Samsung Pay เปลี่ยนฮาร์ดแวร์เป็น เครื่องมือชำระเงิน

วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

Cash-less Society หรือการเข้าสู่สังคมไร้เงินสดกำลังเป็นกระแสเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ด้วยรูปแบบและวิธีการใหม่ๆ เป็นสิ่งที่เข้ามาช่วยตอบโจทย์ ทั้งในเรื่องความสะดวกสบายและความปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดหรือบัตรเครดิตไว้ในกระเป๋าสตางค์

สมาร์ทโฟนเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ถูกนำมาใช้สำหรับ การทำธุรกรรมทางการเงิน ส่วนใหญ่จะเน้นไปในรูปแบบของโมบายล์แอพพลิเคชั่นต่างๆ จากผู้ให้บริการ ทั้งที่เป็นธนาคาร โอเปอเรเตอร์ หรือฟินเทคสตาร์ทอัพ ล่าสุดผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอย่างซัมซุงก็ได้นำบริการ Samsung Pay มาให้คนไทยใช้ หลังจากที่ได้เปิดให้บริการไปแล้ว ในหลายประเทศทั่วโลก

Mobile Payment รูปแบบใหม่ ให้สมาร์ทโฟนเป็นมากกว่าแค่โทรศัพท์
วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า Samsung Pay ได้เปิดให้บริการแล้วในประเทศเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา จีน สเปน บราซิล เปอร์โตริโก ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการครบ 1 ปี มีการทำธุรกรรมผ่าน Samsung Pay สูงกว่า 100 ล้านครั้ง มีธนาคารและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกว่า 440 แห่ง และยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย Samsung Pay นั้นเป็นบริการชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนที่ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้กับร้านค้าทั่วไปที่มีเครื่องรูดบัตร EDC ด้วยบัตรเครดิต ผ่านระบบ Magnetic Secure Transmission (MST) และ Near Field Communication (NFC)

3

โดย MST คือ เทคโนโลยีที่ใช้ในการส่งผ่านข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยคลื่นแม่เหล็ก ซึ่งจะเลียนแบบแถบแม่เหล็กของบัตรเครดิต ด้วยการส่งคลื่นแม่เหล็กจากสมาร์ทโฟนของซัมซุงไปสู่เครื่องรับชำระเงิน ส่วน NFC คือ เทคโนโลยีที่ใช้ในการส่งผ่านข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยคลื่นวิทยุ ซึ่งทั้ง MST และ NFC เป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้งานในการทำธุรกรรมแบบ Contactless ได้อย่างปลอดภัย และจากข้อมูลล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ปัจจุบันมีเครื่องรูดบัตร EDC ในเมืองไทยราว 4 แสนเครื่อง โดยเป็นเครื่องที่รองรับระบบ MST ถึง 94 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 6 เปอร์เซ็นต์ เป็นเครื่องที่รองรับระบบ NFC ซึ่งแน่นอนว่าทุกเครื่องสามารถใช้บริการ Samsung ได้ทั้งหมด

“Samsung Pay ก็คือ Payment Platform โดยปกติเราจะใช้บัตรพลาสติกอย่างบัตรเครดิตไปรูดกับเครื่องรูดบัตร แต่ตอนนี้บัตรเหล่านั้นถูกนำไปใส่ไว้ในสมาร์ทโฟนของซัมซุง หรือการใช้สมาร์ทโฟนถือแทนบัตรเครดิต แล้วทำหน้าที่แทนบัตรพลาสติกเหมือนกับที่เคยทำ เพียงแต่ง่ายขึ้น สามารถใส่บัตรเครดิตได้มากสุดถึงจำนวน 10 ใบ เพราะบางคนอาจมีบัตรเครดิตจำนวนหลายใบ ทำให้สับสนในการใช้หรืออาจจะหาไม่เจอ แต่ตอนนี้บัตรเครดิตจะมารวมอยู่ในนี้ ทำให้ไม่ต้องพกบัตรหลายๆ ใบให้ยุ่งยาก”

ความปลอดภัย 3 ระดับ จากซอฟต์แวร์ไปจนถึงฮาร์ดแวร์
ในเรื่องของความปลอดภัยนั้น Samsung Pay ใช้ระบบ Tokenization, Secure Environment และ Samsung KNOX เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล โดย Tokenization จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงิน โดยการแปลงบัญชีข้อมูลส่วนบุคคลให้กลายเป็น Token แล้วจึงนำ Token ไปใช้ในการชำระเงินแทนการใช้ข้อมูลบัญชีส่วนตัวโดยตรง หมายเลขบัตรเครดิตจะถูกแทนที่ด้วย Device Card Number ส่วน Secure Environment จะทำการสแกนหรือตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าสมาร์ทโฟนนั้นมีความปลอดภัย และคอยควบคุมไม่ให้แอพพลิเคชั่นทั่วไปหรือมัลแวร์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนสูงได้ ขณะที่ Samsung KNOX เป็นชิปเซ็ตบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่จะระงับการใช้งานตัวอุปกรณ์อย่างถาวรโดยทันที เมื่อตรวจสอบได้ว่าเกิดความไม่ปลอดภัยเพื่อเป็นการปกป้องข้อมูล นอกจากนี้ในการทำธุรกรรมทางการเงินทุกครั้งจะมีการยืนยันตัวบุคคลด้วยการสแกนลายนิ้วมือ หรือการกรอกรหัส PIN 4 หลัก

ฉบับที่ 215 เดือนพฤศจิกายน

เจาะตลาดข้ามประเทศด้วยระบบส่งเงิน

“ปกติเวลาจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะต้องเซ็นชื่อ ซึ่งบางครั้งใครเอาไปใช้ แล้วปลอมแปลงลายเซ็นกันได้ แต่สำหรับ Samsung Pay ทำไม่ได้ เพราะต้องใช้การสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งเป็นเฉพาะแต่ละบุคคลเท่านั้น อีกทั้ง Samsung KNOX ที่เป็นชิปเซ็ต ถ้ามีการแฮกหรือเอามัลแวร์ใส่ลงไป ก็จะทำลายข้อมูลทุกอย่างที่อยู่ในนั้นทิ้ง หรือใครที่นำสมาร์ทโฟนไปรูทเครื่อง ก็ไม่สามารถใช้ Samsung Pay หรือฟีเจอร์อื่นๆ ที่ต้องใช้งานระบบ Samsung KNOX ได้ ทำได้เพียงแค่ใช้เป็นสมาร์ทโฟนปกติเท่านั้น ซึ่งในการธุรกรรมผ่าน Samsung Pay กว่า 100 ล้านครั้งที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีใครสามารถแฮกระบบได้”

นอกจากนี้ ซัมซุงจะไม่มีการเก็บข้อมูลใดๆ ทั้งข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลการชำระเงินไว้บนเซิร์ฟเวอร์หรือบนสมาร์ทโฟน โดยข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้งานจะถูกจัดการผ่านเครือข่ายของบัตรและธนาคารผู้ออกบัตร สมาร์ทโฟนจะทำการเก็บข้อมูล Token เฉพาะของอุปกรณ์นั้นๆ เท่านั้น ซึ่งหากโทรศัพท์สูญหายหรือถูกขโมยไป ก็ยังสามารถใช้บริการ Find My Mobile เพื่อล็อก Samsung Pay หรือลบข้อมูลทั้งหมดออกได้ แต่ถ้าเป็นในกรณีที่จะเปลี่ยนเครื่องสมาร์ทโฟน ก็จะต้องทำการลงทะเบียนบัตรทั้งหมดใหม่

5

 ใช้สมาร์ทโฟนถือแทนบัตรเครดิต แล้วทำหน้าที่แทนบัตรพลาสติกเหมือนกับที่เคยทำ เพียงแต่ง่ายขึ้น สามารถใส่บัตรเครดิตได้มากสุดถึงจำนวน 10 ใบ

เน้นเป็นตัวกลางที่เพิ่มความสะดวกไม่ปิดโอกาสการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์
ขณะนี้ Samsung Pay จะเริ่มต้นใช้งานได้บนสมาร์ทโฟนของซัมซุงในรุ่น Galaxy S7, Galaxy S7 edge, Galaxy S6 edge+, Galaxy A7 (2016), Galaxy A5 (2016) และ Galaxy Note 5 รวมถึงเครื่องเรือธงรุ่นใหม่ต่อจากนี้เป็นต้นไป โดยแอพพลิเคชั่นจะถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติผ่านการแจ้งเตือนการอัพเดต Firmware หรือ MR (Maintenance Release) ส่วนทางด้านบัตรเครดิตที่ใช้ได้ในปัจจุบันมีทั้งหมด 6 ธนาคารคือ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และซิตี้แบงค์ ซึ่งรองรับทั้งบัตรแบบ Visa และ MasterCard โดยที่ซัมซุงเองก็เน้นในการเป็นตัวกลางอีกช่องทางหนึ่ง ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น

02
01

เมื่อเปิดใช้งาน Samsung Pay ครั้งแรก จะต้องลงชื่อเข้าใช้ Samsung Account หากยังไม่มีก็สามารถสมัครได้ทันทีผ่าน Samsung Pay แอพพลิเคชั่น และสามารถลงทะเบียนบัตรเครดิตได้ด้วยการสแกนบัตร หรือกรอกข้อมูลบัตรได้ด้วยตัวเอง จากนั้น Samsung Pay จะแจ้งให้ยืนยันตัวตนผ่านทาง SMS หรือ Call Center ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร ส่วนวิธีการชำระเงินนั้น สามารถทำผ่านหน้าจอของสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่เปิดหน้าจอล็อกสกรีน แล้วลากนิ้วขึ้นที่หน้าจอก็จะเรียกบัตรเครดิตขึ้นมา จากนั้นทำการสแกนลายนิ้วมือ เพื่อยืนยันตัวตน แล้วนำสมาร์ทโฟนไปแตะที่เครื่องรูดบัตร ก็จะสามารถทำรายการชำระเงินได้ทันที

“เราเป็น Payment Platform เราเป็นแค่ทางผ่านที่สะดวกขึ้น และปลอดภัยขึ้น ซึ่งเงินธุรกรรมที่ผ่าน ก็ไม่ได้อยู่กับเรา ส่วนพาร์ตเนอร์จะมีขั้นตอนยังไงก็อยู่ที่รายละเอียด ซัมซุงยังเป็นแบรนด์ที่ขายสมาร์ทโฟนเหมือนเดิม แต่ถ้าใครอยากมี Payment Platform โดยมาบอกเราแล้วร่วมมือกัน ซึ่งเรื่องของหลังบ้านก็ต้องมาคุยกันว่า เทคโนโลยีสามารถเชื่อมต่อกันได้หรือไม่ เราทำเทคโนโลยีมาให้คนใช้ จำนวนครั้งเท่าไหร่อะไรยังไงเราไม่ได้ตั้งเป้า เราไม่ได้มีรายได้ที่เกิดจากทรานแซคชั่น เพราะเราให้ใช้ได้ฟรี”

2

บัตรเครดิตจะต้องเซ็นชื่อ ซึ่งปลอมแปลงลายเซ็นได้ แต่สำหรับ Samsung Pay ต้องใช้การสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งเป็นเฉพาะแต่ละบุคคลเท่านั้น อีกทั้งถ้ามีการแฮกระบบก็จะทำลายข้อมูลทุกอย่างที่อยู่ในนั้น

Apple Pay อีกหนึ่งบริการ Mobile Payment ที่รอโอกาสในอีกหลายประเทศ
สำหรับบริการของทางฝั่งแอปเปิล อย่าง Apple Pay ที่ได้เปิดให้ใช้มาแล้ว ประมาณ 2 ปีนั้น เป็นบริการชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนเช่นเดียวกันกับ Samsung Pay ซึ่งปัจจุบัน Apple Pay มีให้บริการแล้วใน 12 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ จีน ออสเตรเลีย แคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ฮ่องกง รัสเซีย สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น โดยเป้าหมายก็คือ การเปิดใช้ให้ได้ในทุกตลาดสำคัญทั่วโลก รองรับทั้งบัตร Visa, MasterCard และ American Express และสามารถใช้ได้บน iPhone 6/iPhone 6 Plus ขึ้นไป iPad Pro ทั้ง 2 รุ่น และ iPad mini รุ่นล่าสุด อีกทั้งยังรวมไปถึง Apple Watch การจ่ายเงินสามารถจ่ายได้โดยแตะนิ้วที่ Touch ID และนำตัวเครื่องไปแตะที่เครื่องรูดบัตร EDC ของร้านค้า นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ซื้อสินค้าบนเว็บไซต์บางแห่งได้ โดยที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ทั้ง iPhone, iPad ที่มี Touch ID หรือใช้ซื้อสินค้าบน Mac และใช้การยืนยันตัวตนผ่านอุปกรณ์ iOS แทน แต่จะสามารถใช้ได้ผ่านเบราว์เซอร์ของ Safari เท่านั้น

ถึงแม้ว่า Apple Pay ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปีที่ผ่านมา มียอดการทำรายการกว่าหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็ยังข้อจำกัดที่อาจเป็นปัญหาอยู่เช่นเดียวกันในอีกหลายประเทศ คือการเชื่อมต่อกับระบบของทางธนาคารในการเรียกตัดเงินผ่านบัตรเครดิต และสำหรับประเทศไทย ข้อจำกัดหลักๆ ที่เห็นได้ชัดของ Apple Pay คือ สามารถใช้งานผ่าน NFC เท่านั้น ซึ่งในเมืองไทยเครื่องรูดบัตร EDC ที่รองรับกับระบบ NFC ก็มีเพียงแค่ 6 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนทั้งหมดกว่า 4 แสนเครื่อง อีกทั้งในแต่ละการทำธุรกรรม แอปเปิลจะมีการคิดเงินส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมในแต่รายการ ราว 0.15 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่งของแอปเปิล แต่สำหรับ Samsung Pay นั้น ซัมซุงจะไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมใดๆ

You may be interested in

Latest post from Facebook

Related Posts

Jet.com ปรับใหญ่-สะท้อนเทรนด์เว็บช้อปปิ้งยุคนี้

เว็บช้อปปิ้ง Jet.com ปรับระบบใหม่ แสดงสินค้าต่างๆกันไปตามเมือง, ต่างกันไปตามหมวด เช่นหมวดเสื้อผ้าจะมีรูปและคลิปคนใส่จริง, และสับเปลี่ยนหน้าเว็บตามเวลากลางวัน-กลางคืนด้วย