หลายคนอาจต้องเผชิญกับแสงแดดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่การปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอที่ทำให้มั่นใจได้ว่า ผิวของเราได้รับการปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากปัญหาดังกล่าว ทำให้ เค็กโกะ มัตตา ผู้บริหารบริษัท Global Exim Co.,Ltd มองเห็นช่องทางธุรกิจ จึงได้นำ สมาร์ทซัน ยูวี อินดิเคเตอร์ ริสต์แบนด์ (Smartsun UV Indicator Wristband) หรือ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ใช้รู้ถึงปริมาณรังสียูวีที่ได้รับในแต่ละวัน ด้วยแถบสีที่ง่ายต่อความเข้าใจ
จุดเริ่มต้นของธุรกิจ
เค็กโกะ เล่าย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความคิดในการนำสายรัดข้อมือสมาร์ทซัน เข้ามาวางจำหน่ายที่ประเทศไทย โดยขณะนั้น เธอมีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตส ด้วยความที่ต้องเดินทางบ่อยครั้ง ทำให้เธอได้พบกับสายรัดข้อมือนี้ที่ร้านขายยาแห่งหนึ่ง ในประเทศสวีเดน ซึ่งความชอบในการทดลองสินค้าใหม่ๆ ประกอบกับความชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งและการออกกำลังกาย ทำให้เธอมีโอกาสทดลองใช้สายรัดข้อมือนี้ด้วยตนเอง และจากประสบการณ์การใช้งานครั้งนั้นทำให้เธอประทับใจในตัวสินค้า
“ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีอากาศค่อนข้างร้อน และอยู่ในรังสียูวีตลอดเวลา จึงมองว่าสินค้าชนิดนี้จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย เนื่องจากสามารถสวมใส่ได้ทั้งในการท่องเที่ยว และในชีวิตประจำวัน”
สมาร์ทซัน ตัวช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
ตัวผลิตภัณฑ์นี้ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังชั้นนำในประเทศอังกฤษ และผ่านการรับรองโดยรัฐบาลในประเทศสวีเดน ออสเตรเลีย และนอร์เวย์ ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานและความปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว จึงเป็นที่นิยมมากในกลุ่มแม่และเด็ก เพื่อให้ผู้ปกครองทราบว่า ลูกของตนทำกิจกรรมที่โดนแดดไปมาก-น้อยเท่าไร รวมถึงยังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้งและการเล่นกีฬาอีกด้วย
![]() |
ฉบับที่ 199 เดือนกรกฏาคมYouTuber นักสร้างสรรค์โฆษณาดิจิตอล |
ตัวริสต์แบนด์ถูกออกแบบเพื่อการใช้ในแต่ละวัน ทั้งนี้เมื่อได้รับรังสียูวี ริสต์แบนด์จะเปลี่ยนสีจากสีเหลืองเป็นสีครีม ไปจนถึงระดับสีชมพู ที่เตือนว่าได้รับรังสียูวีเพียงพอแล้ว ซึ่งหากมากเกินไปจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผิวไหม้เสีย ริ้วรอยก่อนวัย และยังอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ข้อแตกต่างจากตัววัดรังสียูวีอื่นๆ หรือแม้กระทั่งแอพพลิเคชั่นวัดรังสียูวีในสมาร์ทโฟน คือ ผิวของริสต์แบนด์ที่เคลือบด้วยแผ่นฟิล์มนั้น สามารถทาครีมกันแดดลงทับได้ อีกทั้งยังสามารถใส่ลงน้ำได้โดยไม่หลุดลอกด้วย
“การทาครีมกันแดดไม่ได้หมายความว่า ผิวของคุณจะไม่ดำ เพียงแต่มันจะช่วยป้องกันรังสียูวีในระดับหนึ่งตามค่า SPF จากนั้นจะต้องมีการทาซ้ำ เพื่อให้ประสิทธิภาพของครีมกันแดดทำงานได้อย่างเต็มที่”
มุ่งสร้างการรับรู้ เพื่อเข้าถึงตลาดเป้าหมาย
สมาร์ทซัน มีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ที่ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทันทีบนเว็บไซต์ Smartsun-th.com รวมถึงที่ Lazada และ Moxyst นอกจากนี้ยังวางจำหน่ายที่ร้าน Lashes, Lab pharmacy ซึ่งเค็กโกะมองว่า การที่สินค้ามีวางจำหน่ายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามียอดสั่งซื้อสินค้าจากทั้งสองช่องทางแบบครึ่งต่อครึ่ง โดยที่ส่วนหนึ่งของยอดขายมาจากการผู้สั่งซื้อในต่างจังหวัด
นอกจากนี้ ในช่วงแรกของการทำธุรกิจ นอกจากการทำการตลาดบนเว็บไซต์แล้ว เธอได้ทดลองใช้ Facebook Ad ตามคำแนะนำของเพื่อนในแวดวงธุรกิจ ทำให้ในช่วงแรกมียอดผู้ติดตามเฟซบุ๊กเพิ่มมากขึ้น แต่กลับประสบปัญหาที่ ไม่สามารถทำให้ยอดผู้ซื้อเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และจากปัญหาดังกล่าว ทำให้เค็กโกะได้เรียนรู้ถึงการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น
เมื่อยอดสั่งซื้อไม่เพิ่มขึ้น เราต้องปรับเปลี่ยนวิธีการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย สำหรับการลงโฆษณาบนเฟซบุ๊กให้เฉพาะกลุ่มมากขึ้น ประกอบกับการให้บริษัทพีอาร์ เข้ามามีส่วนช่วยในการทำการตลาดออนไลน์
“เนื่องจากสินค้าเรายังใหม่ ไม่เป็นที่รู้จัก ขณะที่ตัวสินค้าเอง ต้องอาศัยการให้ข้อมูลที่ค่อนข้างเยอะ เมื่อประสบปัญหายอดสั่งซื้อไม่เพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนวิธีการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย สำหรับการลงโฆษณาบนเฟซบุ๊กให้เฉพาะกลุ่มมากขึ้น รวมไปถึงการสร้างโพสต์ที่ให้ข้อมูลของสินค้า ประกอบกับการให้บริษัทพีอาร์ เข้ามามีส่วนช่วยในการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น”
ก้าวต่อไปของสมาร์ทซัน
ผู้บริหารสาวมองว่า ร้านค้าออนไลน์ที่ดีนั้น ควรมีข้อมูลที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภค รวมถึงมีระบบการจ่ายเงินที่ดีผู้บริโภควางใจได้ นอกจากนี้ควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ด้วยการให้ข้อมูลช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน รวมไปถึงการอัพเดตความเคลื่อนไหวของสินค้าอยู่เสมอๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้อย่างต่อเนื่อง
“ก้าวต่อไปของเรา จะเน้นการสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคเพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยใช้ช่องทางที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชั่นต่างๆ อาทิ จัดกิจกรรมแจกสินค้าทดลองใช้ ในกลุ่มแม่และเด็ก การออกโปรโมชั่นลดราคาสินค้าเมื่อซื้อควบคู่กับครีมกันแดด เป็นต้น รวมไปถึงการวางแผนที่จะนำสมาร์ทซัน ในรูปแบบของสติ๊กเกอร์ เข้ามาจัดจำหน่ายเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคอีกทาง”
แม้ว่าขณะนี้ สมาร์ทซัน จะยังไม่เป็นที่รู้จักในตลาดมากนัก แต่เค็กโกะเชื่อว่า การสร้างการรับรู้และความเข้าใจในตัวสินค้าที่ดี คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของเธอนั้นเติบโตได้อย่างแข็งแรง ซึ่งในอนาคตเธอได้ตั้งเป้าหมายที่จะมียอดจำหน่ายสินค้า 1 ล้านเส้นต่อเดือน เช่นเดียวกับยอดขายของสมาร์ทซันที่อเมริกา รวมไปถึงขยายตลาดไปยังประเทศใกล้เคียงอีกด้วย