C-Commerce ระบบการขายช่วย “ฟังเสียง” ลูกค้า
“Conversational Commerce” หรือ C-Commerce เป็นการผสมผสานระหว่างการขายผ่านหน้าเว็บไซต์ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ ร่วมกับ Human Touch ทีมขายที่สนทนากับลูกค้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย อาทิ Line@ และ Facebook Messenger
“Conversational Commerce” หรือ C-Commerce เป็นการผสมผสานระหว่างการขายผ่านหน้าเว็บไซต์ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ ร่วมกับ Human Touch ทีมขายที่สนทนากับลูกค้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย อาทิ Line@ และ Facebook Messenger
ต้องยอมรับว่าพัฒนาการทางเทคโนโลยีกำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตมนุษย์เข้าไปทุกที บางอย่างที่อาจจะเคยเห็นผ่านภาพยนตร์ก็ค่อยๆ ทยอยเป็นความจริงทีละอย่างสองอย่าง โดย 2 เทคโนโลยีที่ปัจจุบันกำลังเข้ามามีบทบาท สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตมนุษย์ได้หลากหลายคงหนีไม่พ้น VR ( Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality) กำลังได้รับการพัฒนามาใช้ในหลายด้าน ที่เห็นเป็นอย่างแรกๆ ก็คงจะเน้นไปในเรื่องของการเล่นเกม และส่วนอื่น เช่น ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
Startup นับว่าเป็นธุรกิจที่มาแรงมากในยุค 4.0 นี้ ที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีให้เกิดเป็นสินค้าและบริการสร้างสรรค์นวัตกรรมเข้ากับการทำธุรกิจ ทั้งยังส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ และเป็นส่วนช่วยสร้างกำลังคนทางด้านดิจิทัลรุ่นใหม่จำนวนมากที่จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาประเทศ
ในโลกของการลงทุน AI กำลังจะกลายมาเป็นผู้ช่วยคนใหม่สำหรับนักลงทุน จากโครงสร้างแบบเดิมที่เคยเต็มไปด้วยเทรดเดอร์ หรือนักวิเคราะห์การลงทุน มาเป็นศูนย์ที่ขับเคลื่อนด้วยหุ่นยนต์ พร้อมกับข้อมูล Big Data แล้วใช้ความฉลาด ในการเสาะแสวงหาเพิ่มโอกาสช่องทางการลงทุนที่ก่อให้เกิดผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ
ช่วงปลายปีหลายคนเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับเทรนด์ต่าง ๆ ในปีหน้า โดยเฉพาะในวงการของ E-Commerce เป็นเทรนด์ที่น่าจับตาทุกปี จากการคาดการณ์ ETDA ในปี 2017 ว่า E-Commerce ไทยจะมีมูลค่าอยู่ที่ 2,812,592.03 ล้านบาท อัตราส่วนการเติบโตอยู่ที่ 9.86% ต่อปี (2016-2017) เป็นแนวโน้มที่ขยับขึ้นต่อเนื่อง ตามพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์กำลังมาแรงและได้รับความนิยม
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงองค์กรธุรกิจ Digital Transformation โดยมีเทคโนโลยีเป็นปัจจัยหลัก เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรมก็มีผลกระทบของพายุดิจิทัล หรือ “Digital Vortex” ที่ต่างกัน จากการขยายตัวของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเกิดขึ้นของธุรกิจ Startup จำนวนมากที่มีเงินทุนแข็งแกร่ง และการเติบโตของธุรกิจยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น Alibaba และ Tencent
การผลิตคอนเทนต์แนวใหม่ในปัจจุบันกำลังจับจ้องไปที่เทรนด์ VR (Virtual Reality) มากขึ้น ที่สามารถปิดช่องว่างระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ เป็นการเล่าเรื่องในรูปแบบใหม่ เปิดประสบการณ์ไร้ขอบเขตของผู้ชมสามารถเข้าใจง่าย พูดได้เต็มปากว่า VR คือ Future of Content อนาคตของการเล่าเรื่อง ที่เติบโตอย่างสูงและรวดเร็วในตลาดโลก
ช่วงนี้จะได้เห็นการโปรโมท QR Payment กันอย่างดุเดือด ซึ่งแต่ละธนาคารต่างก็วางกลยุทธ์เชิญชวนให้ร้านค้ามาใช้ QR Code เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด ด้านฝั่งผู้ให้บริการบัตรเครดิต KTC เปิดให้บริการ QR Payment รองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตเป็นรายแรก
ลงทุนหลายคนวางแผนที่จะลงทุนใน LTF/RMF ในช่วงปลายปีมากขึ้น เพื่อบริหารภาษีและบริหารสภาพคล่อง แต่การซื้อกองทุน ไม่ได้มีแค่แง่มุมของการลดหย่อนภาษีเท่านั้น แต่มียังประเด็นของการลงทุน และความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวอีกด้วย ฉะนั้น การเข้าใจถึงความเสี่ยงของการลงทุน จึงช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนได้ยิ่งขึ้น
จากกระแสของอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง หรือที่เรียกกันว่า IoT ตั้งแต่โทรศัพท์ รถยนต์ หลอดไฟไปจนอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ และเครื่องวัดชีพจร ต่างทำงานได้ฉลาดเหมือนมีชีวิต ทางเดลล์ เทคโนโลยีส์ จึงเปิดแผนก IoT ขึ้นใหม่ รองรับเทรนด์ที่กำลังจะเติบโตในปีหน้า ทั้งจำนวนขององค์กรธุรกิจต่างๆ ให้ความสนใจมากขึ้น ที่อยากปฏิรูปธุรกิจของตนไปสู่ดิจิทัล
ปีนี้ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ต่างพากันปล่อยขบวนพาเหรดสมาร์ทโฟนที่เน้นไปที่ไร้ขอบ ทำให้หน้าจอสวยขึ้นและกว้างขึ้น ล่าสุด ทางแบรนด์จากจีนอย่าง เสี่ยวมี่ ได้ปล่อยจอไร้ขอบเช่นกันในงานแถลงเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น Mi MIX 2 โดยก่อนหน้านี้ออกสมาร์ทโฟน Mi 6 และ Redmi Note 4 พร้อมเปิด Authorized Mi Store ถึง 2 แห่งในกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาห่างกันเพียง 1 เดือน
ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนไปสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว ความคืบหน้าในการพัฒนาระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะ QR Payment หรือชำระเงินด้วย QR Code แบบมาตรฐานเดียว ที่จะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการชำระเงินไปอีกมิติ โดยต้องการเพิ่มยอดผู้ชำระเงินผ่านระบบอีเพย์เม้นต์ที่ขณะนี้มีอยู่เพียง 25 % เมื่อเทียบกับการใช้เงินสดอยู่ที่ 75 %
การแถลงข่าวในครั้งนี้ของแสนสิรินับว่าเป็นครั้งใหญ่ส่งท้ายปี กับตัวเลขลงทุน 80 ล้านดอลล่าร์ (2,650 ล้านบาท) ใน 6 ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ ที่ล้วนมีอัตราการเติบโตสูงในตลาดโลก เป็นการเดินหน้าโมเดลธุรกิจแบบ asset light ในยุคปฏิวัติดิจิทัล
This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.
Strictly Necessary Cookie should be enabled at all times so that we can save your preferences for cookie settings.
If you disable this cookie, we will not be able to save your preferences. This means that every time you visit this website you will need to enable or disable cookies again.