เทคนิคสำหรับสตาร์ทอัพ จากกูรูระดับโลก

แนวความคิดการทำธุรกิจสตาร์ทอัพกำลังได้รับความนิยมจากบรรดาผู้ที่กล้าคิด กล้าฝัน และอยากจะเป็นผู้ประกอบการ โดยตัวชี้วัดความเป็นไปได้คือ การจัดการกับรูปแบบของธุรกิจ แต่การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องมีการเรียนรู้หลายอย่าง เพื่อให้ทันกับกระแสความต้องการของผู้บริโภค

เนียร์ อียัล  ที่ปรึกษาบริษัทระดับโลก

เนียร์ อียัล ที่ปรึกษาบริษัทระดับโลก

สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ผู้ลงทุนมองหาจากสตาร์ทอัพคือ ข้อได้เปรียบทางธุรกิจแบบที่คู่แข่งในตลาดยังไม่มีการให้บริการ หรือผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมานั้นยากที่จะถูกลอกเลียน แต่อย่างไรก็ตาม การมีข้อได้เปรียบทางธุรกิจไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป

ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
เนียร์ อียัล ที่ปรึกษาบริษัทระดับโลก เช่น Facebook, Twitter, LinkedIn, Instagram ผู้ศึกษาทฤษฎี Hooked Model แนวคิดที่ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคให้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ว่าด้วยเรื่องการสร้างผลิตภัณฑ์อย่างไร เพื่อจะกระตุ้นให้คนติดใจและใช้จนติดเป็นนิสัยกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต โดยหลายบริษัทนำไปประยุกต์ใช้และประสบความสำเร็จ ทำให้ทฤษฎีนี้เป็นที่ยอมรับโดยแพร่หลายในวงการสตาร์ทอัพ

Hooked Model แบ่งเป็น 4 ขั้นตอนคือ Trigger, Action, Variable Reward และ Investment ซึ่งถ้า Product ตัวไหนสามารถสร้าง Hooked Loop ได้สำเร็จ จะทำให้เป็น Product ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1) Trigger สิ่งที่กระตุ้นให้เราเกิดความอยากใช้ Product เช่น เราเห็น Notification หรือ E-mail เกี่ยวกับ Product นั้น 2) Action การกระทำของเราต่อสิ่งกระตุ้นนั้น เช่น เรากดเข้าไปในแอพพลิเคชั่น หลังจากเห็น Notification 3) Variable Reward สิ่งที่เราได้รับหลังจากการกระทำที่เราได้ทำไป เช่น เราได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในหน้า Feed ของเราบน Facebook 4) Investment สิ่งที่เราได้กระทำไปทั้งหมดระหว่างใช้ Product เช่น เรา Post รูป กด Like เขียน Comment หรือ Share เนื้อหาต่างๆ บน Facebook รวมถึง “เวลา” ที่เราให้ไปกับการเล่น Product ตัวนี้

สำหรับในมุมมองของเนียร์ ผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ นอกจากต้องมีการวางแผนการทำงานที่มีประสิทธิภาพแล้ว การเข้าถึงผู้บริโภคก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเริ่มจากทำให้เกิด Hooked Loop เพื่อสร้างฐานผู้ใช้งานให้กับตัวผลิตภัณฑ์ และต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ 3 ข้อ ที่เรียกว่า GEMs ได้แก่ 1. Growth ศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ 2. Engagement ความผูกพันระหว่างผลิตภัณฑ์กับผู้ใช้งาน และ 3. Monetization รายได้ที่มาจากผลิตภัณฑ์

e201

ฉบับที่ 201 เดือนกันยายน

เป้าหมายของ StartUp และการเลือก Exit

“ผมรู้สึกว่าสตาร์ทอัพจะมีบางอย่างที่เหมือนกันคือ ทัศนคติที่อยากจะเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตของคน และคิดจะทำในสิ่งที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ลองนึกถึงวันที่ Facebook, Twitter, Instagram ให้บริการวันแรก ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมต้องใช้มัน เพราะทุกคนเคยใช้แต่ SMS แต่เมื่อได้ลองใช้ก็ไม่สามารถขาดมันได้อีก คนที่คิดทำแอพพลิเคชั่นแบบนี้ย่อมต้องมีความกล้ารวมกับความบ้าด้วย ส่วนเรื่องของการประสบความสำเร็จต้องมีแผนที่ดี สามารถลองผิดลองถูกได้หลายครั้ง แต่ต้องนำไปปรับใช้ให้ถูกจุด”

การตลาดแบบต้นทุนต่ำ เพื่อความสัมพันธ์กับผู้บริโภค
Jon Yongfook Cockle (จอน ยังฟุค) ผู้ก่อตั้ง Beatrix ที่ให้บริการซอฟต์แวร์ธุรกิจ (SaaS) ด้าน Social Media Content Marketing และผู้แต่งหนังสือ Growth Hacking Deck ทฤษฎีการทำการตลาดแบบต้นทุนต่ำ ประเด็นแรกก่อนเริ่มทำการตลาดผู้ประกอบการต้องมั่นใจในคุณภาพของผลงาน และอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในด้านการขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยปัจจุบัน มีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในการเพิ่มลูกค้า เช่น เฟซบุ๊กแฟนเพจ เว็บไซต์ และการฝากร้านในอินสตาแกรม ซึ่งช่องทางเหล่านี้ไม่ต้องเสียเงิน รวมไปถึงอีเมลมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งหลายคนบอกว่าเป็นวิธีการที่ล้าสมัย

“โดยสำหรับผมมองว่า ผลตอบแทนที่ได้กลับมาคุ้มค่า แต่ทั้งนี้การส่งอีเมลหาลูกค้าก็ต้องทำแบบมีเทคนิค โดยลูกค้าใหม่อาจจะส่งอีเมลแบบหนึ่ง และหากเป็นลูกค้าที่เคยใช้บริการแล้วก็ส่งอีเมลอีกแบบ เพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญจนทำให้เสียลูกค้าไป เพราะการรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ย่อมดีกว่าการที่ต้องหาลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย และมีต้นทุนที่สูงกว่า จึงควรสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”

จอน ยังฟุค  ผู้ก่อตั้ง Beatrix ที่ให้บริการซอฟต์แวร์ธุรกิจ (SaaS)

จอน ยังฟุค ผู้ก่อตั้ง Beatrix ที่ให้บริการซอฟต์แวร์ธุรกิจ (SaaS)

บิล ไรย์ชาร์ด หุ้นส่วนบริษัท Garage Technology Venture

บิล ไรย์ชาร์ด หุ้นส่วนบริษัท Garage Technology Venture

โดยนอกจากเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียแล้ว Blog ก็เป็นอีกช่องทางที่บรรดาสตาร์ทอัพควรมีไว้ เพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สำหรับวิธีการทำ Lifecycle Market ให้เกิดความประทับใจคือ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น การส่ง E-mail หาลูกค้า ต้องมีการติดต่ออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์กับตัวธุรกิจ ความคิดที่ว่า การมีลูกค้าจำนวนน้อยแต่ไม่มีภาระค่าธรรมเนียมจากการลงทุนใดๆ เป็นการสร้างกำไรให้กับธุรกิจได้มากกว่า การมีลูกค้าจำนวนมากแต่เต็มไปด้วยค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ

ใช้ศักยภาพที่มีในการดึงดูดเงินลงทุน
Bill Reichert (บิล ไรย์ชาร์ด) หุ้นส่วนบริษัท Garage Technology Venture ร่วมกับ Guy Kawasaki ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในโลกของสตาร์ทอัพที่ Silicon Valley ซึ่งเป็นทั้งนักการตลาดสำหรับบริษัทเทคโนโลยีและนวัตกรรม และนักลงทุน Venture Capitalist กล่าวว่า ธุรกิจสตาร์ทอัพที่จะประสบความสำเร็จมีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจที่สามารถอยู่รอดได้นั้นต้องมีศักยภาพที่ดี สามารถซื้อใจได้ตั้งแต่ผู้ลงทุนไปจนถึงลูกค้า

“ในมุมมองของผู้ลงทุน สิ่งแรกที่ผู้ประกอบการต้องมีคือ ทีมเวิร์ก เพราะทำธุรกิจแบบสตาร์ทอัพต้องให้ระยะเวลา มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะประสบความสำเร็จ จากนั้นเริ่มต้นคิดแบบ Think Global ตั้งแต่วันแรกที่ทำธุรกิจ เพราะการวางแผนระยะไกลจะทำให้มีความพร้อมมากกว่าการพัฒนาเป็นลำดับ และสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ผู้ลงทุนมองหาจากสตาร์ทอัพคือ ข้อได้เปรียบทางธุรกิจแบบที่คู่แข่งในตลาดยังไม่มีการให้บริการ หรือผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมานั้นยากที่จะถูกลอกเลียน แต่อย่างไรก็ตาม การมีข้อได้เปรียบทางธุรกิจไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป ต้องอาศัยปัจจัยอื่นประกอบไปด้วย เช่น สภาพความพร้อมของตลาด ณ ขณะนั้นด้วย”

การเติบโตของสตาร์ทอัพไทย
ธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทยยังอยู่ในช่วงของการเริ่มต้น ซึ่งได้รับความนิยมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลายส่วนงานในประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนหันมาให้ความสนใจกับธุรกิจประเภทนี้ โดยเห็นได้ชัดจากบริษัทยักษ์ใหญ่กันที่ให้กับบริษัทสตาร์ทอัพ มีการจัดโครงการสนับสนุนไอเดียใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อการก้าวเข้าสู่ดิจิตอลอีโคโนมีอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งได้รับเงินลงทุนจนประสบความสำเร็จ ส่งผลให้ให้เม็ดเงินการลงทุนสนับสนุนธุรกิจของประเทศไทยเติบโตไปอย่างก้าวกระโดด

อีโคซิสเต็มของไทยยังไม่ได้กว้างมากนัก การทำบิสสิเนสโมเดลก็ยังไม่ค่อยชัดเจน สิ่งที่คนไทยไม่ค่อยกล้าทำคือ การเรียกเก็บเงินจากการใช้บริการ เพราะกลัวว่าจะไม่มีผู้ใช้งาน ซึ่งในส่วนนี้จะสร้างรายได้และหลายประเทศนิยมทำตั้งแต่เริ่ม นอกจากนี้ เทรนด์ทั่วโลกยังอยู่ในช่วงปฏิวัติเทคโนโลยีสิ่งที่จำเป็นคือ ต้องทัน แล้วคิดรูปแบบให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันให้ได้มากที่สุด

 

You may be interested in

Latest post from Facebook

Related Posts

ธนาคารกรุงเทพรับสมัครสตาร์ตอัพ เข้าโครงการ Bangkok Bank InnoHub Season 2

ธนาคารกรุงเทพร่วมกับบริษัท Nest ที่มากด้วยประสบการณ์ด้านสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทค ค้นหาธุรกิจสตาร์ทอัพ 5 กลุ่ม …