งานเสวนาที่รวบรวมบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก แห่กันมาอวดโฉมเทคโนโลยีใหม่ๆ บนสมาร์ทโฟสกันอีกครั้งเป็นปีที่ 8 เพราะอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนเข้าถึงคนจีนแล้วกว่า 800 ล้านคน จึงไม่ควรพลาดที่จะเปิดมุมมองใหม่ และเกาะติดนวัตกรรมที่ล้ำหน้าระดับสากล
Mr. Chang-Hwan Lee, CEO, FXGear
Mr. Gao Xinmin, Vice President, Internet Society of China
Mr. Ming Zhao, President, Huawei Honor
Mr. Jing Long Zhou, GMIC Beijing Overall Head
ผู้เขียนมีโอกาสเข้าร่วมงาน Global Mobile International Conference (全球移动互联网大会） หรือ GMIC 2015 กับธีม Mobile Everything [移] 生万物 เมื่อวันที่ 28-30 เมษายน 2015 ณ China National Convention Center (CNCC) เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ในฐานะสื่อมวลชน
งาน GMIC จัดขึ้นโดย องค์กร Great Wall Club (GWC) ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างองค์กรจาก 4 ประเทศชั้นนำด้านไอทีอย่าง จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอินเดีย โดยได้เริ่มจัดงานประชุมและนิทรรศการด้านเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ต ครั้งแรกในปี 2008 ที่ปักกิ่ง และในปี 2009 เป็นต้นมา ผู้จัดงานก็ได้ยกระดับงานประชุมระดับนานาชาติ เรียนเชิญวิทยากรจากทั่วโลกมาเสวนา เพื่ออัพเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ ทุกปี จนปัจจุบัน งาน GMIC ได้ขยายการจัดงานสู่ 7 เมืองทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ค-สหรัฐอเมริกา, บังกลอร์-อินเดีย, โตเกียว-ญี่ปุ่น, ซิลิคอนวัลเล่ย์-สหรัฐอเมริกา, จาการ์ต้า-อินโดนีเซีย, เซาเปาโล-บราซิล และไต้หวัน
สำหรับเนื้อหาการจัดงาน GMIC Beijing 2015 แบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ งานประชุมสัมมนา (Conference) และนิทรรศการ (Exhibition) โดยงานประชุมสัมนา แยกเป็นเวทีใหญ่ Main Hall ที่จัดเป็นพิธีเปิด และงานเสวนาหลัก Thought Leader ซึ่งปีนี้ มีผู้บริหาร นักธุรกิจ ชั้นแนวหน้า ทั้งในประเทศจีนและต่างประเทศ ทั้งหมด 428 คน ที่ให้เกียรติร่วมบรรยาย และถกประเด็นคำถามให้หัวข้อต่างๆ สำหรับงานเสวนาย่อย ได้แก่ โซน G20 Summit, Global Robotics Conference, Mobile Marketing Summit, Mobile Health Summit, G-Startup, Global Game Summit, Global Mobile Education Forum, Global O2O Summit, appSpace, Smart Device Summit เหล่านี้ เสมือนจับงานประชุมหลายๆ ประเด็นที่น่าสนใจ มาไว้ได้ในงานยักษ์งานเดียว
โซนนิทรรศการ จัดแสดงผลิตภัณฑ์จากบริษัทเล็กใหญ่ ทั้งหมด 408 บริษัท แบ่งเป็นบูธขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ที่ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสเทคโนโลยีที่นำมาอวดโฉมได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงสามารถแลกเปลี่ยนพูดคุยกับเจ้าของ หรือตัวแทนจากบริษัทต่างๆ หรือเก็บเป็นข้อมูลเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ
 |
ฉบับที่ 198 เดือนมิถุนายนไอทีเชื่อมสู่ท้องถิ่นแบบ Social Enterprise |
ผู้เข้าร่วมงานจะต้องลงทะเบียนบนเว็บไซต์เพื่อแลกบัตรเข้างาน โดยมีราคาหน้าบัตรอย่าง บัตร VIP ราคา 15,000 หยวน บัตร Gold 10,000 หยวน บัตร Silver 3,000 หยวน และบัตร Expo 200 หยวน ถือเป็นราคาบัตรที่สูง แต่ก็คุ้มสุดคุ้ม เพราะผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ต่างก็มีจุดหมายเพื่อศึกษาข้อมูลเทคโนโลยีเพิ่ม เติม รวมถึงการขยายเครือข่ายทางธุรกิจจากงานนี้ ไม่น่าแปลกใจที่มีผู้ร่วมงาน 3 วัน 30,558 คน และสื่อมวชนเข้าร่วมอีก 800 แห่ง
IT Leader แห่อวดโฉมนวัตกรรมใหม่
จุด ขายของงาน GMIC Beijing 2015 มาจาก Thought Leader Conference ที่อยู่ในส่วนของเวทีหลัก Main Stage ที่ได้สะกดคนดูด้วยวิทยากรนักไอทีระดับชาติจีน และระดับโลก เวทีขนาดกว้างเท่าสนามบาส พร้อมด้วยจอโปรเจ็กต์เตอร์ยักษ์สามจอด้านหลัง ก็ทำให้คนที่ได้ฟังไม่อยากลุกไปไหน ผู้เขียนขอยกประเด็นบางส่วนที่เป็นไฮไลท์และน่าสนใจมาให้อ่านกัน
Mr. Jing Long Zhou, GMIC Beijing Overall head กล่าวถึง เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนั้นได้เปลี่ยนแปลงโลกไปแล้ว คนส่วนใหญ่ในประเทศที่พัฒนาต่างก็เข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟน ซึ่งการที่สมาร์ทโฟนสามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตได้จึงทำให้โลกของเรา ก้าวหน้าขึ้น
Mark Ren, COO, Tencent
Internet+ (Internet Plus) ที่เป็นนโยบายใหม่ของรัฐบาลจีนที่ต้องการให้เกิดการร่วมมือกันระหว่างผู้ให้บริการบนอินเทอร์เน็ต และบริษัทผู้ผลิตต่างๆ เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจจีนที่ขนาดนี้เดินไปอย่างเชื่องช้า ให้สามารถขับเคลื่อนเติบโตได้ในอนาคต
อีกท่าน Mr. Gao Xinmin, Vice President, Internet Society of China ได้คุยถึงความสำคัญของอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือในประเทศจีน ตอนนี้ มีคนจีนถึง 800 ล้านคน เข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยผ่านโทรศัพท์มือถือมากที่สุด เหมือนเป็นตัวเลขที่มาก แต่จากจำนวนประชากรจีนทั้งหมด 1,350 ล้านคน แน่นอนว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ประชากรที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตจะมีมากกว่านี้มหาศาล นอกจากนั้น Mr.Gao ยังได้กล่าวถึง Internet+ (Internet Plus) ที่เป็นนโยบายใหม่ของรัฐบาลจีนที่ต้องการให้เกิดการร่วมมือกันระหว่างผู้ให้ บริการบนอินเทอร์เน็ต และบริษัทผู้ผลิตต่างๆ เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจจีนที่ขนาดนี้เดินไปอย่างเชื่องช้า ให้สามารถขับเคลื่อนเติบโตได้ในอนาคต
นักธุรกิจชั้นนำจีนคนแรกที่ ขึ้นเสวนา Mr. Bin Lin, President, Xiaomi บริษัทมือถืออันดับ 3 ของโลก ตามหลัง Samsung และ Apple ติดๆ เล่าถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของ Xiaomi และประกาศถึงความสำเร็จที่ทำยอดขายสินค้าเมื่อปีก่อนได้ถึง 61 ล้านยูนิต และคาดว่าปีนี้จะมียอดขายสินค้า 80-100 ล้านยูนิตเลย
ทั้งนี้ Mr. Bin Lin มองว่า ความท้าทายของ Xiaomi คือการเพิ่มจำนวนความต้องการของลูกค้า และวางแผนเจาะตลาดผู้ใช้ในอินเดีย โดยจับมือกับ บริษัท Tata ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1868 และมีผลประกอบการ 103 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ($103 billion) ในปีที่แล้ว
Mr.Matt Grob, CTO, Qualcomm บรรยายในหัวข้อ “The edge of Internet Change Agent” โดยเกริ่นถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือของคนจีน โดยในปีนี้จำนวนผู้ใช้ชาวจีนที่เข้าถึงเทคโนโลยี LTE (Long Term Evolution) จะมีถึง 100 ล้านคน นั่นทำให้ขอบเขตของการเชื่อมต่อจะเปลี่ยนรูปแบบเพื่อตอบรับความต้องการที่ เพิ่มขึ้นของผู้ใช้
Qualcom เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ อย่างการเชื่อมต่อระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนกับรถยนต์ ขณะนี้ Qualcom จับมือกับบริษัทผลิตยานยนต์ 15 แห่ง มากกว่า 40 รายการที่กำลังพัฒนาระบบการทำงานของมือถือให้สามารถใช้งานผ่านแผงคอนโซลรถยนต์ เพื่อให้เชื่อมต่อ Wi-Fi โปรแกรมสนทนา แอพพลิ-เคชั่น ดูหนัง ฟังเพลง พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ก้าวหน้ากว่าเก่า อีกทั้งเทคโนโลยีอ่านลายนิ้วมือ (Fingerprint Reader) ที่จะมีประสิทธิภาพในการระบุตัวผู้ใช้ยิ่งขึ้น แม้ในขณะที่มือเปียก หรือมีน้ำมันเกาะบนนิ้ว
เด็ดสุดคงจะเป็น Zeroth Technology ที่มีระบบปฏิบัติการคำนวณว่องไว ในการสาธิตบนเวที กล้องวิดีโอจับภาพรูปภาพหลายๆ รูป โดยวางรูปภาพเหล่านั้นสลับไปมา กล้องสามารถจับภาพและแสดงผลได้ชัดเจนในทันทีทันใด ไม่ว่าภาพแต่ละภาพมีความละเอียด และสีสันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หุ่นยนต์เสมือนคนตัวใหม่สัญชาติจีนที่มีชื่อว่า Yongyang
Mr.Matt Grab, CTOm Qualcomm
Smartwatch ปัจจุบันยังมีฟังก์ชั่นการทำงานที่จำกัดไม่เหมือนกับการใช้สมาร์ทโฟน ทำให้ Tencent ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการ TencentOS ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ เพื่อประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ
Hiroshi Ishiguro, Distinguished Professor, Osaka University ประเทศญี่ปุ่น อาจารย์ผู้โด่งดังจากการสร้างหุ่นยนต์ให้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนตนเอง ครั้งนี้ เปิดตัว Humanoid หรือ หุ่นยนต์เสมือนคนตัวใหม่สัญชาติจีนที่ชื่อว่า Yangyang โดยได้ต้นแบบจาก Ms. Yang Song ประธานบริษัท Shanghai Shenqing Industry and Japan Sanlian Robot และยังเป็นมารดาของลูกศิษย์คนโปรด ที่เรียนด้าน Robotic กับ Hiroshi ที่ประเทศญี่ปุ่น
อาจารย์ Hiroshi ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาหุ่นยนต์ และคาดหวังว่าอนาคต Humanoid หุ่นยนต์เสมือนคนจะสามารถเข้ามาแทนที่การทำงานของคนได้ในหลายๆ บทบาทสำคัญ หรือสามารถเป็นตัวแทนของคนๆ นั้นในการทำกิจกรรมที่ต่างกัน ในต่างที่ ต่างเวลา
Mr.Chang-Hwan Lee, CEO, FXGear จากประเทศเกาหลี เปิดตัวผลิตภณฑ์ใหม่ของบริษัท เรียกว่า “the FXMirror” เป็นการนำแนวคิดง่ายๆ ทำหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เป็นเสมือนกระจก โดยเทคโนโลยีนี้เหมาะกับการลองซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ดูรูปภาพบนหน้าจอ แต่สามารถลองสวมใส่และเห็นภาพออกมาได้เหมือนส่องกระจกจริงๆ
Mr. Bin Lin, President, Xiaomi
ในส่วนเจ้าบ้าน Mark Ren, COO, Tencent ก็ได้บรรยายเกี่ยวกับ Wearable Technology เฉพาะอย่างยิ่ง Smartwatch ซึ่ง Smartwatch ปัจจุบันยังมีฟังก์ชั่น การทำงานที่จำกัดไม่เหมือนกับการใช้สมาร์ทโฟน ทำให้ Tencent ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการ TencentOS ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ เพื่อประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งสำหรับ TencentOS Smartwatch นั้น จะมีความสามารถไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน ที่ผู้ใช้สามารถสวมใส่ขนาดวิ่ง แต่ก็สามารถเรียกรถแท๊กซี่ จองร้านอาหาร เช็กตั๋วเครื่องบิน สนทนากับเพื่อน ฯลฯ โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อื่นๆ เชื่อมต่ออีก
สำหรับคนที่ผู้เขียนประทับใจที่สุด อย่าง Mr. Ming Zhao, President, Huawei Honor ที่เล่าถึงการเติบโตของมือถือ Huawei Honor เหมือนกับ “นกโง่ๆ ที่บินโดยไม่ต้องรอลม” （笨鸟不等风）โชว์วิสัยทัศน์การพัฒนามือถือ Huawei Honor ให้เข้ากับยุคสมัย และความต้องการของตลาดได้อย่างเฉียบคม
สิ่งที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดคือ การเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ Huawei Honor 4C กันสดๆ บนเวที แสง สี เสียง ดึงดูดให้ผู้ชมจับจองไปที่จอสกรีนยักษ์ ภาพมือถือขนาดกำลังเหมาะมือ ที่คุณภาพล้ำกว่า ทำงานได้เร็วกว่าสมาร์ทโฟนอื่นๆ และขายในราคาน่าคบหา 799 หยวน 899 หยวน และ 999 หยวน หรือไม่เกิน 5,000 บาทไทยเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็ได้เปิดขายอย่างเป็นทางการในตลาดแล้ว
เหล่านี้คือ ไฮไลท์ส่วนเล็กๆ ที่ผู้เขียนสามารถรวบรวมมาให้ผู้อ่านชาวไทยได้ เนื่องจาก GMIC Beijing 2015 ในส่วนงานเสวนามีเพียงแค่ 2 วัน แต่โซนเสวนาหลักทั้งหมดมีถึง 8 โซน เลยทำให้พลาดหลายๆ หัวข้อที่น่าสนใจซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไร ผู้อ่านชาวไทยที่สนใจงาน GMIC สามารถเข้าร่วมงานเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตเลิศๆ แบบนี้ได้อีก โดยติดตามข่าวสาร พร้อมลงทะเบียนที่ www.thegmic.com สามารถเลือกรับข่าวสารสำหรับงานประชุมในอีก 7 เมืองที่จะจัดงานต่อไปเร็วๆ นี้ เฉพาะอย่างยิ่ง งาน GMIC ญี่ปุ่นเดือนกรกฎาคม หรือ GMIC เดือนธันวาคมที่ไต้หวัน เป็น 2 เมืองที่น่าจะสะดวกในการเดินทางสำหรับคนไทยที่สนใจและอยากอัพเดตนวัตกรรมใหม่ๆ ก่อนใครเพื่อน
