“เจคิว ปูม้านึ่ง” ธุรกิจส่งอาหารทะเลถึงบ้านในยุคดิจิทัล

ประเสริฐ สมบูรณ์ และสุรีรัตน์ ศรีพรหมคำ เจ้าของร้านเจคิว ปูม้านึ่ง

ในยุคที่ธุรกิจต่างเร่งพัฒนาและปรับตัว เพื่อรองรับกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “สุรีรัตน์ ศรีพรหมคำ และประเสริฐ สมบูรณ์ เจ้าของร้านเจคิว ปูม้านึ่ง ธุรกิจอาหารทะเลพร้อมทานแบบเดลิเวอรี่” ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำการตลาด ตอบโจทย์คนเมืองที่มีความต้องการรับประทานอาหารทะเลสด ใหม่ และรสชาติดี แต่ไม่มีเวลาหรือไม่สะดวกเดินทางไปที่ร้าน ด้วยบริการพร้อมส่งแบบเดลิเวอรี่ จนปัจจุบัน เจคิว ปูม้านึ่ง สามารถสร้างยอดขายได้สูงสุดถึงวันละ 2 ล้านบาท พร้อมขยายการจัดส่งสินค้าทั่วไทย

สร้างธุรกิจบนโชเชียลฯ ผ่านกระแสปากต่อปาก
สุรีรัตน์ ศรีพรหมคำ เจ้าของร้านเจคิว ปูม้านึ่ง เล่าว่า  จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจนั้น เมื่อปี 2555 ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ด้านการส่งออกในธุรกิจอาหารทะเล ขณะที่ครอบครัวทำธุรกิจรับ-ส่งอาหารทะเลตามร้านอาหาร ที่ต่อมาเกิดช่วงวิกฤติ เมื่อลูกค้าลดปริมาณการสั่งซื้อลง บางครั้งยกเลิกการสั่งซื้อ ทำให้วัตถุดิบตกค้าง ตนจึงทดลองนำอาหารทะเลไปนึ่งสุก และนำไปแจกจ่ายให้กับเพื่อนๆ ที่ทำงาน ซึ่งจากจุดเริ่มต้นนี้ ทำให้เธอมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ จากช่องว่างทางธุรกิจที่อาหารทะเลสดๆ ในกรุงเทพฯ ค่อนข้างหาทานยาก

“เราเริ่มจากการถ่ายภาพอาหารต่างๆ แล้วโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก อาทิ ปูม้านึ่ง กุ้งเผา หอยนางรม และอาหารทะเลอื่นๆ ซึ่งในช่วงนั้นยังไม่มีใครทำธุรกิจส่งอาหารทะเลนึ่งพร้อมส่งถึงบ้าน ทำให้ลูกค้าสนใจและทดลองสั่งซื้อ ขณะที่ในช่วงแรกเราสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคด้วยการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าและแฟนเพจได้ร่วมสนุก รวมไปถึงทำคอนเทนต์วิดีโอ เช่น คลิปสอนแกะปู หรือคลิปแนะนำเมนูอาหารต่างๆ เป็นต้น จากจุดเริ่มต้นดังกล่าว ทำให้ร้านเราเกิดเป็นกระแส บอกต่อ และกลายเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว” สุรีรัตน์ กล่าว

เฟซบุ๊กทำให้ยอดขายของร้านเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าว ช่วยให้การสั่งซื้อสินค้าง่ายขึ้น ซึ่งเราต้องการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในทุกๆ ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การสั่งซื้อ การชำระเงิน ไปจนถึงการจัดส่งถึงบ้าน

เปิดหน้าร้านบนเฟซบุ๊ก ขยายช่องทางผ่อนชำระเงิน
เจคิว ปูม้านึ่ง เดลิเวอรี่ เริ่มต้นรับออเดอร์ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก และไลน์ เนื่องจากมองว่าเป็นช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย และรวดเร็ว ต่อมาเมื่อเฟซบุ๊กได้มีการพัฒนาฟีเจอร์สร้างหน้าร้านย่อยในหน้าเพจ หรือ เฟซบุ๊กช้อปขึ้น เจคิวได้ใช้ช่องทางนี้ในการทำการตลาด ทั้งในการโฆษณาเฉพาะพื้นที่ รวมไปถึงกำหนดกลุ่มเป้าหมาย จนสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มมากขึ้น และมียอดไลค์เพจกว่า 6 แสนรายในปัจจุบัน

“เฟซบุ๊กทำให้ยอดขายของร้านเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวเข้ามาช่วยตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายของลูกค้า ช่วยให้การสั่งซื้อสินค้าง่ายขึ้น โดยลูกค้าสามารถเลือกเมนูที่ต้องการสั่งซื้อ และรายการสั่งซื้อจะถูกส่งไปยังกล่องข้อความของร้าน ทำให้ร้านสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันที ซึ่งเราต้องการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในทุกๆ ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การสั่งซื้อ การชำระเงิน ไปจนถึงการจัดส่งถึงบ้าน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจเมื่อสั่งซื้อสินค้าจากเรา” สุรีรัตน์ กล่าว

	ฉบับที่ 216 เดือนธันวาคม ใช้ App ช่วยสังคม ลดช่องว่างคนที่ลำบาก

และนอกจากสั่งซื้อผ่านทางเฟซบุ๊ก และไลน์แอทแล้ว ปัจจุบัน เจคิว ปูม้านึ่ง มีช่องทางรับออเดอร์เป็นระบบคอลเซ็นเตอร์ ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 02-105-4205 รวมไปถึงเปิดช่องทางการชำระเงินหลากหลายมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย ชำระเงินปลายทางผ่านคนส่งของ ชำระผ่านบัตรเครดิต ระบบผ่อนชำระนาน 3-10 เดือน สำหรับกรณีที่มีการสั่งซื้อสินค้าเกิน 3,000 บาท และชำระบิลผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสอีกด้วย

เพิ่มวัตถุดิบ-กำลังคน รองรับออเดอร์ช่วงเทศกาล
เจ้าของเจคิว ปูม้านึ่ง เล่าต่อว่า ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญของการทำธุรกิจจำหน่ายอาหารทะเลคือ ความไม่แน่นอนของวัตถุดิบ ที่บางครั้งไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย ทำให้ต้องแก้ปัญหาด้วยการจัดหาแหล่งวัตถุดิบเพิ่ม รวมถึงเพิ่มรายการสินค้าอื่นๆ เข้าไปทดแทน เพื่อให้รองรับกับความต้องการของลูกค้า อย่างในช่วงเทศกาลที่มักจะมีออเดอร์เข้ามามาก ทางร้านก็แก้ไขปัญหาด้วยการรับสั่งซื้อล่วงหน้า เพื่อจะได้จัดเตรียมวัตถุดิบให้เพียงพอต่อการจำหน่าย นอกจากนี้ยังเพิ่มจำนวนคนรับออเดอร์ รวมไปถึงเพิ่มแม่ครัวและคนส่งอาหาร เพื่อให้สามารถจัดส่งออเดอร์ได้เพิ่มมากขึ้น

“ช่วงนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว สำหรับคนที่ต้องการสร้างธุรกิจบนออนไลน์ เนื่องจากเราทุกคนล้วนมีสื่อออนไลน์อยู่ในมือ ด้วยคุณสมบัติที่ใช้งานง่ายและต้นทุนต่ำ ขณะที่ช่องทางต่างๆ อย่าง เฟซบุ๊ก หรือไลน์แอท ก็พัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาธุรกิจหรือทำการตลาดได้โดยง่าย เพียงแค่คุณมีสินค้าหรือบริการที่แตกต่างจากที่มีอยู่ในตลาด หรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และลงมือทำเพียงเท่านั้น” สุรีรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

ทางร้านเจคิว มองว่า ตลาดอาหารทะเลพร้อมทานยังมีที่ว่างมากพอสำหรับผู้เล่นรายอื่นๆ ซึ่งเธอเชื่อว่าการพัฒนาและรักษามาตรฐานธุรกิจของตนเองให้ลูกค้าเชื่อมั่นอยู่เสมอเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการมองถึงเรื่องคู่แข่ง เพราะสุดท้ายแล้ว การจะเลือกสั่งซื้อสินค้าจากร้านใด ลูกค้าเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน