Big Data

ประเทศไทย ติดเกณฑ์กลุ่มประเทศระยะเริ่มต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร

รายงานดัชนีความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก หรือ GCI ประจำปีของหัวเว่ย ได้แสดงข้อมูลการประเมินด้านการเชื่อมโยงสื่อสารของแต่ละประเทศ ทั้งมุมมองในระดับชาติและในเชิงธุรกิจ โดย สามารถแบ่ง GCI ออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน จาก เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารข้อมูลและการสื่อสาร (ICT)  ได้ดังนี้

1.กลุ่มประเทศ Starter เป็นประเทศที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการวางโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT ที่เน้นไปที่การเพิ่มจัดสรรด้าน ICT เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงเศรษฐกิจดิจิทัลยิ่งขึ้น ประเทศในกลุ่มนี้ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย บังกลาเทศ และปากีสถาน

2.กลุ่ม Adopter เป็นกลุ่มที่อัตราการเติบโตของ GDP ในประเทศมาจากโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT ประเทศเหล่านี้เน้นการเพิ่มความต้องการด้าน ICT ในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไปสู่ยุคดิจิทัล ประเทศในกลุ่มนี้ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย และไทย

โดยประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 51 จากทั้งหมด 79 ประเทศ อยู่ในกลุ่มประเทศ Adopter ระยะเริ่มต้นด้านการพัฒนา ICT มีคะแนนโดดเด่นในด้านความครอบคลุมในการให้บริการเครือข่าย Mobile Broadband การให้บริการ 4G มีคะแนนเพิ่มขึ้น …

ธนาคารนำ Big Data มาใช้พิจารณาดอกเบี้ยเฉพาะบุคคล

ในปัจจุบัน ธนาคารได้นำ Big Data มาประมวลผลพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าเพื่อสื่อสารกับลูกค้าแบบรายบุคคล โดยธนาคารจะนำข้อมูลอย่างเช่น สถานที่ วันเวลาของเดือน ความต้องการใช้เงินของลูกค้า มาประมวลผลความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ในแต่ละช่วงเวลาว่าลูกค้ากำลังใช้บริการฟีเจอร์ใด

โดยลูกค้าสามารถขอสินเชื่อเงินกู้และการแนะนำการลงทุนสำหรับลูกค้าแต่ละรายบุคคล ซึ่งธนาคารจะนำข้อมูลมาจาก Big Data และ AI มาวิเคราะห์ในการออกเงินกู้ นำมาวิเคราะห์ดอกเบี้ย ทำให้ได้ดอกเบี้ยสินเชื่อที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล รวมไปถึงหน้าแรกทำรายการภายในแอป ฯ ของลูกค้าแต่ละคนที่แตกต่างกัน โดยธนาคารใช้เทคโนโลยี AI ที่แนะนำว่าลูกค้าต้องการทำธุรกรรมอะไรบ่อยที่สุด

รวมไปถึงการยืนยันตัวตนที่ไม่ต้องไปที่ธนาคาร โดย Biometrics จะเป็นแบบใด สามารถติดตามต่อได้ในคลิป

โดยธนาคารไทยพาณิชย์ มีการนำเทคโนโลยี Big Data ในแอป ฯ  SCB EASY ซึ่งในปีหน้า จะเริ่มใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว

สนามบินยุคใหม่ ที่มีระบบจดจำใบหน้าเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร

ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงรูปแบบความสะดวกสบายถูกนำมาใช้ในสนามบินที่มีขึ้นมาและสามารถใช้ได้จริงกับผู้โดยสารแล้ว

เริ่มต้นด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยการระบุหาตำแหน่ง และติดตามผู้โดยสารที่อยู่ในห้องบริการผู้โดยสาร โดยเทคโนโลยีนี้ทำให้สามารถส่งระบบเตือนให้ขึ้นเครื่องบินแก่ผู้โดยสารแต่ละราย ด้วยฐานข้อมูลภาพใบหน้า และอัลกอริทึมการจดจำใบหน้า และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS)

การดูรอบ FIDS ที่แสดงเพียงแค่ของตน จอภาพจะสแกนใบหน้าของผู้โดยสารเพียง ระบบจะระบุว่าผู้โดยสารคือใคร จากระบบการจดจำใบหน้า หน้าจอ FIDS ก็จะแสดงข้อมูลเที่ยวบิน และตำแหน่งปัจจุบันของผู้โดยสาร รวมทั้งแจ้งเส้นทางที่เร็วที่สุดที่จะไปยังประตูขึ้นเครื่อง

โดยทั้ง 2 สิ่งนี้ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยระบบจดจำใบหน้าแบบ End-to-End ด้วยระบบกล้องวงจรปิดที่มีภาพคมชัดแบบ HD ในการทำงาน

ผู้โดยสารจะไม่มีปัญหาในการขึ้นรถชัตเติลบัสเพื่อไปยังหลุมจอดที่อยู่ไกล ด้วยแพลตฟอร์ม Big Data ด้วยระบบจัดสรรหลุมจอดแบบอัตโนมัติ ที่จะช่วยจัดสรรหลุมจอด ด้วยการปรับปรุงข้อมูลการจัดสรรหลุมจอดแบบพลวัต สะพานเทียบเครื่องบิน และหลุมจอดระยะใกล้ให้แก่เที่ยวบินกว่า 1,000 เที่ยวได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที

ช่วยให้แผนกบริหารจัดการสนามบินสามารถบริหารจัดการและจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ไม่ใช้ไฟฟ้า ที่ใช้เทคโนโลยี IoT ในระบบไฟส่องสว่างสนามบิน แก้ไขปัญหาไฟสนามบินแบบเดิมที่ไม่สามารถเฝ้าสังเกต และควบคุมแบบเรียลไทม์ ช่วยลดต้นทุนการตรวจสอบด้วยมือได้กว่า 10,000 ชั่วโมงแรงงาน/ปี เครื่องบินสามารถใช้ไฟส่องสว่างลานบินแบบที่มีการเฝ้าระวังด้วยระบบอัตโนมัติ ระบบนี้ยังสามารถแสดงเส้นทางในอดีต และตำแหน่งที่ตั้งของอุปกรณ์แบบไม่ใช้ไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์

ซึ่งนวัตกรรมที่พัฒนาในสนามบินนี้เป็นการร่วมมือของแผนกสนามบินของ CAAC, TravelSky, มหาวิทยาลัยการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน และหัวเว่ย

เกษตรกรสามารถใช้ Big data สำหรับวิเคราะห์พื้นที่เพาะปลูก

อาชีพการเกษตรก็ยังมีความจำเป็นและเติบโตอยู่ จากขยายตัวร้อยละ 6.2 การขยายตัวของการเกษตรโดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ที่วิเคราะห์และประมาณการภาวะเศรษฐกิจการเกษตรใน 2561 แต่ปัญหาของการทำเกษตรก็ยังคงมีให้เห็น อย่างเช่น อากาศ สภาพน้ำ หรือความเข้าใจของการปลูกพืช การนำเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มาช่วยเกษตรกรในการทำเกษตรกรรมนั้น คงทำให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าในปัจจุบัน

บริการ “ฟาร์มแม่นยำ” สำหรับเกษตรกร เป็นบริการผ่านแอปพลิเคชั่นของ Farmer Info ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง dtac ที่มีเทคโนโลยีเครือข่าย  รีคัลท์ สตาร์ทอัพในโครงการของ dtac ที่วิเคราะห์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และ มูลนิธิรักบ้านเกิด ที่ส่งเสริมความพัฒนาแก่เกษตรกร

สำหรับ ฟาร์มแม่นยำ ได้นำเทคโนโลยี Big Data เข้ามาวิเคราะห์ผล โดยมี 3 ฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับเกษตรกร นั่นคือ การพยากรณ์อากาศเฉพาะเจาะจงพื้นที่ที่ต้องการได้ ทั้งอุณหภูมิ โอกาสการเกิดฝน ปริมาณฝนในพื้นที่ โดยสามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า 7 วัน ฟีเจอร์ต่อมา สามารถเห็นภาพถ่ายพื้นที่เพาะปลูกของตนได้ผ่านทางดาวเทียม เพื่อช่วยหาความผิดปกติของพืชเพื่อให้สามารถแก้ไขได้ทันถ่วงที พร้อมกับฟีเจอร์ผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะช่วยให้เกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกในแต่ละรอบเก็บเกี่ยว นำเสนอเป็นภาพอินโฟกราฟฟิกที่เข้าใจง่าย และการให้ข้อมูลการเพาะปลูกในทุกขั้นตอน

สำหรับคนที่สนใจ สามารถดาวน์โหลดได้ โดยดาวน์โหลดแอป …