กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศศึกษาหามาตรการคุมเข้ม “StableCoin” (เงินคริปโตที่ผูกค่ากับค่าเงินของรัฐบาล เช่น USDT ) เพราะ StableCoin แพร่หลายใช้งานกันมากขึ้นอย่างรวดเร็วมาเป็นปีแล้ว จนมีผลกระทบกับเศรษฐกิจมากขึ้นถึงระดับค่อนข้างสำคัญ และรัฐควรกำกับดูแลมากขึ้น
ทั้งนี้ช่วงปีที่ผ่านมา เงิน StableCoin ถูกใช้กันทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าตัว และมีมูลค่ารวม 1.27 แสนล้านดอลลาร์ ( 4 ล้านล้านบาท) แล้ว โดยส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดผูกเข้ากับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
และแม้จะมีคำว่า stable อยู่ในชื่อเรียก แต่ stablecoin ก็มีความเสี่ยงหลายอย่าง เช่นความเสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบ, ความเสี่ยงที่อาจจะไม่สามารถดูแลมูลค่าให้ตรงกับค่าเงินที่ผูกอยู่ได้ เพราะอาจมีปัญหาเรื่องเงินทุนสำรอง, ฯลฯ
ตัวอย่างล่าสุดคือเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา ( 4 ธ.ค. 2021) ซึ่งมีข่าว บ. Evergrande ในจีนประกาศยกเลิกหุ้นกู้ (default) และมีข่าวลือว่าบริษัท Tether ที่ดูแลเงิน USDT อยู่นัั้นถือหุ้นกู้ของ Evergrande ไว้จำนวนมาก ทำให้ตลาดคริปโตปั่นป่วนไปตามๆกัน
ทั้งนี้กระทรวงการคลังสหรัฐฯเตรียมออกกฎหมายควบคุมดูแลเงินสำรองของหน่วยงานเจ้าของเงิน StableCoin และอาจเริ่มจำกัดกิจกรรมบางประเภท เช่นการปล่อยกู้ และจะจำกัดการใช้ข้อมูลลูกค้าด้วย
ข่าวจาก
home.treasury.gov/system/files/136/StableCoinReport_Nov1_508.pdf
ภาพจาก
thejingstock-com.medium.com/top-10-stablecoins-all-you-need-to-know-d1cb2fb70663ft.com/content/ca3aa122-e1f3-464a-8a78-032e0675c57a