คุณแม่นักปั้น สลิลรัตน์ วงศ์แก้วโพธิ์ทอง แจ้งเกิดลูกสู่วงการผ่านโซเชียลฯ

ช่องทางการติดต่อความเคลื่อนไหวระหว่างนักแสดงกับแฟนคลับที่ง่ายที่สุดคงจะหนีไม่พ้นโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่เข้ามาทำให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่สำหรับนักแสดงรุ่นเล็กต้องมีเบื้องหลังในการพูดคุยเป็นส่วนประกอบสำคัญ โดยเป็นผู้จัดการส่วนตัวหรือผู้ปกครองอย่างคุณแม่การ์ตูน-สลิลรัตน์ วงศ์แก้วโพธิ์ทอง นักธุรกิจสาว คุณแม่นักปั้นและผู้จัดการส่วนตัวของสองนักแสดงรุ่นเยาว์ น้องจัสติน จักริน และน้องเจนน่า จิรดา โมแรน ที่โด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ ก็ใช้ช่องทางเหล่านี้เป็นพื้นที่การพูดคุย รวมถึงแคสติ้งงานให้กับน้องทั้งสองคนด้วย

จุดเริ่มต้นการเป็นนักแสดงจากโซเชียลฯ

“จุดเริ่มต้นมาจากการเห็นว่า มีคนเอารูปของน้องจัสตินและเจนน่าไปโพสต์ตามเพจต่างๆ ในเฟซบุ๊ก จนเริ่มจะมีเพจปลอม เราจึงคิดว่าไหนๆ แล้วก็เริ่มมีเพจเกิดขึ้น เราก็ทำเองเลยดีกว่า เพื่อให้คนได้ติดตามลูกเรา และป้องกันว่าเพจอื่นๆ จะทำให้เราเสียหาย จนมีโมเดลลิ่งเข้ามาชวนไปแคสติ้งงาน และมีการติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ”

คุณแม่การ์ตูน เล่าว่า การลงรูปลูกเป็นเรื่องปกติที่คุณแม่ส่วนใหญ่ทำ ส่วนตัวเองเน้นลงรูปที่เป็นธรรมชาติของเด็ก น่ารักสมวัย เช่น การทำกิจกรรม และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งส่วนนี้น่าจะเป็นจุดทำให้มีคนสนใจ จากนั้นพอน้องทั้งสองเริ่มมีผลงาน ทำให้ผู้ติดตามมีเพิ่มขึ้น และเอเยนซี่ก็ติดต่อเข้ามาให้แคสงานต่างๆ มากขึ้นเช่นกัน

แต่เนื่องจากว่าทางครอบครัวอาศัยอยู่ที่นครสวรรค์ และงานส่วนใหญ่ที่ติดต่อมาจะอยู่ในกรุงเทพฯ ทำให้การเดินทางเพื่อแคสติ้งหลายๆ ครั้งเสียเวลาและกระทบกับการเรียนของน้อง คุณแม่นักปั้นจึงมีไอเดียการแคสติ้งผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อส่งเข้าแข่งขันกับนักแสดงเด็กคนอื่นๆ โดยคุณแม่การ์ตูนมีการจัดสถานที่สำหรับถ่ายคลิปวิดีโอไว้ที่บ้านเพื่อการแคสงานโดยเฉพาะ กระบวนการตัดต่อ ส่งเข้าสู่เอเยนซี่เธอทำด้วยตัวเองทั้งสิ้น สมกับเป็นคุณแม่นักปั้นตัวจริง

จากผลงานในประเทศสู่ความนิยมในเอเชีย
นอกจากงานในประเทศแล้วน้องจัสติน และเจนน่า ยังมีผลงานที่ต่างประเทศอย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนที่มีผู้ติดตามผลงานของน้องมากมาย

“วันหนึ่งก็มีคนส่งข้อความเข้ามาในเฟซบุ๊กว่า น้องเจนน่าดังมากในเมืองจีน เราเองก็ไม่ได้เชื่ออะไร เพราะว่าเราไม่ได้ติดตามข่าวสารอะไรมาก เขาบอกว่ามีนักเขียนชาวจีนที่มีชื่อเสียงเอารูปน้องไปแชร์ในทวิตเตอร์ และมีคนรีทวีต ต่อไปจำนวนมาก จนได้ลงไชน่าเดลี่ที่ดังมากๆ ของที่นั่น และมีคนจีนมาติดตามเรามากขึ้น รวมทั้งงานโชว์ตัว เดินแบบในต่างประเทศก็เข้ามามากขึ้นผ่านการติดต่อจากการสื่อสารออนไลน์”

		ฉบับที่ 201 เดือนกันยายน เป้าหมายของ StartUp และการเลือก Exit

ปรับตัวให้เข้ากับโซเชียลฯ ท้องถื่น
เมื่อมีแฟนคลับชาวจีนมาติดตามผลงานมากขึ้น ช่องทางการติดต่อกับแฟนคลับกลุ่มนี้จึงพัฒนาจากเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม สู่แอพพลิเคชั่นยอดนิยมในแผ่นดินใหญ่อย่าง Weibo และ Meipai ที่ปัจจุบันมีผู้ติดตามมากกว่า 4 แสนคน

โดยคุณแม่การ์ตูนพูดถึงการปรับตัวเพื่อติดต่อพูดคุยกับแฟนคลับว่า ช่องทางเหล่านี้ใหม่สำหรับเธอ และต้องใช้เวลาในการเรียนรู้การใช้งาน อย่าง Weibo เป็นโซเชียลมีเดียที่นิยมที่สุดในประเทศจีน ดารานักแสดงทุกคนใช้ช่องทางนี้เพื่อพูดคุย อัพรูป ให้กับเหล่าบรรดาแฟนคลับได้ติดตาม คล้ายๆ การใช้ทวิตเตอร์และอินสตาแกรมในบ้านเรา ส่วน Meipai เป็นแอพฯ สำหรับทำคลิปวีดีโอที่ได้รับความนิยมเช่นกัน

“ในหนึ่งวันเราก็ลงรูปลูกทุกช่องทางเลย อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก Meipai และ Weipo ส่วนหนึ่งตั้งใจเก็บเป็นพอร์ตไว้ให้กับทั้งสองคนด้วย เก็บไว้เป็นความทรงจำด้วย จนบางครั้งก็เกรงใจถ้าจะลงรูปคุณแม่ด้วย แต่ก็มีบ้างเพื่อความทั่วถึง ภาษาที่ใช้ก็เป็นภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจง่ายของหลายๆ ประเทศ”

ช่องทางเหล่านี้ใหม่สำหรับเธอ และต้องใช้เวลาในการเรียนรู้การใช้งาน อย่าง Weibo เป็นโซเชียลมีเดียที่นิยมที่สุดในประเทศจีน คล้ายๆ การใช้ทวิตเตอร์และอินสตาแกรมในบ้านเรา ส่วน Meipai เป็นแอพฯ สำหรับทำคลิปวีดีโอที่ได้รับความนิยมเช่นกัน

เทคนิคการเป็นคุณแม่นักแสดง
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากจะผลักดันให้ลูกเข้าสู่วงการบันเทิงนั้น ต้องดูถึงคาแร็กเตอร์เฉพาะตัวของเด็กแค่ละคน ความชอบ เพราะความสดใสและเป็นตัวเอง คือสิ่งสำคัญที่จะสะท้อนตัวตนออกมา และที่สำคัญก่อนจะให้ลูกได้เริ่มทำงาน ต้องถามความสมัครใจและรู้ว่าเหล่านี้จะทำให้ลูกของเรามีความสุขหรือไม่

อย่างน้องจัสติน และเจนน่า คุณแม่จะไม่ปฏิเสธโอกาส แต่ต้องไม่กระทบกับการใช้ชีวิตของลูก การแคสงานหนึ่งครั้ง เท่ากับการทำงาน จะได้งานหรือไม่ได้ไม่เป็นไร และจะได้รับของรางวัลที่ราคาเหมาะสม 1 ชิ้นต่องาน ซึ่งเป็นเทคนิคการหลอกล่อใจที่ใช้ได้ผลกับบรรดาเด็กๆ

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ
ด้วยความเป็นนักแสดงเด็กที่มีชื่อเสียง หน้าตาน่ารัก ทำให้ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ คุณแม่การ์ตูนใช้วิธีการป้องกันอย่างรัดกุม อย่างการพูดคุยผ่านโซเชียลฯ จะไม่ได้มีความสนิทสนมกับใครคนใดเป็นพิเศษ หากต้องการมาหาตามงาน ต้องดูความสะดวกและปัจจัยในความปลอดภัยด้วย และโดยเฉพาะการเช็กอินบอกตำแหน่งว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน เป็นช่องทางหนึ่งที่จะทำให้มีผู้ไม่ประสงค์ดีแฝงตัวเข้ามา คุณแม่การ์ตูนจึงใช้วิธีเช็กอิน ภายหลังการออกมาจากสถานที่นั้นๆ เพื่อป้องกันการติดตาม หรือในเวลาที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศจะแจ้งแฟนคลับว่าไม่ค่อยสะดวกเจอ เพราะไม่รู้ถึงเจตนาของคนที่เข้ามา งานแฟนมีตติ้งคงไม่มีการจัด เพราะมีเวลาน้อย และไม่อยากให้ใครเข้ามาถึงตัวน้องได้

สุดท้ายนี้ แม่นักปั้น ยังฝากบอกว่าถึงวงการบันเทิงจะดูเป็นช่องทางการประสบความสำเร็จที่ง่ายดาย แต่ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เพราะด้วยความเป็นเด็ก เวลาเรียนหนังสือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การทำงานในวงการพร้อมกับการเรียนเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ดังนั้นต้องถามถึงความสมัครใจและความพร้อมของทั้งตัวเองและลูกเพื่อความสุขของทั้งสองฝ่าย