าง Kickstarter และ Indiegogo เป็นต้น  

โดยโครงการที่จะเข้ามาระดมทุนก็จะเปิดกว้างทุกรูปแบบ ทั้งนวัตกรรม สินค้า บันเทิง บริษัท หรืออื่นๆ ซึ่งข้อดีของรูปแบบการระดมทุนออนไลน์นี้จะทำให้เจ้าของไอเดียได้รับรู้การตอบรับและประเมินความเสี่ยงก่อนเริ่มทำงานจริง หากโปรเจ็กต์ สำเร็จก็เกิดจากไอเดียคนที่ตอบรับสนับสนุน หากไม่สำเร็จก็สามารถนำไปปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นได้

ถึงแม้จะเริ่มมีแพลตฟอร์มต่างๆ เกิดขึ้น แต่ก็ยังต้องการความเข้าใจ อย่างที่ผ่านมาผลงานของคนไทยหลายคนมีคุณภาพไปได้ไกลถึงระดับโลก ส่วนหนึ่งเพราะว่าเป็นโอกาสที่เข้ามาอย่างถูกจังหวะ ทำให้เกิดการต่อยอดไอเดีย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นส่วนน้อย ดังนั้น การมีพื้นที่ระดมทุนออนไลน์ในประเทศไทยดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดี และสร้างนวัตกรรมในอนาคตได้หลายรูปแบบ

MEEFUND เปิดพื้นที่สานฝันผลักดันคนมีไอเดีย
รูปแบบของ Crowdfunding ที่ได้รับความนิยมและเริ่มมีผู้สนใจในประเทศไทยคือแบบ Reward โครงการที่ต้องการความสนับสนุน จะต้องกำหนดเป้าหมายเงินทุนที่ต้องการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ หากได้รับการสนับสนุนตามเป้าในเวลาที่กำหนด ถือว่าประสบความสำเร็จ เจ้าของโครงการจะได้รับเงินทุน และผู้สนับสนุนจะได้รับของรางวัล ซึ่งหากการระดมทุนไม่ประสบความสำเร็จเจ้าของโครงการจะไม่ได้รับเงินสนับสนุน และผู้บริจาคก็จะได้เงินส่วนนั้นคืนกลับไป

Crowdfunding รูปแบบ Reward สัญชาติไทยอย่าง MEEFUND เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่ประสบความสำเร็จในทางของตัวเองแล้วมีความคิดอยากจะมารวมกันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อให้โอกาสกับทุกคนที่มีความฝัน ด้วยการสร้างพื้นที่ระดมทุนออนไลน์นี้ขึ้นมา

ณัฐวุฒิ เผ่าปรีชา ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหาร MEEFUND กล่าวว่า การทำงานของมีฟันด์คือต้องการเป็นตัวกลางระหว่างผู้ที่หาทุนสนับสนุนและคนที่ต้องการสนับสนุนไอเดียนั้น เนื่องจากเป็นรูปแบบของ Reward based จึงเป็นพื้นที่เปิดให้กับทุกคนในการสานฝันที่ถูกกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม อาหาร แฟชั่น ดนตรี หนัง การแสดง เกม ทุกประเภท ที่ผ่านมามีโครงการที่ประสบความสำเร็จไปแล้วถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และยังมีโครงการในอนาคตที่จะเข้ามาเพิ่มอีกเรื่อยๆ ด้วย

	ฉบับที่ 210 เดือนมิถุนายน FinTech 2.0 การเงินคลื่นลูกใหม่

ส่งเสริมผลงานไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก
คนไทยมีความสามารถหลายด้านศิลปะ ความบันเทิง หรืออื่นๆ ไม่ได้แพ้ชาติใด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยความนิยมอาจจะสู้ต่างชาติไม่ได้ รวมทั้งโอกาสที่จะเติบโตของไอเดียเหล่านั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากติดปัญหาหลายด้าน ไม่มีเงินลงทุน ไม่กล้าเสี่ยง ไม่ได้รับการสนับสนุน ซึ่งแน่นอนว่าไอเดียเหล่านั้นหายไปเพราะไม่ได้รับคำปรึกษา และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง

ณัฐสร บุญถนอม ผู้ก่อตั้ง MEEFUND

อีกรูปแบบหนึ่งของ Crowdfunding ที่น่าจับตามองคือ Equity Crowdfunding เป็นการระดมทุนที่เรียกว่าการ ‘เข้าหุ้น’ เพื่อดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ล่วงหน้า โดยนักลงทุนจะได้รับหุ้น (สิทธิ์ในความเป็นเจ้าของบริษัท) พร้อมได้รับเงินปันผล (ส่วนแบ่งกำไร)

ณัฐสร บุญถนอม ผู้ก่อตั้ง MEEFUND กล่าวว่า พื้นที่ของเราจะไม่ใช่แค่การมาโพสต์ข้อมูลเพื่อให้คนมาร่วมระดมทุน เรื่องจากทีมงานของเราเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรต่างๆ มากมาย เราจะมองเห็นได้ว่าเขาขาดอะไร ด้วยความที่ดูจากยุทธศาสตร์กระบวนการคิดของแต่ละธุรกิจไม่ได้ต่างกัน มีคนซื้อ มีคนขายไหม มีความต้องการเท่าไร อะไรเหล่านี้จะทำให้เจ้าของโปรเจ็กต์สามารถคิดวิเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเราเองก็พร้อมเป็นที่ปรึกษาเต็มที่ ถ้าหากยังไม่พร้อมตอนนี้กลับไปพัฒนาก่อนแล้วมาขึ้นบนแพลตฟอร์มของเราก็ทำได้

“เราประกาศตัวว่า เราไม่ได้มองเพียงแค่การลงทุนจากประเทศไทย เราตั้งใจสร้างเว็บไซต์ 2 ภาษา ตั้งแต่ที่เริ่ม ต้องการให้เป็นงานระดับโลกไปเลย เพราะพฤติกรรมคนไทยจริงๆ คิดเยอะใช้จ่ายค่อนข้างระวัง มันเป็นไปด้วยลักษณะทางกายภาพ แต่ธรรมชาติการทำธุรกิจในไทยมีอิสระพอสมควร บางอย่างมันขาดอยู่ถ้ามีคนสร้างขึ้นมา แน่นอนว่าต้องมีความอยากได้และมีคนเข้ามาสนับสนุน เท่าที่เราเห็นคือคนไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่นเลย”

จับตามองการระดมทุนรูปแบบร่วมหุ้น
อีกรูปแบบหนึ่งของ Crowdfunding ที่น่าจับตามองคือ Equity Crowdfunding เป็นการระดมทุนที่สนับสนุนกิจการที่มีโอกาสเติบโต หรือเรียกว่าการ “เข้าหุ้น” เพื่อดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ล่วงหน้า โดยนักลงทุนจะได้รับหุ้น (สิทธิ์ในความเป็นเจ้าของบริษัท) แลกกับเงินทุน พร้อมโอกาสในการได้รับเงินปันผล (ส่วนแบ่งกำไร) จากกิจการในอนาคต และอาจสามารถขายหุ้นเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา เช่น ขายให้กับกองทุนเงินร่วมลงทุน (VC) หรือ ขายเมื่อมีการนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

เอกสิทธิ์ เดี่ยววณิชย์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดรีมเมกเกอร์ คราวด์ฟันด์ดิ้ง จำกัด

เอกสิทธิ์ เดี่ยววณิชย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดรีมเมกเกอร์ คราวด์ฟันด์ดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางบริษัทเปิดคราวฟันดิ้งในรูปแบบ Reward ผ่านเว็บไซต์ Dreammaker.co.th ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงมีการขยับขยายมาสู่รูปแบบของ Equity Crowdfunding บนเว็บไซต์ Dreamakerequity.com ที่จะเป็นศูนย์กลางให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลของธุรกิจ และเงินทุนของนักลงทุน ซึ่งเรียกว่า Funding Portal โดยหลักการทำงานก็จะเป็นเหมือน Crowdfunding อื่นๆ มีเป้าหมายและการกำหนดระยะเวลาเช่นเดียวกัน

“Crowdfunding ในไทยเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นในส่วนรีวอร์ด Crowdfunding สื่อก็มีเรื่อยๆ ตลาดเองเริ่มเรียนรู้ แต่ส่วนของ Equity เองยังไม่ได้เปิดให้บริการ เพราะว่ามีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องตกลงกับหน่วยงานรัฐบาล แต่จริงๆ เรามีฐานของคนที่ต้องการมาอยู่บนแพลตฟอร์มแล้ว ซึ่งเห็นได้ว่ามีกลุ่มที่ต้องการเงินสนับสนุนจริงๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มสตาร์ทอัพ แต่ซึ่งจริงๆ แล้วก็สามารถเข้ามาหาทุนได้ทั้งหมดตั้งแต่ SMEs ร้านอาหาร อสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ ซึ่งบนแพลตฟอร์มของเราคนที่เข้ามาจะต้องชัดเจนว่าอนาคตของบริษัทจะเป็นอะไร โตเข้าไปสู่ตลาดหลักทรัพย์ รอคนมาเทคโอเวอร์ หรือว่าไม่มีเป้าหมายใหญ่แต่จะจัดเป็นเงินปันผล คือต้องมีแผนที่ชัดและรัดกุม”

ภาครัฐต้องมีส่วนร่วมเพื่อให้ภาพรวมเป็นไปอย่างโปร่งใส
เพราะว่าเป็นการทำงานในลักษณะของการออกและเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทำให้ต้องมีหน่วยงานภาครัฐอย่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้ามากำกับดูแลระบบการทำงานของ Equity Crowdfunding ด้วย โดยบทบาทของ ก.ล.ต. ที่ต้องเข้ามากำกับดูแลเป็นหลักคือ

• ออกประกาศและกฎระเบียบให้ผู้ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างการส่งเสริมธุรกรรมนี้ควบคู่ไปกับการ “คุ้มครอง” นักลงทุน ซึ่งเป็นบุคคลทั่วไป
• กำกับดูแล Funding Portal ให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะในเรื่องของระบบงานภายใน มีการจัดการกับเงินที่อยู่ในระหว่างการระดมทุนให้เหมาะสมโปร่งใส ทั้งนี้ Funding Portal ทุกราย ต้องได้รับอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. ก่อน จึงจะเปิดให้บริการได้
• ดูแลผู้ลงทุนรายย่อย โดยการกำหนดวงเงินลงทุนขั้นสูงให้กับนักลงทุนรายย่อยแต่ละคนเพื่อป้องกันการเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

“Equity Crowdfunding ก่อนหน้านี้มีคนสนใจประมาณ 10 ราย แต่ล่าสุดเมื่อต้นปีเหลือประมาณ 5 ราย เพราะว่ายังติดปัญหาในเรื่องของระบบจองซื้อหลักทรัพย์ เพราะว่าเป็นการจองซื้อแบบออนไลน์และยังไม่มีระบบที่เข้ามาช่วยจัดการกับธุรกรรมตรงนี้ ก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ แต่เชื่อได้ว่าไม่เกินปลายปีนี้หรือปีหน้าจะได้ใช้งานกันอย่างแน่นอน” เอกสิทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการระดมทุนออนไลน์ในครั้งนี้ไม่เป็นหน้าที่ของเจ้าของแพลตฟอร์มเพียงอย่างเดียวแต่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนทุกคน เนื่องจากหากวงการมีการพัฒนามากขึ้นก็จะส่งผลระบบเศรษฐกิจก็จะเป็นสังคมแบบสร้างสรรค์ ที่ประยุกต์ใช้ดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ นวัตกรรมต่างๆ ที่เคยเป็นเพียงความคิดก็จะเกิดขึ้นได้จริง และนำมาพัฒนาต่อไปได้ในทุกๆ อุตสาหกรรม